มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในปัจจุบันนี้ตั้งแต่มี 5G เข้ามาก็เริ่มมีการแข่งกันที่โหดขึ้นมาก โดยเฉพาะการมาของ Xiaomi Mi 10T Pro 5G ที่แหวกราคามือถือ 5G ซะเพี้ยน ด้วยราคาแสนถูก พร้อมด้วยสเปคเกมมิ่งสุดแรงที่แรงในระดับเรือธง ซึ่งในบทความนี้เราเลยจะมาแนะนำมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท ที่แรงสุด คุ้มสุด ซื้อไปแล้วไม่เสียดายเงินอย่างแน่นอน
เทียบสเปคมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท
iPhone SE 2020 | vivo V20 Pro 5G | OnePlus Nord 5G | Xiaomi Mi 10T Pro 5G | Samsung Galaxy A42 5G | |
---|---|---|---|---|---|
หน้าจอ | Retina Display ขนาด 4.7 นิ้ว 1334 x 750 Wide color gamut | AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว 2400 x 1080 | Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว 2400 x 1080 Refresh Rate 90Hz | IPS-LCD ขนาด 6.67 นิ้ว 2340 x 1080 Refresh Rate 144Hz | Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว 1,600 x 720 |
ชิปประมวลผล | Apple A13 Bionic | Qualcomm Snapdragon 765G | Qualcomm Snapdragon 765G | Qualcomm Snapdragon 865 | Qualcomm Snapdragon 750G |
แรม | 3GB | 8GB | 8GB | 8GB | 8GB |
หน่วยความจำ | 64GB | 128GB | 128GB | 128GB | 128GB |
กล้องหลัง | 12MP | 64MP + 8MP + 2MP | 48MP + 8MP + 5MP +2MP | 108MP + 13MP + 5MP | 48MP + 8MP + 5MP +5MP |
กล้องหน้า | 7MP | 44MP + 8MP | 32MP + 8MP | 20MP | 20MP |
แบตเตอรี่ | 1,821 mAh PD 3.0 18W (ซื้อแยก) | 4,000 mAh Vivo FlashCharge 33W | 4,115 mAh Dash Charge 30W | 5,000 mAh ชาร์จไว 33W | 5,000 mAh ชาร์จไว 15W |
ราคา | 14,900 บาท | 14,999 บาท | 14,990 บาท | 13,900 | 11,990 บาท |
ในปัจจุบันนี้มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทไม่มีใครคุ้มเท่า Xiaomi Mi 10T Pro 5G ไปได้ ด้วยสเปคที่ให้มาในระดับเรือธง แต่ราคาขายกลับแค่หมื่นกลาง ๆ แถมยังรองรับ 5G อีก ทำให้มันเป็นมือถือที่น่าซื้อที่สุดในเรทราคานี้แล้ว อีกตัวที่น่าสนใจก็คือ vivo V20 Pro 5G มือถือ 5G คุ้ม ๆ ของ vivo ที่จะเล่นเกมก็ได้ ถ่ายรูปก็ดี โดยเฉพาะการเซลฟี่ที่เป็นจุดเด่นที่สุดของเครื่อง แถมยังชาร์จเร็วระดับเดียวกับ Mi 10T Pro 5G อีกด้วย
แต่หากใครที่ต้องการมือถือลื่น ๆ เป็นหลัก ปัญหาจากการอัพเดตน้อย ๆ OnePlus Nord คือตัวเลือกที่ดี เนื่องจาก OxygenOS ของ OnePlus ขึ้นชื่อเรื่องความลื่นอย่างถึงที่สุดในมือถือฝั่ง Android แล้ว แถมตัวเครื่องยังมาพร้อมหน้าจอที่มี Refresh Rate ถึง 90Hz ทำให้หน้าจอมีความลื่นไหลมากขึ้นด้วย
แต่หากใครที่ต้องการมือถือ 5G ราคาไม่แรง แต่เล่นเกมได้ลื่น ๆ ทุกเกม พร้อมด้วยความอึดของแบตเตอรี่ Samsung Galaxy A42 5G ก็ถือเป็นตัวที่ดี ด้วยชิป Snapdragon 750G ทำให้สามารถเล่นเกมแรง ๆ ได้อย่างสบาย และด้วยหน้าจอที่มีความละเอียดเพียง HD+ เมื่อใช้ร่วมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ทำให้สามารถเพิ่มความอึดได้อย่างมาก (ยิ่งความละเอียดสูงก็ยิ่งใช้แบตเตอรี่เยอะ)
และสำหรับคนที่ชอบมือถือไซต์เล็ก iPhone SE 2020 คือสุดยอดตัวเลือกแล้ว เพราะถึงจะเป็นมือถือราคาหมื่นต้น แต่ก็อัดเน่นไปด้วยฟีเจอร์ระดับเรือธงมากมาย ปัญหาสำหรับ iPhone SE 2020 ก็จะมีเพียงความจุที่ไม่สามารถเพิ่มได้ ทำให้ต้องคอยจัดการพื้นที่ให้ดี (ถ้าเอาให้ดีซื้อขนาด 128GB ขึ้นไปจะดีกว่า)
1. iPhone SE 2020
iPhone SE 2020 มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทรุ่นล่าสุดของ Apple เป็นรุ่นประหยัดที่ยัดเอาฟีเจอร์หลาย ๆ อย่างของ iPhone 11 เอาไว้เพียบ เป็นมือถือที่ Apple ตั้งใจเปิดตัวมาเพื่อแย่งลูกค้าจาก Android โดยเฉพาะ ยิ่งการรองรับ WiFi 6 ที่จะจเอใน Android ระดับเรือธงเท่านั้น iPhone SE 2020 เองก็มีเช่นกัน เป็นมือถือที่เหมาะกับคนที่อยากลองมาเล่น iPhone และคนที่ชอบมือถือจอเล็กสุด ๆ เน้นพกพาคล่องตัว ใช้งานมือเดียวสะดวก
ในด้านสเปคนั้น iPhone SE 2020 มาพร้อมหน้าจอ Retina Display ซึ่งเป็นหน้าจอตัวเดียวกับที่ใช้ใน iPhone 8 มีความละเอียดเพียงแค่ HD เท่านั้น ใช้ชิปเป็น Apple A13 Bionic ตัวเดียวกับที่ใช้อยู่ใน iPhone 11 แต่มีการปรับสปีดลงเล็กน้อยให้เข้ากับตัวเครื่อง ให้แรมมาทั้งหมด 3GB และมีหน่วยความจำให้เลือกคือ 64GB / 128GB / 256GB ซึ่งตัวที่ราคาไม่เกิน 15,000 บาทจะเป็นรุ่น 64GB ทว่ายังไงก็ขอแนะนำให้ซื้อรุ่น 128GB ไปเลยดีกว่า เพราะเพิ่มเงินแค่ 2,000 บาทเท่านั้น
ในส่วนของกล้องนั้น iPhone SE 2020 ให้มาเป็นกล้องเดี่ยวความละเอียด 12MP แต่คุณภาพก็ไม่ได้แย่ เพราะมีทั้ง OIS และโหมด Portriait มาให้ แค่มีข้อจำกัดเรื่องระยะเลนส์และไม่มีโหมดถ่ายรูปกลางคืนมาให้อยู่ดี สำหรับกล้องหน้านั้นเป็นกล้องความละเอียด 7MP ซึ่งเป็นกล้องตัวเดียวกับที่อยู่ใน iPhone 8
ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นก็นับว่าสมกับเป็น iPhone ที่ให้มาเพียง 1,821 mAh เท่านั้น ซึ่งถ้าเทียบกับมือถือ Android แล้วนับว่าน้อยสุด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังสามารถแทนที่ได้ด้วยระบบชาร์จเร็วขนาด 18W (ซื้อหัวชาร์จแยกต่างหาก) ที่สามารถชาร์จ 50% ได้ภายใน 30 นาที นอกจากนี้ยังรองรับการชาร์จแบบ Wireless ที่ Android ไม่สามารถให้ได้ด้วย
iPhone SE 2020 วางขายในราคาเริ่มต้นที่ 14,900 บาท ซึ่ง Specphone เราได้เคยรีวิวเอาไว้แล้ว สามารถเข้าไปดูได้ที่ รีวิว iPhone SE 2020 หากอยากเห็นสเปคแบบละเอียดสามารถเข้าไปดูได้ที่ สเปค iPhone SE 2020
2. vivo V20 Pro 5G
vivo V20 Pro 5G มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาท ที่รองรับ 5G มาตั้งแต่แกะกล่อง ที่มีจุดเด่นที่ความบางอย่างถึงที่สุดและฟีเจอร์สำหรับเซลฟี่ขั้นเทพที่ไม่มีใครเทียบได้ ด้วยระบบ Eye Autofocus ที่สามารถตรวจจับดวงตาได้แทบจะในทันที ทำให้การเซลฟี่เป็นอะไรที่สะดวกขึ้นอย่างมาก
ในด้านสเปคที่ทำให้ vivo V20 Pro 5G น่าซื้อที่สุดคือชิป Snapdragon 765G ชิประดับกลางรุ่นใหม่ที่รองรับ 5G, กล้องหน้าความละเอียด 44 MP Auto Focus f/2.0 + 8MP Super wide-angle พร้อมฟีเจอร์ Eye Autofocus, Super Night Selfie ฯลฯ และแบตเตอรี่ขนาด 4,000 mAh ที่มาพร้อม Vivo FlashCharge 2.0 ขนาด 33W ซึ่งสามารถชาร์จ 50% ได้ภายใน 30 นาทีเท่านั้น
สำหรับสเปคอื่น ๆ นั้น vivo V20 Pro 5G มาพร้อมหน้าจอ AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ให้แรมมาทั้งหมด 8GB และให้หน่วยความจำมาทั้งหมด 128GB นอกจากนี้ยังมาพร้อมกล้องหลังถึง 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 64MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP, และเลนส์ Mono ความละเอียด 2MP ซึ่งความเจ๋งของกล้องหลังคือกล้อง Ultrawide รองรับการถ่ายมาโคร 5 เซนติเมตร และ Bokeh f/2.2 ด้วย
สำหรับกล้องหน้านั้นจะเป็นกล้องหน้าคู่ที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 44MP และเลนส์ Super wide-angle ความละเอียด 8MP ที่มาพร้อมฟีเจอร์มากมาย ซึ่งสเปคทั้งหมดที่ว่ามานี้ vivo V20 Pro 5G กลับมีราคาค่าตัวเพียง 14,999 บาท เท่านั้น ทำให้กลายเป็นมือถือ 5G สายเซลฟี่ที่คุ้มที่สุดแล้วในตอนนี้ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าตัวเครื่องเป็นอย่างไรสามารถเข้าไปดู รีวิว vivo V20 Pro 5G / คลิปรีวิว vivo V20 Pro 5G ได้เลย และหากใครอยากเห็นสเปคเต็ม ๆ แล้วสามารถเข้าไปดูได้ที่ สเปค vivo V20 Pro 5G
3. OnePlus Nord
OnePlus Nord มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทตัวใหม่ล่าสุดจาก OnePlus ที่พึ่งเปิดตัวไปหมาด ๆ ด้วยสเปคคุ้ม ๆ กล้องเทพ พร้อมด้วยระบบปฏิบัติการที่ว่ากันว่าลื่นที่สุดในมือถือฝั่ง Android ซึ่งจากโปรเปิดตัวหากซื้อพร้อมติดสัญญา จะเหลือเพียง 7,990 บาท นับเป็นมือถือ 5G ที่คุ้มที่สุดอีกตัวหนึ่งเลยทีเดียว
ในด้านสเปคนั้น OnePlus Nord มาพร้อมหน้าจอ Fluid AMOLED ขนาด 6.44 นิ้ว ความละเอียด Full HD+ ซึ่งเป็นหน้าจอตัวเดียวกับที่ใช้ใน OnePlus 7T ใช้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 765G ที่เป็นชิป 5G ระดับกลางตัวล่าสุดของ Qualcomm ให้แรมมาทั้งหมด 8GB และให้หน่วยความจำมาทั้งหมด 128GB (มีให้เลือกอีกรุ่นเป็นรุ่นแรม 12GB หน่วยความจำ 256GB)
ในด้านการถ่ายภาพ OnePlus Nord มาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 4 ตัวประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP, กล้อง Macro ความละเอียด 2MP และกล้อง Depth ความละเอียด 5MP ซึ่งจากคนที่ได้ลองบอกว่ารูปถ่ายเทียบได้กับรุ่นเรือธงอย่าง OnePlus 8 เลยทีเดียว ถึงแม้จะใช้เซ็นเซอร์คนละตัวกันก็ตาม นอกจากนี้ยังให้กล้องหน้าแบบคู่มาด้วย โดยกล้องหลักจะมีความละเอียด 32MP ส่วนอีกตัวเป็นกล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP ช่วยให้เซลฟี่ได้มุมกว้างขึ้น และสามารถใช้ถ่าย VLOG หรือ Live ได้ง่ายขึ้น
อย่างไรก็ตาม เรื่องความสามารถในการรองรับ 5G ของ OnePlus Nord นั้น ในตอนนี้ (สิงหาคม 2020) ตัวเครื่องยังไม่รองรับการใช้งาน 5G ในประเทศไทย เนื่องจากตัวเครื่องรองรับแค่คลื่นความถี่ 700Mhz ซึ่งยังไม่เปิดให้บริการในประเทศไทย แต่ก็มีกำหนดการที่จะให้ใช้บริการภายในต้นปี 2021 หรือปีหน้า เมื่อถึงตอนนั้น OnePlus Nord ถึงจะใช้งาน 5G ได้ครับ
สำหรับแบตเตอรี่นั้น OnePlus Nord ให้แบตเตอรี่มา 4,115 mAh ที่มาพร้อม Dash Charge ขนาด 30W มา ช่วยให้สามารถชาร์จ 70% ได้ภายใน 30 นาที ทำให้ไม่ต้องรอนานก็สามารถหยิมมาใช้ต่อได้ OnePlus Nord วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 14,990 บาท หากอยากเห็นสเปคแบบละเอียดแล้วสามารถเข้าไปดูได้ที่ สเปค OnePlus Nord
4. Xiaomi Mi 10T PRO 5G รุ่น 8/128GB
มือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทที่คุ้มที่สุดในตอนนี้อย่าง Xiaomi Mi 10T PRO 5G ที่มาพร้อมสเปคอันแสนอลังการทั้งหน้าจอ 144Hz, ชิป Snapdragon 865, กล้อง 108MP และชาร์จเร็ว 33W ทำให้เป็นหนึ่งในมือถือตัวคุ้มที่น่าโดนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสายเล่นเกมแบบจัดเต็ม
ในด้านสเปคนั้น Xiaomi Mi 10T PRO 5G มาพร้อมหน้าจอ IPS-LCD ขนาด 6.67 นิ้ว มีความละเอียด Full HD+ ที่ครอบทับด้วย Gorilla Glass 5 ทำให้มีความทนทานอย่างมาก นอกจากนี้ยังมี Refresh Rate ถึง 144 Hz ใช้ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 865 ที่แรงพอจะเล่นเกมแบบปรับสุดได้ทุกเกมบน Store ให้แรมมา 8GB และหน่วยความจำขนาด 128GB
ด้านกล้องหนั้น Xiaomi Mi 10T PRO 5G นั้นมาพร้อมกล้องหลังทั้งหมด 3 ตัวที่ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 108MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 13MP และกล้อง Macro ความละเอียด 2MP ซึ่งตัวกล้อง Macro นี้มีความน่าสนใจอยู่ 1 อย่าง นั่นก็คือการที่กล้อง Macro ตัวนี้รองรับ Autofocus ทำให้เราสามารถเลือกจุดโฟกัสได้ตามที่ต้องการ เนื่องจากกล้อง Macro โดยทั่วไปจะไม่สามารถเลือกจุดโฟกัสได้เอง ต้องใช้วิธีการย้ายตำแหน่งแทน ช่วยเพิ่มความสะดวกในการถ่ายภาพได้อย่างมากเลย นอกจากนี้กล้องหน้ามีความละเอียดอยู่ที่ 20MP ซึ่งก็ถือว่าใช้ได้เลยสำหรับมือถือระดับนี้
ในเรื่องแบตเตอรี่นั้น Xiaomi Mi 10T PRO 5G มาพร้อมแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ซึ่งถ้าใช้งานทั่วไปเกินวันแน่นอน แต่หากเล่นเกมหนัก ๆ ก็จะต้องชาร์จอย่างน้อย 1 ครั้ง ซึ่งการชาร์จก็ไม่ต้องรอนานเพราะ Xiaomi Mi 10T PRO 5G มาพร้อมระบบชาร์จเร็วขนาด 33W ทำให้ใช้เวลาชาร์จประมาณ 1 ชั่วโมงก็เต็มแลว โดย Xiaomi Mi 10T PRO 5G นี้วางจำหน่ายในราคา 13,900 บาท สำหรับใครที่สนใจสามารถเข้าไปดูรีวิวคร่าว ๆ ได้ที่ คลิปแกะกล่อง Xiaomi Mi 10T PRO 5G ส่วนใครที่อยากเห็นสเปคเต็ม ๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ สเปค Xiaomi Mi 10T PRO 5G
5. Samsung Galaxy A42 5G
สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 15000 บาทในตอนนี้ของ Samsung แล้ว Samsung Galaxy A42 5G เป็นมือถือ 5G ที่ถูกที่สุด ให้สเปคมาแบบไม่น้อยหน้าแบรนด์อื่น ๆ อย่างหน้าจอ Super AMOLED, ชิปประมวลผล Snapdragon 750G กล้อง 4 ตัว ความละเอียดสูงสุด 48MP แบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh และดีไซน์ที่โดดดเด่นเป็นเอกลักษณ์แบบสุด ๆ
ในด้านสเปค Samsung Galaxy A42 5G มาพร้อมหน้าจอ Super AMOLED ขนาด 6.6 นิ้ว ความละเอียด HD+ มีชิปประมวลผลเป็น Qualcomm Snapdragon 750G รองรับ 5G ทุกคลื่นของไทยทันทีที่แกะออกจากกล่อง ให้แรมมา 8GB และให้หน่วยควาามจำมา 128GB
ในส่วนของกล้องนั้น Samsung Galaxy A42 5G มาพร้อมกล้องกลังทั้งหมด 4 ตัว ซึ่งประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP, กล้อง Ultrawide ความละเอียด 8MP, กล้อง Macro ความละเอียด 5MP และกล้อง Depth ความละเอียด 5MP ส่วนกล้องหน้าเป็นกล้องความละเอียด 20MP
สำหรับแบตเตอรี่นั้น Samsung Galaxy A42 5G มาพร้อมกับแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ซึ่งรองรับระบบชาร์จเร็วขนาด 15W โดย Samsung Galaxy A42 5G นั้นวางจำหน่ายด้วยราคา 11,990 บาท ซึ่งหากใครอยากดูรีวิวสามารถเข้ามาดูได้ที่ รีวิว Samsung Galaxy A42 5G / คลิปพรีวิว Samsung Galaxy A42 5G และหากใครอยากเห็นสเปคเต็ม ๆ สามารถเข้าไปดูได้ที่ สเปค Samsung Galaxy A42 5G