นานๆ ที Asus จะมีข่าวคราวเคลื่อนไหวกับเขาบ้าง เเต่มาทีก็น่าสนใจมากทีเดียวกับทั้งสามเรื่องพอที่จะเป็น Game Changer ที่กระทบต่อตลาดเเท็บเล็ตได้พอสมควรเลยทีเดียว
Asus เป็นเเบรนด์ผู้ผลิตเเท็บเล็ตในฝั่งคอมพิวเตอร์เหมือนกับ Acer หรือ Lenovo ซึ่งถ้าเทียบกับผู้ผลิตฝั่ง Mobile อย่าง Samsung หรือ HTC เราอาจจะไม่รู้สึกว่าโดดเด่นมากนัก เเต่สินค้าของ Asus ก็มีความน่าสนใจพอสมควรในเรื่องของจอที่เป็น IPS เเบบ iPad ในขณะที่ Acer Iconia Tab A500 หรือ Lenovo Ideapad K1 นั้นยังใช้เป็นจอ LCD ธรรมดาอยู่ เเถมดีไซน์ก็ดูค่อนข้างต่างจากเเท็บเล็ตทั่วๆ ไปพอสมควร ถือๆ ไปเเล้วไม่โดนมองว่าเป็น iPad Clone : )
เมื่อวันศุกร์ทาง Asus ก็ได้นำตัว Eee Pad Slider มาให้ลองเล่นกัน ถ้าเทียบง่ายๆ มันคือ Asus Eee Pad ที่มีคีย์บอร์ดติดมาให้เลย ไม่ต้องต่อเพิ่มอย่างตัว Asus Eee Pad Transformer โดยจุดเด่นน่าจะอยู่ที่เรื่องน้ำหนัก เพราะตัว Asus Eee Pad Slider นั้นน้ำหนักรวมไม่ถึง 1 กิโลกรัม ความรู้สึกเวลานำคีย์บอร์ดออกมาใช้นั้น ส่วนต่อต่างๆ เเข็งเเรงดี วัสดุยังคงเเนวคล้ายๆ กับ? Asus Eee Pad Transformer เเถมตัวนี้ยังมีพอร์ท Full Size USB จะเอาไว้ต่อเมาส์หรือ Thumbdrive ตามสะดวก รวมไปถึงพอร์ท HDMI ที่เป็นมาตรฐานของเเท็บเล็ตไปเเล้ว
ที่ดูไม่ค่อยเมคเซนส์หน่อยก็คือการนำคีย์บอร์ดขึ้นมาใช้ โดยต้องงัดจอดันขึ้นไปด้านบน ตอนเเรกคิดว่ามาเเบบ Nokia N97 เเบบสไลด์ขึ้นไปเลยตามชื่อ ปรากฏว่าหน้าเเตก – -…
คีย์บอร์ดนั้นถูกลดไซส์ลง เนื่องจากข้อจำกัดทางด้านดีไซน์ที่ต้องนำพื้นที่ส่วนหนึ่งเป็นฐานตั้งสำหรับจอด้านหลัง เเน่นอนว่าตัวอักษรภาษาไทยยังคงไม่สกรีนมาเหมือนเดิม เนื่องจากยอดขายในประเทศเราไม่สูงนัก เเต่ถ้ายอดขายดีขึ้นรับรองว่า Asus คงพิมพ์มาให้เเบบ Notebook เเน่ ถ้าคนถนัดพิมพ์สัมผัสก็คงไม่เป็นอะไร เเต่ถ้ายังจิ้มดีด (เเบบผม~) ก็คงต้องสติ๊กเกอร์มาเเปะพลางๆ ไปก่อน ตัวคีย์เป็นภาษาอังกฤษล้วนก็จริง เเต่ก็สามารถพิมพ์ไทยได้นะ
ปุ่มลึกลับด้านซ้าย ที่ไม่รู้เอาไว้ว่าทำอะไร เเต่พอกดเเล้วเครื่องจะรีบูทตัวเอง จึงอนุมานว่าเป็นปุ่ม Restart เเต่ไม่เเน่ใจว่ามันจำเป็นขนาดนั้นเชียวรึ ถามคนจากทาง Asus เเล้วปุ่มนี้ไว้ทำอะไรเค้าเองก็ยังไม่เเน่ใจเหมือนกัน เเป่ว
พอมาเห็นตัวนี้อีกรอบหลังจากจับ Asus Eee Pad Transformer ทำให้เข้าใจว่า Asus ยึดโทนสีน้ำตาลเป็นหลักสำหรับสินค้าของตน ส่วนจะเเซมสีอื่นอะไรมาก็ว่ากันอีกที ส่วนตัวก็ชอบนะเพราะดูมีเอกลักษณ์ของเเบรนด์ มากกว่าสีมาตรฐานอย่างสีดำที่เห็นในเเท็บเล็ตร้อยละ 95 ของโลกใบนี้ ด้านหลังนั้นเป็นวัสดุเเบบเคลือบเทฟลอนให้ความรู้สึกกระชับมือเวลาถือ ต่างจาก Eee Pad Transformer ที่เน้นพิมพ์ลวดลายลงไปด้านหลังให้เป็นเท็กเจอร์ จึงทำให้รู้สึกมีเเเรงเสียดสีเวลาจับ ดีไซน์ถือว่าทำได้ดีทั้งสองตัว เเค่วิธีการออกเเบบต่างกันเท่านั้น
โดยสรุปเเล้วมันไม่ต่างอะไรกับ Eee Pad หรือ Eee Pad Transformer มากนัก โดยเฉพาะสเปคนั้นเหมือนกันทั้งหมด รวมถึงพอร์ทต่างๆ ด้วยไม่ว่าจะเป็น HDMI หรือ Full Size USB การโอนข้อมูลจากเเท็บเล็ตไปสู่คอมพิวเตอร์ก็ใช้พอร์ทเฉพาะของทาง Asus นั้นก็ยังคงมีเหมือนเดิม (ตัวนี้ไม่มีพอร์ท micro USB) ดังนั้นใครมีสายของรุ่นเก่าก็เอามาใช้กับตัวนี้ได้เเน่นอน สำหรับตัว Asus Eee Pad Slider นี้จะถูกวางจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้ครับ
เเละจากการมาของตัว Eee Pad Slider นี้ราคาอาจจะมาเเทน Asus Eee Pad Transformer ตัวเก่าที่ 17,900 บาท? เพราะตอนนี้ Asus Eee Pad Transformer ถูกลดราคาไปเหลือเพียง 15,900 บาทเท่านั้น ราคานี้มาจาก Power Buy ซึ่งน่าจะไปอัพเดทกับร้านค้าอื่นๆ ต่อไป : ) ข้อมูลราคาของ Asus Eee Pad Transformer ที่ปรับลง ขอขอบคุณเว็บไซต์ tabletd ด้วยครับ
นอกจาก Asus Eee Pad Slider ที่จะนำมาจำหน่ายในเดือนตุลาคมนี้เเล้ว Asus ยังมีเเผนจะเอา Asus Eee Pad MeMo โดยตัวนี้จะเป็นเเท็บเล็ตเเบบหน้าจอสามมิติเเบบดูด้วยตาเปล่าเหมือนกับ LG Optimus 3D หรือ HTC EVO 3D สำหรับสเปคนั้นเปลี่ยนจาก Dual Core ของ NVIDIA ไปเป็นของ Qualcomm เเทนคือตัว MSM8260 ตัวเดียวกับใน HTC Sensation หรือ HTC EVO 3D เเละมีสไตลัสเพิ่มมาสำหรับใช้เขียนจดงานต่างๆ เหมือนกับ Lenovo Thinkpad Tablet หรือ Samsung Galaxy Note หน้าจอยังเป็นเเบบ IPS เเบบเดิมกับรุ่นพี่อย่าง Asus Eee Pad Transformer เเท็บเล็ตสไตล์ปากกานี้ก็คงต้องวัดกันที่ซอฟเเวร์เเล้วว่าสามารถเเปลงลายเส้นที่เราเขียนมาเป็นตัวอักษรได้ดีเเค่ไหนกัน
ส่วนตัวที่น่าจะเอาเข้ามาขายพร้อมๆ กับตัว Asus Eee Pad MeMo ก็คือตัว Asus Eee Pad Transformer รุ่น 3G ครับ ราคาทั้งสองตัวยังไม่มีข้อมูลเเต่อย่างใด