ใกล้จะถึงสิ้นปีกันอีกแล้ว หลายคนก็เริ่มวางแผนกลับบ้านกันแล้ว บางคนอาจจะไม่ได้ไปไหน ยังอยู่ในกทม. หรืออยู่ที่บ้านตัวเองเหมือนเดิม แต่ไม่ว่าจะไปไหนหรือไม่ได้ไปไหน การมีแอพจราจรไว้ในมือถือ ก็เป็นสิ่งที่สำคัญอยู่ไม่น้อยเลย สำหรับคนที่ต้องขับรถไปไหนมาไหน รวมไปถึงการขับรถกลับบ้านที่ต่างจังหวัดไกลๆ ด้วย มีติดเครื่องไว้ช่วยวางแผนการเดิมทาง หนีรถติดได้แน่นอน รวมไปถึงแอพที่ควรมีติดเครื่อง เพื่อช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย (อ่านต่อ…50 แอพที่ควรมีติดเครื่องไว้)
แม้ว่าการจราจรในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และในเมืองใหญ่ๆ ในประเทศไทยนั้น จะมีสภาพรถติดสูงกันอยู่แล้ว จากข้อมูลของ TomTom Traffic Index ในปี 2019 ปีที่แล้ว ก็ได้เผยออกมาว่า ประเทศไทยในกรุงเทพฯ นั้น มีรถติดเป็นอันดับที่ 11 ของโลกกันเลยทีเดียว และยิ่งเป็นช่วงหยุดยาว ที่หลายๆ คนอยากกลับบ้าน หรือไปเที่ยวพักผ่อนที่ต่างจังหวัด ก็มักจะต้องพบกับปัญหารถติด ทั้งถนนทางหลวง เส้นทางหลักขึ้นเหนือ ลงใต้ ทางด่วน ติดหมดทุกทาง นอกจากจะทำให้เมื่อยขาไปกับการเบรกแล้ว ยังสร้างความเบื่อหน่าย ให้กับการไปพักผ่อนอีกด้วย วันนี้ Specphone เลยจะมาแนะนำ 6 แอพจราจร ที่ช่วยให้ทุกคนได้วางแผนการเดินทางง่ายขึ้น หนีรถติดได้อย่างสบายๆ เพียงแค่โหลดมาติดเครื่องไว้ และดูก่อนออกเดินทาง จะได้ไม่ต้องไปเสียเวลาอยู่บนถนนนานๆ
6 แอพจราจร
สำหรับแอพจราจร ที่เราจะมาแนะนำ เพื่อเอาไว้ดูเส้นทางนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นแอพที่ทำขึ้นโดยคนไทยเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ว่าจะมีแอพที่เป็นสากล เพื่อดูเส้นทางได้ทั่วโลกอยู่แล้ว แต่ถ้าเป็นเรื่องของข่าวการจราจร และเส้นทางหลวง เส้นทางต่างจังหวัดต่างๆ ก็ยังต้องอาศัยข้อมูลอย่างเป็นทางการ จากของไทยเราเองอยู่ดี เราจึงได้รวบรวมทั้งแอพ ที่เป็นของสากล และเป็นของไทยเอามาไว้ที่นี่ให้แล้ว ซึ่งแต่ละแอพก็จะมีหน้าที่การทำงาน และมีรูปแบบการใช้งานที่ต่างกันด้วย อยู่ที่ว่าอยากเอาไปใช้แบบไหน ใช้ในเมือง หรือใช้แค่เฉพาะตอนเดินทางไปต่างจังหวัด ลองไปเลือกดูกันได้เลย ว่ามีแอพการจราจรตัวไหนที่น่าสนใจบ้าง
1. Google Maps และ Google Maps Go
เริ่มกันที่แอพแรกกันเลย ซึ่งแอพนี้คิดว่าหลายคนที่ขับรถ ส่วนใหญ่จะต้องโหลดติดเครื่องกันไว้อยู่แล้ว เนื่องจากคุณสมบัติ และการใช้งานที่ส่งผลมาอย่างแม่นยำ สามารถบอกตำแหน่งของร้าน สถานที่ ปั๊ม และข้อมูลที่ควรรู้ทั้งหมด สำหรับการเดินทางบนท้องถนน ส่วนฟีเจอร์ที่มีในแอพ Google Maps ก็มีเยอะมาก อย่างการสั่งงานด้วยเสียง การตั้งตำแหน่งที่จะไป หรือจะเพิ่มตำแหน่งหยุดพัก เพื่อคำนวณเวลาทั้งหมด รวมไปถึงการเลือกเส้นทางการเดินทาง ไม่ว่าจะเป็นการขับรถ เดิน มอเตอร์ไซค์ รถไฟ รถไฟฟ้า รถรับส่ง(ของ Grab) เพิ่มสถานที่ Favorite, Starred Place เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการใช้งานได้มากขึ้น นอกจากนี้ทาง Google Maps ยังให้เราสามารถส่งเรื่อง เพื่อบอกว่าตรงบริเวณไหน มีการปิดถนนบ้าง หรือมีจุดไหน ที่มีอุบัติเหตุ ทำให้เรารู้สถานการณืได้ไว และหนีจุดนั้นออกไปได้
ส่วน Google Maps และ Google Maps Go นั้น การทำงานจะมีความคล้ายคลึงกัน แต่ Google Maps Go ทำขึ้นมา เพื่อรองรับการใช้งาน สำหรับมือถือที่มีหน่วยความจำ และการประมวลผลต่ำ และไม่กินพื้นที่การใช้งานมากนัก แต่การทำงานจะสามารถดูเส้นทางรถติด และการจราจรได้เหมือนกันหมด ซึ่งแอพตัวนี้ในบางรุ่นของ Android ก็จะมีติดเครื่องมาให้เลย แต่ถ้ารุ่นใหญ่ๆ ระดับเรือธงจะไม่มีมาให้ ต้องมาโหลดเพิ่มเอาเองใน Google Play ส่วนการใช้งานของ Google Maps ทั่วไปนั้น เราสามารถเลือกเส้นทางจุดหมายที่จะไป หลังจากนั้นก็กดดูเส้นทางได้เลย ถ้าเป็นสีฟ้าแสดงว่าถนนเส้นนั้นรถโล่ง แต่ถ้าเป็นสีเขียวจะมีการจราจรติดขัดเล็กน้อย และถ้าเป็นสีแดงไปจนถึงแดงเข้ม แสดงว่าจุดนั้นรถติดมากเป็นพิเศษ ควรหลีกเลี่ยงเส้นทาง พร้อมกับ AI ที่ช่วยหาเส้นทางใหม่ให้เลือกด้วย แต่ถึงอย่างนั้น หลายคนก็ยังบอกว่าเส้นทางลัดต่างๆ ยังไม่ตรงตามความจริงเท่าไหร่ อาจจะต้องใช้เส้นทางหลัก เพื่อความปลอดภัยด้วย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Google Maps และ ดาวน์โหลดแอพ Google Maps Go
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Google Maps
2. BMA Traffic
แอพต่อมานี้ เป็นแอพที่ถูกพัฒนา และทำขึ้นมาโดยสำนักการจราจรและขนส่ง กรุงเทพมหานคร (สจส) โดยตรงเลย จึงมีความแม่นยำ และได้ข้อมูลที่แท้จริงแน่นอน แต่แอพนี้จะเน้นแค่เพียงจังหวัดกรุงเทพฯ เท่านั้นนะ ของต่างจังหวัด หรือเส้นทางไกลๆ ยังไม่ได้รองรับการใช้งาน ส่วนแผนที่และการดูการจราจร จะอิงมาจากจาก Google Maps ทั้งหมด จึงได้ข้อมูลที่ตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด นอกจากนี้ยังมีการประชาสัมพันธ์จากแอพ ว่ามีเหตุการณ์หรือข่าวของเส้นทาง ว่ามีถนนเส้นทางไหนมีการปิดถนน หรือมีงานตรงพื้นที่ไหนบ้าง ที่ส่งผลกระทบต่อการจราจรทั้งหมดในกรุงเทพฯ เลย รวมไปถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุ และรถเสียต่างๆ ที่เกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ด้วย โดยสามารถแจ้งไปทางเว็บ หรือแอพด้วยการสมัครสมาชิก และรายงานผลที่เกิดขึ้นบนท้องถนนได้ในทันที
อีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลย สำหรับแอพนี้ นั่นก็คือการดูกล้องจากระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) ที่สามารถตรวจวัด และรายงานสภาพแบบ Real Time ทั่วกรุงเทพฯ เลย ถือเป็นฟังก์ชันที่น่าสนใจ และน่าใช้งานมากๆ สำหรับการดูเส้นทางจราจร ว่าตรงไหนมีรถติดขัดมากน้อยแค่ไหน ช่วยวางแผนการเดินทางได้ดีมากๆ และยังสามารถค้นหาเส้นทาง และปลายทางโดยอิงมาจาก Google Maps เช่นกัน การใช้งานภายในแอพนี้ก็ใช้งานได้ไม่ยากเลย เนื่องจากตัวแอพที่ทำออกมานั้น ไม่มีความซับซ้อน และมีการบอกเมนูที่ชัดเจน และใช้ได้ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ใครที่เดินทางไปไหนมาไหนในกรุงเทพฯ มีแอพนี้ติดเครื่องไว้ รับรองว่าเดินทางได้สะดวกสบายหายห่วงเลย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ BMA Traffic
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ BMA Traffic
3. Thailand Highway Traffic
แอพจราจรตัวต่อมา เป็นแอพที่ถูกพัฒนาและทำขึ้นจากไทย และก็ได้อิงแผนที่มาจาก Google Maps อีกเช่นกัน จากการทำงานหลักๆ นั้นแอพนี้จะดูคล้ายกับ BMA Traffic อยู่พอสมควร ในเรื่องของการดูกล้อง CCTV ได้แบบ Real Time แต่จะต่างกันมากเลย ตรงที่แอพนี้สามารถดูได้เฉพาะเส้นทางที่เป็นทางหลวงเท่านั้น จึงเหมาะมากกับคนที่ต้องเดินทางไปต่างจังหวัด การใช้แอพนี้ ก็จะยิ่งช่วยให้วางแผนการเดินทางได้ง่ายขึ้นเยอะ แถมยังมีฟีเจอร์ที่หลากหลายกว่าด้วย เช่นการแจ้งเตือน ที่สามารถตั้งค่าเพื่อแจ้งเตือนอุบัติเหตุ หรือสิ่งกีดขวางการจราจร และข้าวสารต่างๆ (ไม่ค่อยอัพเดทนะ) มีการบอกจุดบริการอย่างปั๊มน้ำมัน สถานีตำรวจ โรงพยาบาล จุดพักรถ และห้องน้ำ จะได้ไม่ต้องมากดนนั่งค้นหากันให้ยุ่งยาก
หรือถ้าจะต้องเดินทางไปยังเส้นทางไหน ตามเส้นทางหลัก ก็สามารถกดเลือกดูที่เมนูเส้นทางเดินทาง จากนั้นเลือกว่าจะไปขาเข้า หรือขาออก และกดเลือกเส้นทางเดินรถ เพื่อดูสภาพความคล่องตัว และระยะทางความยาวของถนนด้วย จากการใช้งานดู คิดว่าแอพนี้สามารถใช้งานได้ดีเลยนะ เวลาเดินทางไปต่างจังหวัดไกลๆ เพราะสามารถกดเพื่อดูฟีเจอร์ได้ตั้งแต่หน้าแรกเลย ว่าจะดูกล้อง ดูเส้นทาง ห้องน้ำ ปั๊ม จุดบริการ ฯลฯ รวมไปถึงดูป้ายทางเลี่ยง ที่ดูความเร็วของเส้นทาง และอุบัติเหตุได้ทันที ไม่ต้องเสียเวลามานั่งค้นหาให้วุ่นวาย ส่วนการดูกล้องนั้น มีบางตัวที่เสียหายไม่สามารถดูได้บางตัว แต่ส่วนใหญ่แล้วยังดูได้ปกติ พร้อมกับกราฟดูอัตราการไหล ของกระแสการจราจรด้วย
4. Longdo Traffic
แอพจราจรของลองดู เว็บไซต์ที่ขึ้นชื่อเรื่องพจนานุกรม และการแปลภาษาอังกฤษของไทยเราเอง ก็ได้ทำแอพที่เกี่ยวกับการจราจรออกมาให้ได้ใช้งานด้วย แถมยังทำออกมาได้เป็นอย่างดีเลย ถึงแม้ว่าฟีเจอร์ให้เลือกกดใช้งาน จะไม่ได้ดูเยอะมากนัก หรือมีปุ่มให้เลือกเยอะเท่าไหร่ แต่ถ้าซูมเข้าไปดูแผนที่ใกล้ๆ ก็จะเริ่มเผยข้อมูลออกมาให้ได้เห็นกัน แถมยังมีดัชนีรถติดในแอพด้วย เพื่อเป็นตัววัดค่าความติดขัดของจราจร มีข้อมูลตั้งแต่รายวันไปจนถึงรายเดือน และสถิติเป็นประจำปีไปเลย สามารถนำโค้ดไปใช้งานกันได้ด้วยนะ สิ่งที่น่าสนใจบนแอพนี้นอกจากการดูเส้นทางรถติดแล้ว ยังสามารถดูเส้นทาง และตำแหน่งของปั๊มได้ทั่วประเทศเลยด้วย พร้อมทั้งการบอกถึงตำแหน่งอุบัติเหตุ และเส้นทางที่ปิด โดยจะใช้เป็นสัญลักษณ์ที่ต่างกันออกไป เพื่อการดูแผนที่ที่ง่ายขึ้น
ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยก็คือ กล้อง CCTV ที่ไม่ได้มีแค่เพียงในกรุงเทพฯ หรือมีเฉพาะทางหลวง แต่แอพนี้จะรวบรวมกล้องทั้งหมดที่มีอยู่ และถ้าอยากดูตัวไหนตามเส้นทาง ก็สามารถกดดูได้ทันที ไม่จำเป็นต้องเป็นทางหลวงเท่านั้น แต่ก็ต้องบอกว่าบางตัวก็ไม่สามารถดูได้แบบ Real Time อย่างพวกเมืองใหญ่ๆ ในต่างจังหวัดบางที่ ก็ไม่สามารถดูได้ หรือเป็นภาพเก่าเอามาให้ดู ขึ้นอยู่กับว่าดึงมาจากกล้องของทางสำนักไหน แต่ส่วนใหญ่แล้วเส้นทางหลัก หรือถนนใหญ่ๆ นั้นจะสามารถดูได้อย่างปกติ แอพนี้เหมาะกับการวางแผนก่อนออกเดินทางได้เป็นอย่างดีเลย รวมไปถึงศึกษาเส้นทางว่าจุดไหนมีที่พักรถเยอะแค่ไหน จะได้ไม่ต้องวิ่งคอยหากัน ใครที่ชอบขับรถไปต่างจังหวัด หรือวางแผนจะไปเที่ยวปีใหม่นี้ โหลดแอพนี้ติดเครื่องไว้ รับรองว่าช่วยได้แน่นอน
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Longdo Traffic
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Longdo Traffic
5. JS 100
แอพจราจรชื่อดังจาก คลื่นจส.100 ที่เป็นช่องทางวิทยุ ที่คอยแจ้งข่าวสารการจราจรมาก่อนแล้ว จึงทำให้เป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง สำหรับคนที่มีรถยนต์ส่วนตัว โดยแอพนี้จะมีฟีเจอร์ให้เลือกใช้งานอยู่หลายอย่างมาก และส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการเดินทางบนท้องถนนทั้งหมด เช่น การเปิดคลื่น จส.100 เพื่อฟังออนไลน์ กด SOS เพื่อขอความช่วยเหลือเร่งด่วนได้ 24 ชั่วโมง เช็คข่าวสารเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศ (เฉพาะข่าวใหญ่) แผนที่ที่สามารถคัดกรองสภาพการจราจร จุดระวังอุบัติเหตุ และจุดเสี่ยงอันตราย ฟีเจอร์ช่วยตามหาของหาย หรือตามหาเจ้าของได้หมดเลย นอกจากนี้ยังมี PNC News ที่เป็นตัวช่วยบอกข่าวทั่วไป โดยดึงข้อมูลมาจากเว็บต่างๆ เช่น ราคาน้ำมัน, ตรวจหวย, เรดาร์เช็คสภาพอากาศ ฯลฯ
โดยรวมแล้ว แอพนี้ถือว่ามีฟีเจอร์ให้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย มีเครื่องอำนวยความสะดวกในการเดินทาง และการแจ้งข้อมูลได้ดีมาก ถึงแม้ว่าจะไม่ได้ชูเด่นเรื่องการดูแผนที่จริงจัง แต่ถ้าเรื่องเหตุการณ์สำคัญ หรืออุบัติเหตุจะมีประโยชน์มากๆ ถ้าอยากรู้เรื่องการจราจรแบบเต็มที่ แนะนำให้ฟังผ่านวิทยุ หรือช่องทางออนไลน์เอาดีกว่า อีกอย่างนึง ก่อนเข้าไปใช้งาน แอพจะมีการถามความสมัครใจก่อนด้วย โดยมีการขอความร่วมจากการพัฒนาฯ การใช้บริการ ขอความร่วมมือการให้ข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อเก็บข้อมูลการแจ้งเหตุฉุกเฉิน และการประมวลผลเรื่องการตลาด ในการเข้าดูในแต่ละครั้ง แต่ทุกอย่างที่แอพขอนั้น จะไม่เปิดเผยข้อมูลให้คนอื่นรู้อย่างเด็ดขาด จึงมั่นใจได้เลยว่า ข้อมูลที่จะให้ไปนั้น ได้รับความปลอดภัยจากแอพอย่างแน่นอน ทั้งนี้จะไม่กดยอมรับทุกข้อเลยก็ได้นะ ถ้าไม่อยากให้ข้อมูลอะไรเลย ใครที่ต้องเดินทางไปไหนมาไหน ควรมีแอพนี้ติดเอาไว้เป็นอย่างมาก
- Android : ดาวน์โหลดแอพ JS 100
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ JS 100
6. Waze
มาถึงแอพจราจรแอพสุดท้าย ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้แล้ว โดยแอพนี้ถือว่ามีชื่อเสียงอยู่แล้ว ในระดับหนึ่งเลย โดยเฉพาะเรื่องของการดูสภาพทางท้องถนน และการจราจรจากต่างประเทศ แต่ประเทศไทยเราจะไม่ค่อยนิยมใช้มากเท่าไหร่ อาจจะเพราะว่ามีตัว Google Maps ที่เป็นฐานคนใช้งานเยอะอยู่แล้วด้วย แต่เรื่องของการใช้งานนั้น มีความแม่นยำอยู่ไม่แพ้กันเลย แอพนี้การันตีด้วย ว่าอัพเดทเส้นทางแบบ Real Time (แต่อาจจะกินแบตนิดหน่อย กดเปิดโหมดประหยัดแบตได้) ส่วนฟีเจอร์ของแอพนี้จะมีให้เลือกอย่าง การกำหนดเส้นทางไป – กลับได้เหมือนกัน สั่งการด้วยเสียงได้ และข้อมูลเส้นทางค่อนข้างเป๊ะ ละแม่นยำมากเลย ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์รถติด ซ่อมถนน รถชน อุบัติเหตุ ฯลฯ แอพนี้จะมีการขึ้นเตือนทั้งหมด และภายในแอพจะมีให้เลือกเล่นอีกเยอะมาก
ส่วนการทำงานของแอพนี้ ก็ไม่ได้ใช้งานยากเลย เพราะหน้าตาของแอพจะออกแนวน่ารักๆ หน่อย เพียงแค่กดปุ่มค้นหาจากด้านล่าง และกดดูเส้นทางที่ต้องการเดินทาง แอพก็จะบอกให้เลยในทันที ว่ามีการจราจรติดขัดมากน้อยแค่ไหน พร้อมทั้งการบอกความเร็วในการเดินทาง เป็นหน่วยความเร็วกิโลเมตรต่อชั่วโมงด้วย เพื่อให้เราได้รู้ว่าบริเวณเส้นทางนั้น สามารถวิ่งได้เร็วมากน้อยแค่ไหน ส่วนฟีเจอร์อื่นๆ สามารถกดเข้าไปได้จากเมนูตั้งค่า แล้วเลือกประหยัดแบต เลือกวางแผนการเดินทาง และสร้างการเตือนได้ด้วย ที่น่าสนใจอีกอย่างหนึ่งก็คือ แอพนี้สามารถเชื่อมต่อกับแอพฟังเพลงได้อีก อย่างเช่น Sportify, Amazon Music, Castbox และอีกหลายแอพเลย ใครที่อยากลองใช้งานแอพใหม่ๆ และใช้งานได้ดีไม่แพ้อันอื่น ก็ลองโหลดมาใช้งานกันได้นะ
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Waze
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Waze
เป็นยังไงกันบ้างกับทั้ง 6 แอพจราจร ที่เราได้นำมาแนะนำกันในวันนี้ เชื่อว่าต้องมหลายคนที่เดินทางกลับบ้านกันในปีใหม่นี้ ก็ต้องเตรียมพร้อมกันหลายอย่าง ทั้งการเตรียมตัวเรื่องความปลอดภัยจาก Covid-19 และที่สำคัญก็คือเรื่องของการเดินทาง ที่จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลก่อนออกเดินทางทุกครั้ง อย่างน้อยก็ต้องใช้แผนที่ในการเดินทาง และก็ต้องดูสภาพการจราจรบนท้องถนนด้วย จะได้ไม่ต้องไปติดอยู่บนถนนนานๆ โดยแอพที่เราได้แนะนำไปนั้น ก็มีฟีเจอร์ และการใช้งานที่แตกต่างกันไปทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นการดูแผนที่แบบภาพรวม หรือจะดูผ่านกล้อง CCTV ที่ทำให้รู้ได้ทันทีเลยว่ารถบนถนนเส้นนั้น มีการติดขัดมากน้อยแค่ไหน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ ส่วนใครที่เดินทาง ก็ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพครับ