5 มือถือราคา 2000-3000 บาท แบตเยอะ หน้าจอใหญ่ ใช้คุ้ม ปี 2020

5 มือถือราคา 2000-3000 บาทที่จะมาแนะนำกันในวันนี้ เหมาะสำหรับคนที่มีงบน้อย แต่ต้องการใช้งานมือถือที่มีสเปคไหลลื่น หน้าจอใหญ่ และแบตอึดเล่นได้ทั้งวัน ในปี 2020 นี้ ก็มีมือถือรุ่นใหม่ๆ ที่ราคาไม่แรงมาก แต่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี

ปี 2020 นี้ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ต่างๆ มากมายทำให้การทำงานของหลายๆ บริษัททำงานช้าลง รวมไปถึงบริษัทผู้ผลิตมือถือหลายๆ แบรนด์ ก็มีการเปิดตัวล่าช้า และมีการผลิตที่ช้าลงเช่นกัน แต่ถึงแม้ว่าจะมีการผลิตที่ช้าไปบ้าง แต่อย่างน้อยก็ยังมีมือถือที่ได้ทำออกมาวางขายกันแล้วบ้าง ทั้งราคาสูงๆ ลงมาถึงราคาในงบต่ำๆ อย่างมือถือ 5 รุ่น ที่มีราคา 2000-3000 บาท ที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ ก็เหมาะสมกับการใช้งานในชีวิตประจำวัน หรือจะซื้อไว้ให้ลูกหลานใช้ก็ยังได้ ทั้งหน้าจอที่ใหญ่ และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน รวมไปถึงชิปที่ใช้ได้พอสมควร ก็ถือว่าน่าสนใจอยู่ไม่น้อย เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีตัวไหนบ้าง

ตารางเปรียบเทียบ 5 มือถือราคา 2000-3000 บาท

มือถือราคา 2000-3000 บาท

1. Redmi 9A

2. Samsung Galaxy A01 Core

3. Nokia 2.2

4. Wiko View4 Lite

5. Huawei Y5p

มือถืองบไม่เกิน 3,000 บาท ควรดูที่อะไรบ้าง?

ถึงแม้ว่าจะเป็นมือถือที่ราคาไม่แรงมาก แต่จะไม่ให้เลือกอะไรเลย ก็คงไม่ใช่เรื่อง อย่างน้อยก็ต้องมีจุดที่ต้องเลือกดู ก่อนที่จะตัดสินใจซื้อกันบ้าง ที่นอกจากจะพิจารณาจากรูปแบบภายนอก ดูความสวยงามที่แล้วแต่คนชอบ ว่าชอบแบบไหน สีอะไรและแบรนด์ในใจต่างๆ

สิ่งที่จำเป็นต้องดูเลยก็คือ Ram ที่เป็นหน่วยความจำของเครื่อง ที่อย่างน้อยมือถือในปัจจุบันควรจะมีก็คือ ต้องมีมากกว่า 1GB ขึ้นไป เพื่อการทำงานของระบบที่ไหลลื่น และไม่สะดุดจนน่ารำคาญมากเกินไป ส่วน Rom หรือความจุของตัวเครื่อง ก็มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากันเลย ซึ่ง Rom อย่างน้อยก็ควรมีความจุไม่ต่ำกว่า 32GB เพื่อให้มือถือของเรามีความจุในการใช้งาน ได้ในระดับนึงและพอเพียงต่อการใช้งานต่อแอปฯ ที่จำเป็นด้วย ส่วนที่จำเป็นต่อมาเลยก็คือ ตัวชิปเซ็ตที่มีมาให้ในเครื่อง ที่อย่างน้อยก็ไม่ควรล้าสมัย

ส่วนการใช้งานภายนอก สิ่งที่คนให้ความสนใจเป็นส่วนใหญ่นั้น ก็คือหน้าจอ เพราะในสมัยนี้การดูหนัง หรือซีรีส์ และละครต่างๆ ได้ลงมาบนแพลตฟอร์มมือถือหมดแล้ว และการดูผ่านช่องทางออนไลน์นั้น ก็จำเป็นอย่างยิ่งที่มือถือควรจะต้องมีหน้าจอใหญ่ เพื่อตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ อย่างน้อยก็ต้องกว้างไม่ต่ำกว่า 5 นิ้ว เรื่องของแบตเตอรี่ก็สำคัญเช่นกัน ถ้าแบตเตอรี่ความจุน้อย การใช้งานก็จะน้อยตามไปด้วย และความจุต่ำๆ ที่ควรจะต้องใช้งานในระดับมือถือราคานี้เลย ก็คือ ไม่น้อยกว่า 3,000 mAh ก็จะได้ใช้งานอย่างน้อย 1 วันเลย ส่วนกล้องก็จำเป็นอยู่เหมือนกัน ขั้นต่ำก็ควรมีความละเอียด 8 ล้านพิกเซลเป็นอย่างต่ำ แล้วมือถือทั้ง 5 รุ่นที่เราจะมาแนะนำนี้ ก็เป็นตัวที่น่าสนใจ โดยได้สเปคตรงทุกความต้องการแน่นอน มาเริ่มกันเลย

1. Redmi 9A

มือถือเครื่องแรกที่อยู่ในช่วงราคา 2,000-3,000 บาท ที่อยากจะแนะนำเลย ก็คือ Redmi 9A ที่ถึงแม้จะมีราคาในงบถูก แต่สเปคก็ไม่ได้ต่ำอย่างที่คิดเลย สำหรับรุ่นนี้ที่มาแรงอยู่เหมือนกัน ที่ได้ทั้งความกว้างของหน้าจอ และแบตเตอรี่มีมีมาให้อย่างอึด โดยภายนอกของตัวเครื่อง จะทำมาจากพลาสติก ที่มีความแข็งแรง และมีให้เลือก 3 สีคือ Green, Blue และ Gold

ส่วนหน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น IPS-LCD แบบ HD+ ที่ให้ความละเอียดและสีสันสวยงาม มีความกว้าง 6.53 นิ้ว ถือว่าใหญ่มาก สำหรับมือถือในราคานี้ จริงๆก็ใหญ่ที่สุดของทั้ง 5 รุ่นที่แนะนำเลยด้วย ส่วนชิปเซตของ Redmi 9A ได้ใส่ Helio G25 ที่เป็นชิปสำหรับเล่นเกมในระดับเริ่มต้นได้ดีมาก แถมให้ความจำเครื่องมามากถึง 3GB เป็นส่วนช่วงให้เจ้าตัวนี้ มีความเร็วแรงขึ้นมาก พร้อมกับความจุเครื่องที่มีให้ 32GB เล่นได้อย่างไม่ติดขัดแน่นอน

ส่วนกล้องหน้าของ Redmi 9A จะมีความชัดอยู่ที่ความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เซลฟี่สวยงาม และถือว่าเป็นความชัดเริ่มต้นของราคานี้อยู่แล้ว กล้องหลังเป็นกล้องตัวเดียวที่มีความละเอียด 13 ล้านพิกเซลเลยทีเดียว ก็สามารถถ่ายได้ชัดเลยแหละ ถ่ายวิดีโอแบบ HD เลยด้วย ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ตัวนี้ให้มาเยอะจัดมาก โดยมีความจุ 5,000 mAh เลย ใช้ได้ทั้งวันหายห่วง จะเล่นเกมหรือเล่นหนักแค่ไหนก็อยู่ไหว

ราคาของรุ่นนี้มีราคาอยู่ที่ 2,799 บาท เป็นราคาต่ำกว่าทุกรุ่นเลย แต่ดูจากสเปคที่ให้มาคือคุ้มมาก คุ้มจัดของจริง ได้ครบทุกเรื่องที่จำเป็นต้องใช้งานเลยด้วย หากใครมองหาเครื่องที่มีสเปคดีดี ในราคาที่ไม่แรงมาก รุ่นนี้ถือเป็นรุ่นที่น่าสนใจไม่น้อยเลย สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Redmi 9A

2. Samsung Galaxy A01 Core

มือถือของ Samsung ที่เพิ่งมาใหม่เพียงไม่นาน ตัวนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่ทำออกมาเพื่อตอบโจทย์ คนที่มีงบน้อยและอยากได้ของที่มีสเปคที่ค่อนข้างดีเลย ถึงแม้ว่าจะเป็นสเปคกลางๆ ที่ไม่ได้สูงมากนัก แต่ในด้านการใช้งานก็ถือว่าใช้ได้ดีอยู่เหมือนกัน ทั้งหน้าจอ และแบตเตอรี่ รวมไปถึงชิปเซตที่เป็นตัวใหม่ด้วย โดยภายนอกของตัวนี้จะเป็นพลาสติกเหมือนกัน แต่จะมีลวดลายที่ดูสวยงาม แตกต่างจากลายเรียบๆ ทั่วไป และมีสีมาให้เลือก 3 สี คือ Black, Red และ Blue

จอแสดงผลของรุ่นนี้ จะเป็น TFT PLS LCD แบบ HD+ ก็มีความคมชัด และความละเอียดในการใช้งานอยู่พอสมควร มีขนาดความกว้างอยู่ 5.3 นิ้ว ขนาดกำลังดีพอดีกับมือ ถึงแม้ว่าจะเล็กกว่าทุกรุ่นที่ได้แนะนำ แต่ก็ถือว่าไม่ได้เล็กมากขนาดนั้น ทางด้านของชิปเซต รุ่นนี้ได้ Mediatek MT6739WW มาช่วยเสริมให้ตัวเครื่องมีความลื่นมากขึ้น กับความจำเครื่องที่มีมาให้เลือกอยู่ 2 รุ่น แต่แนะนำว่าให้เลือกเป็นตัว 2GB ไปเลย จะได้ใช้อย่างไม่ค่อยติดขัดอะไรมากนัก เพราะราคาไม่ได้ต่างกันมากเกินไป ส่วนความจำของเครื่องถ้าเป็นตัว 2GB จะได้ความจุ 32GB ใช้กันอย่างจุใจไปเลย

มาทางเรื่องของกล้องกันบ้าง กล้องหน้ามีความละเอียดมาตรฐานที่ 5 ล้านพิกเซล เซลฟี่ได้สวยๆ พร้อมกับกล้องหลังที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ก็คือเป็นรุ่นกลางๆ ที่สามารถใช้ได้เป็นอย่างดี เหมาะสมกับราคาที่ไม่ได้สูงมากนัก ถ่ายวิดีโอได้แบบ HD เช่นกัน ส่วนแบตเตอรี่รุ่นนี้ มีความจุอยู่ 3,000 mAh เล่นได้ทั้งวัน แต่ถ้าเล่นหนักๆ ก็อาจจะหมดไวกว่าปกติ แต่ถ้าใช้งานทั่วไปแล้วก็อยู่ได้ทั้งวันแน่นอน

ราคาของรุ่นนี้จะเริ่มต้นที่ 2,500 บาท ในรุ่นที่ต่ำสุด แต่แนะนำเป็นตัวท็อปไปเลย ที่ราคา 2,899 บาท จะได้คุ้มค่ากับการใช้งานหน่อย ต้องบอกว่ารุ่นนี้ จะถือเป็นรุ่นที่เริ่มต้นที่ใช้งานได้ระดับกลางๆ แต่ก็ไม่ได้แย่มาก ยังสามารถดูหนังฟังเพลง เล่นโซเชียลได้ดีปกติ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Samsung Galaxy A01 Core และดูรีวิวที่ รีวิว Samsung Galaxy A01 Core

3. Nokia 2.2

มาทางฝั่งของค่าย Nokia กันบ้าง ที่ถึงแม้ว่าตอนนี้ จะไม่ได้เด่นดังเท่าสมัยก่อน แต่ทาง Nokia ก็ยังคงทำออกมาอยู่เรื่อยๆ รุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรุ่น ที่ยังได้รับความนิยมไม่น้อยเลย และราคาของรุ่นนี้ก็ไม่ได้แพงมาก พร้อมกับสเปคที่ใช้งานได้อย่างดี จะบอกว่าเป็นรุ่นที่มีความพอดีที่สุดแล้วก็ว่าได้ ทั้งราคา และสเปคที่ตัวเครื่องมีมาให้ รอบๆตัวเครื่องเป็นวัสดุที่แข็งแรงทนทาน กับหน้าจอที่เป็นกระจกแข็ง มี 2 สีให้เลือก คือ Black และ Silver

หน้าจอแสดงผลภายนอกจะเป็นกระจกแข็ง ที่มีความทนทานไม่แตกร้าวง่าย และเป็นจอแบบ IPS-LCD ให้ความคมชัดไม่แพ้รุ่นอื่นๆเลย ส่วนความกว้างขอหน้าจอ รุ่นนี้มีความกว้าง 5.71 นิ้ว ถือว่าใหญ่พอดีๆ ใช้งานง่ายไม่ได้เทอะทะ ตัวเครื่องบางอยู่ Nokia 2.2 รุ่นนี้ได้ชิปเซตเป็นตัว Helio A22 ที่สามารถใช้งานได้แบบทั่วไป คือใช้ได้โดยรวมพอๆ กันเลย เพิ่มระดับความแรงด้วยความจำมากถึง 3GB ก็คือไหลลื่นของจริง และความจุของรุ่นนี้มีให้ 32GB ก็คือใช้ได้คุ้มราคามากๆ

ส่วนเรื่องของกล้อง กล้องหน้าของ Nokia รุ่นนี้มีความละเอียดอยู่ที่ 5 ล้านพิกเซล เป็นระดับมาตรฐาน ที่ถ่ายเซลฟี่ได้ดีอยู่แล้ว และกล้องหลังมีความคำชัดมากถึง 13 ล้านพิกเซล ถ่ายหน้าก็สวยหลังก็สวย ถ่ายแบบ HDR ได้ด้วย เหมือนรุ่นนี้จะเน้นการถ่ายรูปด้วย แบตเตอรี่ของรุ่นนี้มีความจุ 2,000 mAh ที่ขนาดกำลังดี สามารถใช้งานได้ทั้งวันอยู่แล้ว คิดว่ารุ่นนี้ไม่ได้ทำมาให้ใช้งานแบบหนักๆ และกินแบตเยอะอยู่แล้ว แต่จะเน้นไปทางด้านการใช้งานแบบปกติมากกว่า

ราคาของ Nokia 2.2 นั้น มีราคาอยู่ที่ 2,990 บาท และช่วงนี้ก็มีหลายร้านค้าออนไลน์ ที่เริ่มลดราคาลงมากันเยอะแล้ว สำหรับคนที่สนใจมือถือที่มีราคาไม่แรง แต่ได้สเปคที่แรงจริง คุ้มค่ากับราคาที่ต้องเสียไป รุ่นนี้เป็นรุ่นที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก จะซื้อใช้เองหรือซื้อให้คนอื่นใช้ ก็ได้เหมือนกัน ดูหนังฟังเพลงได้ครบ สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Nokia 2.2

4. Wiko View4 Lite

สำหรับมือถือแบรนด์ Wiko กับรุ่น View4 Lite ตัวนี้ ถือว่าทำออกมาได้ดีมาก ใช้งานได้ดีทั้งการถ่ายรูป หน้าจอที่ใหญ่พอดีๆ กับแบตเตอรี่สุดอึด ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นที่มีราคาไม่เกิน 3,000 บาท แต่ก็น่าสนใจมากๆ วัสดุรอบตัวเครื่องถึงแม้ว่า จะไม่ได้เป็นโลหะ เพื่อความประหยัดทางด้านต้นทุน แต่ก็มีความแข็งแรงอยู่พอสมควร ไม่ได้เปราะบางมาก แถมมีสีสันสวยงาม ดูสวยไปอีกแบบ สีของตัวเครื่อง มีให้เลือกกันถึง 3 สีคือ Green, Blue และ Gold

หน้าจอแสดงผลของตัวนี้จะเป็นแบบ IPS LCD มีสีสันสวยงาม คมชัด จับแสงปรับความสว่างได้โดยอัตโนมัติ ส่วนความกว้างของหน้าจอ จะมีความกว้างอยู่ที่ 6.52 นิ้ว ซึ่งเป็นตัวที่หน้าจอใหญ่พอๆ กับ Redmi 9A ที่ได้แนะนำไปเลย ต่างกันเพียงนิดเดียวเท่านั้น เรื่องชิปเซตของรุ่นนี้ได้ชิปของ Helio A25 ที่สามารถใช้งานกับเครื่องรุ่นปกติได้ดี ไหลลื่นอยู่แล้ว ไม่ต้องเป็นห่วง หน่วยความจำมีอยู่ 2GB อยู่ในระดับกลางๆ แต่เพิ่มความจุมาให้เยอะจัดๆ ถึง 64GB จะเยอะไปไหน คุ้มค่ากับราคาและการใช้งานชัวร์ๆ

มาถึงเรื่องกล้องกันบ้าง กล้องหน้ายังคงเป็นระดับความชัดมาตรฐาน ที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล แต่ความเทพมันอยู่ที่กล้องหลัง ที่มีถึง 2 ตัวเป็น Dual Camera ที่มีความละเอียด 12 ล้านพิกเซล กับอีก 2 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอได้ถึงระดับ HD แค่กล้องก็กินขาดไปแล้ว ยังให้ความจุแบตเตอรี่มาเยอะอีก โดยมีความจุแบตเตอรี่อยู่ 4,000 mAh ใช้งานได้อย่างยาวนาน ถึงแม้ว่าจะใช้งานหนัก รุ่นนี้ก็อยู่ได้ทั้งวันสบายๆ จะถ่ายรูป ดูหนังฟังเพลงได้หมด

ราคาของ Wiko View4 Lite มากันแบบเบาๆ ในราคา 2,999 บาท ไม่แรงเท่าสเปคที่มีมาให้ใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่มีงบน้อย และต้องการใช้งานไปทางด้าน เน้นการถ่ายรูป การใช้งานแบบปกติ ที่สามารถใช้ได้อย่างยาวนาน จะดู Youtube ก็ยังได้ ด้วยราคาเท่านี้ กับสเปคเครื่องที่ไม่ธรรมดาจริงๆ รุ่นนี้ก็ถือว่าน่าสนใจ และน่าใช้งานไม่น้อยไปกว่าแบรนด์ดังๆ ที่มีเหมือนกันเลย

5. Huawei Y5p

มาถึงรุ่นสุดท้ายกันแล้ว กับมือถือจากค่ายใหญ่อย่าง Huawei ในรุ่น Y5p ที่ถึงแม้มือถือระดับเรือธงของค่ายนี้จะแผ่วไปลงไปบ้าง แต่รุ่นที่มีราคาไม่สูงขนาดนั้น ก็ยังคงใช่งานได้เป็นอย่างดี และมีความแรงของสเปคอีกด้วย ซึ่งก็ถือว่าเป็นรุ่นกลางๆ ที่มีราคาจับต้องได้ ไม่เกิน 3,000 บาท โดยวัสดุภายนอกนั้นจะเป็นพลาสติก ที่มีความแข็งแรง และยังมีลวดลายส่องแสงสวยงามมาก ส่วนสีของตัวเครื่อง มีให้เลือกอยู่ 2 สีด้วยกัน คือ Black และ Green

เรื่องของหน้าจอแสดงภาพ รุ่นนี้จะใช้เป็นจอแบบ IPS-LCD มาตรฐานเหมือนกันกับทุกตัว ใช้ความคมชัด และมีสีสันที่สวยงามอยู่แล้ว ส่วนความกว้างของหน้าจอ จะมีความกว้างอยู่ที่ 5.45 นิ้ว ก็อยู่ในระดับใหญ่กลางๆ ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ก็ถือว่าใช้งานได้อย่างพอดีๆ ดูได้อย่างเต็มตาแน่นอน ส่วนในเรื่องของชิปเซต รุ่นนี้จะเป็นชิป Helio P22 ที่สามารถเล่นเกมได้ดี ใช้งานได้ไหลลื่น ไม่แพ้ใครเหมือนกัน หน่วยความจำมีมาให้ 2GB ใช้งานควบคู่กันไปกับความจำ 32GB ใช้งานได้อย่างเต็มที่ เหมาะสมกับราคา และแบรนด์ระดับนี้อยู่แล้ว

เรื่องของกล้องจะบอกว่ารุ่นนี้ ไม่ได้เน้นทางด้านการถ่ายภาพมากนักก็ว่าได้ แต่กล้องหน้าก็มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล มาตรฐานเท่ากับทุกรุ่น เซลฟี่ได้สบายๆ มาพร้อมกล้องหลังที่มีความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ถ่ายวิว ถ่ายตอนกลางวันก็มีความคมชัด และให้ภาพที่สวยงามอยู่เหมือนกัน ถ่ายวิดีโอระดับ HD ได้ด้วยนะ ก็ไม่ได้แย่มาก ความจุแบตเตอรี่ก็มีความจุ 3,020 mAh ใช้งานปกติได้ทั้งวันเหลือเฟือ เล่นเกมก็ยังเหลือๆเลย

ราคาของ Huawei Y5p จะมีราคาอยู่ที่ 2,999 บาท ไม่ได้แรงมากอย่างที่คิด ถ้าลองวัดกันตามความคุ้มค่าแล้ว รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่น ที่มีความคุ้มค่าทางการใช้งาน จะใช้ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมมก็ได้ทั้งนั้น ก็คือเอามาใช้ได้ในทุกๆ ด้านที่เท่ากัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป หรือจะซื้อให้ลูกหลาน ไปจนถึงญาติผู้ใหญ่เลยก็ยังได้ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Huawei Y5p

สรุป

แล้วทั้งหมดนี้ก็เป็นมือถือราคา 2000-3000 บาท ที่ได้รวบรวมมาแนะนำให้ได้ลองเลือกซื้อกัน ถึงแม้ว่าบางตัวอาจจะออกมานานแล้ว แต่ประสิทธิภาพการใช้งานของตัวเครื่องนั้น ก็ยังแรงและน่าสนใจอยู่ไม่น้อยเลย หรืออาจมีรุ่นที่ติดโปรฯ ที่ราคาลงมาถูกกว่า 3,000 บาท และสเปคแรงกว่านี้ แต่ต้องติดแพ็กเกจของค่ายโอเปอร์เรเตอร์ใหญ่ๆ ก็มีอีกเยอะมากๆ

ส่วนถ้าใครอยากได้มือถือราคาไม่แรงมากและเน้นการถ่ายรูปเป็นหลัก แนะนำเป็นตัว Wiko View4 Lite ที่มีกล้องคมชัด หน้าชัดหลังเบลอไปจนถึง โบเก้เลย สามารถถ่ายภาพและเก็บไว้ได้เยอะ แถมสเปคก็แรงด้วย หน้าจอใหญ่อีกต่างหาก

ส่วนคนที่ชอบเล่นเกม และเน้นการเล่นเกมเป็นหลัก ก็มีมือถือราคาไม่แรงแต่ได้ชิปเล่นเกมได้อย่าง Redmi 9A ที่มีชิป Helio G25 เล่นเกมได้ลื่นๆ ในระดับราคาไม่แพงได้เลย แถมแบตเตอรี่เยอะจุใจสุดๆ ได้หน้าจอใหญ่มากๆด้วย

ส่วนการใช้งานแบบปกติที่เน้นการใช้งานทั่วๆไป ไม่ได้เน้นเล่นอะไรมาก แต่มีราคาที่น่าสนใจ และใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพดีเยี่ยมก็ แนะนำเป็นรุ่น Samsung Galaxy A01 Core กับ Huawei Y5p และ Nokia 2.2 ที่มีราคาเหมาะสม คุ้มค่าต่อการใช้งาน จะซื้อเป็นของขวัญก็น่าสนใจอยู่เหมือนกันนะ

แล้วถ้ามีเรื่องราวอัพเดทที่น่าสนใจอีก หรือมีมือถือรุ่นไหน ที่ออกมาใหม่และคุ้มค่ากับการใช้งาน เราก็จะมาแนะนำกันอีกเรื่อยๆเลยนะครับ