หลังจากที่ Apple เปิดตัว iPad Air 2 และ iPad Mini 3 ไปนั้น สื่อหลายๆเจ้าในต่างประเทศก็ได้รับเครื่องไปรีวิวกันบ้างแล้ว วันนี้เราได้รวบรวมความคิดเห็นสั้นๆจากหลายๆสื่อมาให้ได้ดูกันว่า มันคุ้มค่าที่จะซื้อหรือไม่
Walt Mossberg จาก Re/code
หลังจากที่เขาได้ลองทดลองเล่นพวกมันมากว่า 4 วัน คิดว่าหลายๆคนคงนึกว่ามันน่าสนใจมาก แต่สำหรับเขามันเฉยๆมาก เพราะเมื่อเทียบกับการเปลี่ยนแปลงของ iPad Air และ iPad Mini สร้างไว้เมื่อปีที่แล้วนั้น ที่ตอนนั้นถือเป็นปรากฎการเลยทีเดียว การเปลี่ยนแปลงแค่เล็กน้อยในครั้งนี้แทบไม่ดึงดูดเลยด้วยซ้ำ น้ำหนักที่น้อยลงเพียงเล็กน้อยแทบไม่ส่งผลใดๆเลย ยิ่งเรื่องความหนาของเครื่องที่หายไปเพียงแค่ระดับมิลลิเมตร อาจจะรู้สึกบ้าง แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น
Nilay Patel จาก The Verge
เมื่อพูดถึงหน้าจอที่ทาง Apple บอกว่ามีการเคลือบหน้าจอแบบใหม่เพื่อลดแสงสะท้อนได้มากกว่ากว่า 56% เทียบกับของเดิม ซึ่งเมื่อนำมาใช้งานจริงก็ไม่ได้แตกต่างกันจนเหนได้ชัด แล้วสุดท้ายก็ยังใช้กลางแดดไม่ไหวอยู่ดี สำหรับชิป A8X นั้น ก็ไม่ได้ต่างอะไรมากนักในการใช้จริงเมื่อเทียบกับ iPhone 6 หรือ iPhone 6 Plus แต่เมื่อเทียบกับ iPad Air ตัวก่อน มันก็ดูเหมือนจะเปิดเว็บกับเปิดแอพพลิเคชั่นได้เร็วขึ้น ละด้วยหน่วยความจำด้านกราฟฟิคที่สูงขึ้น อาจจะส่งผลให้สามารถพัฒนาเกมได้ดีขึ้น แต่ตอนนี้ก็ต้องรอดูไปก่อน เพราะมันยังไม่ส่งผลใดๆมากนัก
Darrell Etherington จาก TechCrunch
ด้วยความบางถึง 6.1 มม. ที่ถือเป็นจุดแตกต่างที่สุดของ iPad Air ช่วยให้ถือและใช้งานระยะยาวได้ดีขึ้น และเมื่อพูดถึงเรื่องของสีที่เราได้รับมานั่นคือเครื่องสีทอง ต้องถือว่าทาง Apple ยังคงทำได้ดี ออกมาได้สวยงามและดูดีมีราคาทีเดียว
Brad Molen จาก Engadget
จากที่ iPad Air 2 นั้นมีความหนาที่ลดลง ทำให้น่าจะมีขนาดแบตเตอรี่ที่เล็กลงด้วย ซึ่งส่งผลให้อายุการใช้งานน่าจะลดลงด้วย แต่ทาง Apple ก็ออกมายืนยันว่ามันจะไม่ลดลงแน่นอน
จากการใช้งานจริงพบว่าการใช้งานทั่วไปนั้นยังสามารถทำได้ดี ไม่ต่างจากเดิม แต่เมื่อใช้งานหนักๆจะพบว่า ระยะเวลาการใช้งานลดลงไปกว่าหนึ่งชั่วโมงเลยทีเดียว
แถมสวิตส์ด้านข้างที่หายไปก็ทำให้ความสะดวกสบายลดลงไปพอสมควรเลยทีเดียว ซึ่งในตอนแรกก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นผลเสียมากนัก แต่พอใช้งานจริง กลับพบว่าขาดความสะดวกสบายมากขึ้นทีเดียว
Joanna Stern จาก The Wall Street Journal
ด้วยหน้าจอที่ลดแสงสะท้อนได้มากขึ้นทำให้การใช้งานกลางแจ้งดีขึ้นตามไปด้วย และด้วยกล้องหลังที่มีความละเอียดถึง 8 ล้านพิกเซล ทำให้การถ่ายรูปทำได้ดีกว่าเก่ามากอย่างเห็นได้ชัด แต่แน่นอนการพกพาก็ยังคงสู้ iPhone ไม่ได้อยู่ดี ผมคงไม่เอา iPad ขึ้นไปถ่ายรูปบนยอดเขาเหมือนกับที่มีในโฆษณาหรอก
Harry McCracken จาก Fast Company
จุดที่สำคัญที่สุดที่มาในการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้นั่นก็คือการมาของแรมขนาด 2 GB ที่ทาง Apple ไม่ยอมประกาศออกมานั้น ถือว่าเป็นข้อดีที่สุดเลยก็ว่าได้ สำหรับการใช้งานที่ลื่นไหลขึ้นและสามารถเก็บข้อมูลได้มากขึ้น เวลาเข้าเว็บจะได้ไม่ต้องโหลดหน่าใหม่ทุกรอบเหมือนที่เคยเป็นมา และทำให้การสลับไปมาระหว่างแอพพลิเคชั่นทำได้ลื่นไหลมากขึ้น
Lance Ulanoff จาก Mashable
จากการลองเล่นเกมที่กินสเปคสูงๆอย่าง Asphalt 8 : Airborne และ Modern Combat 5 : Blackout พบว่าสามารถเล่นได้ดีและได้ภาพที่สวยงามไม่ต่างจากที่มีใน iPad Air ตัวก่อน ซึ่งยังมงไม่เห็นถึงความแตกต่างที่ได้รับมา
แต่เมื่อลองทดสอบด้วย Geekbench 3 พบว่าใน iPad Air 2 ที่ใช้ A8X นั้นมีจำนวนคอร์ถึง 3 คอร์ด้วยกันซึ่งมากกว่าใน iPad Air ตัวเดิมที่มีแค่ 2 คอร์เท่านั้น ทำให้คะแนนในส่วนของ Multi core iPad Air 2 ชนะไปอย่างชัดเจน แต่ในขณะที่คะแนนทางฝั่ง Single core ก็นำหน้าไม่เยอะนัก
จะเห็นได้ว่าเกือบทุกทีเลยจะพูดถึงประเด็นเดียวกันเกือบหมดคือความเปลี่ยนแปลงต่างๆใน iPad Air 2 นั้นไม่ได้ส่งผลมากมายนัก อย่างที่เคยคาดหวังเอาไว้ ซึ่งแน่นอนว่าถ้าใครใช้ iPad Air ตัวก่อนอยู่แล้วพูดกันตามตรง คงยังไม่ถึงเวลาที่คุณต้องเปลี่ยนหรอกครับ รอไปก่อน แต่ถ้ายังไม่มีหล่ะก็ จัด iPad Air 2 ไปเลยไม่ต้องคิดมากครับ
ที่มา : MacRumors
