สำหรับคนที่หามือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท ที่เพิ่งออกมาใหม่ในปี 2020 และกำลังตัดสินใจเลือกกันอยู่ว่า จะซื้อมือถือรุ่นไหนดี ที่มีสเปคแรง คุ้มค่ากับราคา และสามารถเล่นได้อย่างไหลลื่นไม่มีสะดุด วันนี้เราได้คัดมาแล้ว ให้ทุกคนได้ลองเลือก ลองตัดสินใจกัน
ในปีนี้มีมือถือสมาร์ทโฟนออกมาใหม่เยอะมาก มีให้เลือกใช้กันตั้งแต่ราคาต่ำกว่า 10,000 บาท ไปจนถึง หลัก 4x.xxx บาท เลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็ทำออกมาแข่งขันกันอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ว่าจะราคาต่ำ หรือราคาสูงลิบลิ่ว ความแรงของเครื่องก็ต้องมาก่อนเสมอ แต่วันนี้เราจะมาดูกันว่า ภายในงบมือถือราคา 15,000 – 20,000 ที่น่าใช้ในปี 2020 มีแบรนด์ไหน รุ่นอะไร ที่น่าสนใจกันบ้าง มาดูกันแลย
1. Samsung Galaxy A71 5G ราคา 19,990 บาท
ประเดิมกันด้วยรุ่นแรก กับมือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท อย่าง Samsung Galaxy A71 5G เป็นมือถือ 5G ของ Samsung ที่ราคาไม่ได้สูงมากนัก โดยตัวนี้จะอัพเกรดมาจากตัว Samsung Galaxy A71 ให้รองรับ 5G ได้ และรูปลักษณ์ภายนอกที่ทำออกมาได้สวยงาม มีทั้งหมด 3 สี คือ Silver, Black และ Blue ทั้งยังมีความบางลง และน้ำหนักที่เบากว่ารุ่นก่อนหน้าด้วย
เรื่องของสเปคภายนอกนั้น วัสดุใช้เป็นเมทัลเฟรม และบุฝาหลังที่เป็นพลาสติก ที่ดีกว่าตัว 4G ที่ขนาด 162.50 x 75.50 มิลลิเมตร ก็ถือว่าไม่ใหญ่และไม่เล็กเกินไปนัก ขนาดพอดีมือเลย น้ำหนัก 185 กรัม ถึงแม้ว่าจะเป็นพลาสติก แต่ก็ถือว่ามีความแข็งแรงพอสมควรเลย จากการที่ได้ลองใช้งานดูแล้ว มาพร้อมกับชิป Exynos 980 และชิปกราฟิก Mali-G76 MP5 ให้ความเร็วไม่พอ ยังสามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นๆเลยแหละ หน้าจอเป็นแบบ Full HD+ แบบ Super AMOLED Plus กว้าง 6.7 นิ้ว กว้างได้ใจผู้ใช้งาน แถมได้สีสันสวยงาม บางกว่าเดิมด้วยตัวนี้ ไม่เทอะทะเวลาหยิบขึ้นมาใช้งาน
กล้องของ Galaxy A71 5G ตัวนี้จะมีกล้องหลังถึง 4 ตัวด้วยกัน ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล โดยแบ่งเป็น Ultrawide, Macro และกล้อง Depth เท่าที่ลองใช้งานดู ถ่ายสนุก ภาพชัด จะถ่ายกลางวันหรือกลางคืนก็ยังชัดไม่ต่างจากรุ่นใหญ่เลย กล้องหน้าตัวนี้ให้ความละเอียดมา 32 ล้านพิกเซล พร้อมกับการถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ หรือจะถ่ายย้อนแสงก็ยังสวย สายเซลฟี่คือดี ลืมบอกไปว่ารุ่นนี้แรม 8GB กับหน่วยความจำ 128GB ถ่ายให้หน้าชาก็ยังไม่หมด
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้ มีความจุที่ 4,500 mAh แบบ Li – Po เป็นช่องชาร์จแบบ Type-C พร้อมกับการรองรับ Super – Fast Charging และให้อแดปเตอร์ขนาด 25W มาให้อีกด้วย เรียกว่าใช้ทั้งวันก็ยังไม่หมด เพราะชิปที่ให้มา มันช่วยประหยัดพลังงานด้วย ถึงจะหมดก็ชาร์จแค่ชั่วโมงนิดๆก็เต็มแล้ว ไม่ต้องเสียเวลารอนาน
ราคาของ Samsung Galaxy A71 5G มีราคาเครื่องเปล่าที่ศูนย์อยู่ที่ 19,990 บาท แต่ต้องใช้เครือข่าย ที่รองรับ 5G ด้วยนะ ตอนนี้มีแค่ค่ายเดียวที่ขายอยู่ก็คือ AIS และถ้าซื้อพร้อมกับโปรโมชันก็สามารถลดค่าเครื่องได้อีกถึง 9,500 บาท แต่ราคานี้ ต้องติดแพ็กเกจของทาง AIS โดยการเสียค่าแพ็กเกจรายเดือนไปด้วย แต่ถ้าใครจะซื้อไปเพื่อใช้งานอยู่แล้ว ก็ถือว่าคุ้ม ไม่เสียหายถึงแม้จะต้องจ่ายค่าแพกเกจเพิ่มไปด้วย
สามารถเข้าไปดูข้อมูลสเปคเพิ่มเติมได้ที่ Samsung Galaxy A71 5G หรืออยากเห็นตอนเล่นอยู่ก็ได้ตามคลิปข้างล่างนี้เลย
2. Realme X3 Super Zoom ราคา 19,990 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท ตัวต่อมาคือ Realme X3 Super Zoom ที่ออกมาได้สักพักแล้ว แต่กระแสตอบรับก็ถือว่าดีเยี่ยมเลยแหละ ด้วยสเปคระดับเทพเท่าเรือธง และดีไซน์ภายนอกที่สวยงาม ดูมีระดับ แถมราคาก็อยู่ที่กลางๆ ไม่ได้สูงเกินไป ที่เด่นๆ มาตามชื่อก็คือ สามารถซูมได้ 60 เท่า นั่นเอง รุ่นนี้ทำออกมาทั้งหมด 2 สี คือ White และ Green สีสวยสะท้อนแสงวิบวับมาก
ด้านนอกของตัวเครื่องจะเป็น Aluminum Frame แต่ด้านหน้า และด้านหลังเป็นกระจกแบบ Gorilla Glass 5 ให้ความแข็งรง ทนทานหายห่วงไปเลย ในกล่องจะให้เคสมาด้วย เผื่อยังหาไม่ทันก็ใส่ป้องกันไปก่อนได้ ขนาดตัวเครื่อง 163.80 x 75.80 มิลลิเมตร กับความหนา 8.9 มิลลิเมตร และหนัก 202 กรัม เท่าที่ลองถือก็มีน้ำหนักอยู่พอสมควร น่าจะเพราะความหนาของตัวเครื่องด้วย จึงทำให้ดูมีน้ำหนักหน่อย
หน้าจอจะเป็นแบบ IPS-LCD ขนาด 6.55 นิ้ว ถือว่าพอเหมาะพอดีกับการใช้งาน ภาพสวยแน่นอน ชิปของรุ่นนี้จะเป็น Snapdragon 855 Plus กับกราฟิก Adreno 640 ให้ความเร็วระดับดีเยี่ยมเลย พร้อมกับมีระบบระบายความร้อนในตัว ไม่ต้องกลัวเล่นไปแล้วจะร้อน
กล้องของ Realme X3 Super Zoom นั้น แน่นอนว่าเขาเน้นมาทางนี้โดยเฉพาะ ด้วยกล้อง 4 เลนส์ ความละเอียด 64 ล้านพิกเซล แบบ Wild, Ultrawide, Telephoto และ Macro พร้อมกับการซูมตั้งแต่ 0.5 ไปจนถึง 60 เท่าเลย ถ่ายหน้าชัดหลังเบลอคมชัด ทั้งกลางวันและกลางคืน ถือว่าทำออกมาได้สุดจัดเลย สำหรับกล้องของตัวนี้ สายกล้องต้องมา กล้องหน้ารุ่นนี้จะมีสองตัว คือเลนส์ Wide และ Ultrawide เรียกได้ว่าจะถ่ายเดี่ยว หรือถ่ายรูปกลุ่มกับเพื่อนก็ไม่มีใครตกขอบแน่นอน
แบตเตอรี่มีความจุที่ 4,200 mAh ก็ไม่ได้น้อยเกินไป สามารถเล่นได้ทั้งวันเหลือๆ เป็นแบบ Li-Po และรองรับ Fast Charging มากถึง 30W เร็วขนาดไหนถามใจดู ประมาณ 55 นาทีก็เต็มแล้ว ไม่ต้องรอนานก็หยิบมาเล่นต่อได้อย่างสบายใจ อาจเพราะด้วยสเปคตัวเครื่องที่มีระดับพอๆกับตัวเทพ จึงทำให้สามารถจัดการ กับทรัพยากรของตัวเครื่องได้เป็นอย่างดี
ราคาของ Realme X3 Super Zoom มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 19,990 บาท แต่ถ้าซื้อพร้อมแพ็กเกจ จากทางค่ายโอเปอร์เรเตอร์อย่าง AIS และ TrueMove H ก็สามารถลดได้อีกมากถึง 7,500 บาทเลย แต่ต้องซื้อร่วมกับแพ็กเกจเท่านั้นนะ แต่โดยรวมกับราคา และความคุ้มค่าในการใช้งาน ถือว่าตัวนี้เป็นตัวเทพอีกตัวนึงเลยก็ได้ ใครที่สนใจรายละเอียดมากกว่านี้ ก็สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ สเปค Realme X3 Super Zoom
3. Huawei Nova 7 ราคา 16,990 บาท
มาถึงตัวที่สามแล้ว สำหรับมือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท อีกหนึ่งตัวที่ถือว่ามีความเทพไม่แพ้กัน แถมได้รับความนิยมอยู่พอสมควรด้วย กับ Huawei Nova 7 มือถือที่รองรับ 5G ได้ ในราคากลางๆ แถมสเปคก็แรงไม่แพ้รุ่นใหญ่ๆเลย เล่นเกมได้ไม่มีสะดุดแน่นอน ถ่ายรูปก็ดีงาม ดีไซน์สวยว้าว สีสวยสด มีสองสีให้เลือกคือ Midsummer Purple กับ Space Silver
สเปคภายนอกวัสดุเป็นโลหะ กับกระจก ทำให้ดูพรีเมียมกว่าตัว Nova 7 SE น้ำหนักจึงค่อนข้างเบาอยู่ที่ 180 กรัม และหนาเพียง 7.90 มิลลิเมตร ออกแบบมาเพื่อให้เข้ากับการถือแบบกระชับมือ โดยตัวนี้จะได้ชิป Kirin 985 ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นมาใหม่ พื่อให้ตัวเครื่องตอบสนองกับการใช้ 5G ได้โดยไม่ต้องใช้ชิปเลยด้วยซ้ำ ส่วนกราฟิกได้ใส่ Mali G77 MP8 มาให้ ช่วยให้การใช้งาน รวมไปถึงการเล่นเกมมีความลื่นมากขึ้น หน้าจอของรุ่นนี้จะเป็น OLED ที่ช่วยให้การแสดงภาพออกมาได้อย่างสวย สดใส พร้อมกับช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้นอีกด้วย
กล้องของ Huawei Nova 7 ก็ไม่ได้น้อยหน้าไปจากเจ้าอื่นนัก เพราะให้มาถึง 4 เลนส์ 64 ล้านพิกเซล ถ่ายได้ตั้งแต่เลนส์ Ultrawide, Telephoto และMacro เรียกว่าจะถ่ายคน ถ่ายวิว ถ่ายอะไรก็ได้ ไม่เคยเกี่ยง อีกอย่างที่โหดมากคือมา พร้อมกับแรม 8GB และความจำ 256GB จะใช้ยังไงให้แต็มได้ก็คงยาก แต่เครื่องนี้จะมีข้อสะดุดนิดๆตรงที่ ไม่ได้มีการติดตั้ง GMS มาให้ ถ้าจะใช้อะไรก็ต้องทำผ่าน AppGallery ของ Huawei หรือไม่ก็ต้องลงแยกเอา แต่ถ้าใครมีฝีมือก็สามารถทำเองได้เลย
แบตเตอรี่ของรุ่นนี้จะแป็นแบบ Li – Po ที่ความจุ 4,000 mAh ก็ถือว่าไม่ได้น้อยเกินไปจนใช้งานไม่นานก็หมด ถ้าใช้งานปกติก็สามารถอยู่ได้เป็นวัน อีกอย่างคือหน้าจอช่วยลดพลังได้อยู่แล้วด้วย แต่ถ้าใช้เยอะก็ไม่ต้องห่วงมากนัก เพราะเครื่องนี้รองรับ Super – Charge ได้ไวถึงขนาด 40W เร็วไวได้ใจคนใจร้อนแน่นอน ใช้ช่องเสียบแบบ Type-C ในกล่องให้สายแปลงเป็น 3.5 มาให้เลยพร้อมกับเคสกันกระแทกด้วย
ราคาของรุ่นนี้ ถ้าเป็นเครื่องเปล่าจะอยู่ที่ราคา 16,990 บาท ซึ่งเอาจริง ราคากลางๆ กับเครื่องที่แรง ได้ขนาดนี้ก็ค่อนข้างหาได้ยากแล้ว และยิ่งถ้าซื้อร่วมกับโปรโมชัน จากค่าย AIS ก็สามารถลดลงไปได้อีกถึง 6,000 บาทเลย แต่ต้องติดแพ็กเกจตามเงื่อนไขของ AIS ด้วย แต่ถ้าเทียบจากราคาตัวท็อปๆ ที่สามารถใช้ความเร็ว 5G ได้ ตัวนี้ก็ถือว่ามีราคากลางๆ ที่คุ้มค่าแก่การใช้งานมาก รายละเอียดเพิ่มเติม กดเพื่อดูสเปคของ Huawei Nova 7 หรือดูวิดีโอรีวิวได้จากข้างล่างนี้
4. iPhone SE 2020 128GB ราคา 16,900 บาท
เอาใจคนรัก Apple กันหน่อย มาทางฝั่ง iOS กันบ้าง กับ iPhone SE 2020 ตัว 128GB ที่เป็นมือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท แต่มีขนาดความแรงที่ใหญ่มาก เทียบเท่ารุ่นพี่อย่าง iPhone 11 เลยด้วยซ้ำ เล่นเกม ใช้งานได้ดีไม่มีสะดุด บนขนาดที่พอดีมือเทียบเท่าได้กับ iPhone 8 จับกระชับมือ ดีไซน์โฉบเฉี่ยวเหมือนเดิม มีสีด้วยกัน 3 สี คือ สีดำ, สีขาว และสีแดง
ภายนอกของตัวเครื่องนั้น จะมีขนาดที่เท่ากับ iPhone 8 เลยก็ว่าได้ ที่ขนาด 138.4 × 67.3 มิลลิเมตร ความหนา 7.3 มิลลิเมตร น้ำหนัก 148 กรัม เบาบาง ถือจับเข้ามือพอดี ไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป สมกับเป็นแบรนด์ Apple จริงๆ ตัวเครื่องด้านข้างจะเป็น อะลูมิเนียมแบบไร้รอยต่อ ด้านหน้าและด้านหลังจะเป็นกระจก ที่มีความทนทาน และรองรับ Wireless Charging ด้วย ตัวนี้ได้ชิป A13 มาใช้ในการทำงานของตัวเครื่อง ช่วยให้สามารถเล่นได้อย่างไหลลื่น เทียบเท่ากับ iPhone 11 เลย
ส่วนหน้าจอจะเป็น Retina HD ขนาด 4.7 พาแนล และเป็นแบบ IPS LCD แสดงผลหน้าจอแบบ True Tone ไม่ว่าจะอยู่สภาพแสงแบบไหน ตัวหน้าจอก็ปรับให้เข้ากับเรา และให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด ส่วนด้านหลังตัวนี้ยังคงมี Touch ID มาให้ ออกแนวคลาสสิคหน่อยๆ แต่ใช้งานได้เหมือนปกติดีแน่นอน
กล้องของ iPhone SE 128GB จะเป็นกล้องเดี่ยวเลนส์ไวด์มาให้ ที่ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล แต่ด้วยความเทพของชิป A13 ก็จะช่วยให้ประมวลผลภาพได้ดียิ่งขึ้นไปอีก สามารถสร้างสรรค์ภาพถ่ายได้เหมือนรุ่นทั่วไป จะพาโนรามา หรือถ่ายหน้าชัดหลังเบลอ ก็สามารถทำออกมาได้อย่างสวยงามแต่อันนี้จะไม่มีโหลดกลางคืนนะ ส่วนกล้องหน้า ให้ความละเอียดอยู่ที่ 7 ล้านพิกเซล มาพร้อมกับไฟแฟลชบนหน้าจอ Retina Flash ให้เราถ่ายเซลฟี่ตอนกลางคืน เป็นเรื่องที่ง่ายกว่าเดิม
เรื่องของแบตเตอรี่ของตัวนี้ มีความจุอยู่ที่ 1,821 mAh อันนี้ต้องยอมรับว่าอาจจะยังไม่เพียงพอ ต่อการเล่นหนักๆ ทั้งวัน แต่ถ้าใช้แบบปกติก็สามารถอยู่ได้สบายๆ หรือถ้าใครเป็นพวกชอบพก Power Bank ก็พอช่วยได้อยู่ รุ่นนี้รองรับ Fast Charging ที่ความเร็วสูงสุด 18W แต่ต้องซื้ออแดปเตอร์แยกอีกที เพื่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ราคาของ iPhone SE 2020 128GB มีราคาเครื่องเปล่าอยู่ที่ 16,900 บาท ซึ่งแนะนำตัวนี้มากกว่าตัวที่ความจำน้อยกว่า เพราะสมัยนี้การใช้พื้นที่ในตัวเครื่องค่อนข้างเยอะ และถ้าซื้อพร้อมกับแพ็กเกจ จากค่ายใหญ่ๆ สามารถลดได้มากถึง 7,600 เลยทีเดียว แต่ก็ต้องติดสัญญาเงื่อนไขของแต่ละค่ายด้วย สรุปโดยรวมแล้ว เครื่องนี้ถือว่า ทำออกมาได้คุ้มค่าอยู่เหมือนกัน ได้ทั้งความแรง และดีไซน์ที่สวยงาม เหมาะสำหรับคนที่มีงบกลางๆ และอยากได้เครื่องระดับบเรือธงอย่าง Apple สามารถกดเพื่อ ดูรายละเอียด iPhone SE 2020 เพิ่มเติม หรือ ดูรีวิว iPhone SE 2020
5. OnePlus Nord ราคา 17,990 บาท
มือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท รุ่นสุดท้ายที่มาแรงแซงทางโค้งสุดๆ กับ OnePlus Nord ที่กำลังจะวางขายแล้ว ราคาหมื่นกลางๆ แต่ได้ความเทพระดับการใช้งาน 5G มาครอบครอง (แต่ต้องรอคลื่น 700MHz มาก่อนนะ) ก็ถือว่าไม่ธรรมดาจริงๆ สเปคก็แรง จะถ่ายรูปก็ทำได้เยี่ยม พกพาสะดวกหายห่วง ขนาดกำลังดี หน้าจอใหญ่ เรียกว่าครบจัด มีสีให้เลือก 2 สีคือ Blue Marble และ Gray Onyx
ภายนอกตัวเครื่องของ OnePlus Nord จะออกแนวคล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้า คือ OnePlus 8 Series แต่ไม่เหมือนกันที่หน้าจอตัวใหม่นี้ ไม่มีความโค้งแล้ว ด้านหน้า และด้านหลังจะเป็นกระจกแบนจาก Corning Gorilla Glass 5 สร้างความทนทานมาเป็นอย่างดี ขนาดตัวเครื่อง 158.3 x 73.3 และหนา 8.2 มิลลิเมตร จะดูตันๆนิดนึง แต่น้ำหนักเพียง 184 กรัมเท่านั้น ความกว้างหน้าจอ 6.44 นิ้ว เป็นแบบ Fluid AMOLED ถือว่าขนาดกำลังดี เสริมหล่อด้วยชิป Snapdragon 765G ตัวแรง เล่นเกมไม่มีสะดุด ใช้งานไหลลื่นขั้นเทพ
กล้องหลังของ OnePlus Nord มีมาถึง 4 ตัว 48 ล้านพิกเซล Ultrawide, Depth และ Macro มีระบบป้องกันการสั่น จะถ่ายโหมดกลางคืน ถ่ายภาพคน ก็ยังได้ ซึ่งถือว่าเยอะ และชัดพอสมควรเลย กับราคากลางๆ แบบนี้ รุ่นนี้จะมีทั้งแบบ แรม 8/12GB กับหน่วยความจำ 128/256GB ให้ได้เลือกกัน แต่ที่เข้ามาบ้านเราน่าจะเป็นตัวแรกก่อน ส่วนกล้องหน้า เป็นกล้องหน้าคู่โหดๆกันอีกแล้ว ความละเอียด 32MP เลนส์ไวด์ และอัลตราไวด์ จะถ่ายกับเพื่อนเป็นกลุ่มก็เก็บครบทุกคน ไม่ต้องหามุมเยอะ
แบตเตอรี่ก็เทพไม่แพ้กัน โดยจะเป็นแบบ Li-Po ขนาดความจุที่ 4,115 mAh ก็ถือว่าเยอะและใช้ได้ทั้งวัน ไท่ต้องมาคอยชาร์จใหม่ แต่ถ้าเล่นหนักจัดๆ จนหมดก็ยิ่งไม่ต้องกังวล เพราะเค้าสามารถรองรับ ระบบ Warp Charging 30W สามารถชาร์จ 1-70% ในเวลาเพียง 30 นาที! มาพร้อมกับช่อง Type-C ใช้งานสะดวกทุกที่
ราคาของ OnePlus Nord จะมีราคาเครื่องเปล่าเริ่มต้นอยู่ที่ 14,990 บาท ส่วนอีกรุ่นที่เยอะกว่า ราคา 17,990 บาท สำหรับราคานี้ กับเครื่องที่สเปคแรงได้ถึงขนาดนี้ สมกับที่ได้รับสมญานามว่า นักฆ่าเรือธงอย่างแท้จริง ส่วนราคาพร้อมแพ็กเกจในตอนนี้ยังไม่มีออกมา แต่ถ้ามีเมื่อไหร่เราจะรีบมาอัพเดทให้รู้กันอีกที ส่วนรายละเอียดอย่างอื่น สามารถ กดเพื่อดูสเปค OnePlus Nord เพิ่มเติม
สรุป มือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท
แล้วนี่ก็คือมือถือที่น่าสนใจ ในราคาที่ไม่เกิน 20000 บาท อัพเดตให้กันในเดือนสิงหาคม 2020 นี้ ซึ่งก็มีหลากหลายยี่ห้อต่างกันไป ซึ่งอาจจะมียี่ห้อ หรือรุ่นที่ดีกว่านี้ แต่ที่เรานำมาแนะนำกันก็ถือว่าอยู่ในระดับที่เป็นราคากลาง สามารถจับต้องความเทพได้แค่เอื้อม บางตัวเทียบเท่าระดับเรือธงได้เลยด้วยซ้ำ ถ้าจะสรุปเลือกว่าใครเหมาะกับสมาร์ทโฟนแบบไหน ก็สามารถสรุปตามตารางได้ ดังนี้
สเปค Samsung Galaxy A71 5G Realme X3 Super Zoom Huawei Nova 7 iPhone SE 2020 128GB OnePlus Nord หน้าจอ Super AMOLED Plus กว้าง 6.7 นิ้ว IPS-LCD
กว้าง 6.57 นิ้ว 120HzOLED
กว้าง 6.53 นิ้วRetina Display
กว้าง 4.7 นิ้วFluid AMOLED
กว้าง 6.44 นิ้ว 90Hzชิปประมวลผล Exynos 980 Octa Core Qualcomm Snapdragon 855+ Huawei Kirin 985 Apple A13 Bionic Snapdragon 765G 5G ชิปประมวลผลกราฟฟิก (GPU) Mali-G76 Adreno 640 Mali G77 Apple GPU Adreno 620 กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซล 32 ล้านพิกเซล 32 ล้านพิกเซล 7 ล้านพิกเซล 32 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 4 เลนส์
กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล
Ultrawide 12 ล้านพิกเซล
Depth 5 ล้านพิกเซล
Macro 5 ล้านพิกเซล4 เลนส์
กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล
Ultrawide 8 ล้านพิกเซล
Tele 8 ล้านพิกเซล ซูมไกลสุด 60 เท่า
Macro 2 ล้านพิกเซล4 เลนส์
กล้องหลัก 64 ล้านพิกเซล
Ultrawide 8 ล้านพิกเซล
Tele 8 ล้านพิกเซล
Macro 2 ล้านพิกเซล1 เลนส์ 12 ล้านพิกเซล 4 เลนส์
กล้องหลัก 48 ล้านพิกเซล
Ultrawide 8 ล้านพิกเซล
Depth 5 ล้านพิกเซล
Macro 2 ล้านพิกเซลRAM และ พื้นที่จัดเก็บข้อมูล RAM 8GB
ROM 128GBRAM 8GB
ROM 128GBRAM 8GB
ROM 256GBRAM 3GB
ROM 128GBRAM 8/12GB
ROM 128/256GBหน่วยความจำภายนอก MicroSD สูงสุด 1 TB – – – – ระบบปฏิบัติการ One UI 2 บนพื้นฐาน Android 10.0 realme UI บนพื้นฐาน Android 10.0 EMUI 10.1 บนพื้นฐาน Android 10 + HMS iOS 13.4 OxygenOS บนพื้นฐาน Android 10.0 แบตเตอรี่ 4,500 mAh
รองรับชาร์จไว 25W4,200 mAh
รองรับชาร์จไว 30W4,000 mAh
รองรับชาร์จไว 40W1,821 mAh
รองรับชาร์จไว 18W (ซื้อแยก)4,115 mAh
รองรับชาร์จไว 30Wระบบความปลอดภัย สแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ ระบบตรวจสอบลายนิ้วมือ ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ
ระบบจดจำใบหน้าTouch ID ระบบสแกนลายนิ้วมือใต้หน้าจอ NFC รองรับ – – รองรับ รองรับ การเชื่อมต่อ WiFi 802.11 a/b/g/n/ac
Bluetooth 5.0
Type-C
GPSWiFi 802.11 a/b/g/n/ac
Bluetooth 5.0
Type-C
GPSWiFi 802.11 a/b/g/n/ac
Bluetooth 5.1
Type-C
GPSWiFi 802.11 a/b/g/n/ac/ax
Bluetooth 5.0
USB Lightning
GPSWiFi 802.11 a/b/g/n/ac
Bluetooth 5.1
Type-C
GPSราคา 19,990 บาท 19,990 บาท 16,990 บาท 16,900 บาท 17,990 บาท
แต่ถ้าดูตามตารางแล้วยังไม่รู้ว่าเหมาะกับตัวเองอย่างไร สามารถอ่านได้ตามด้านล่างเลย
สำหรับคนที่ต้องการใช้ 5G แบบเต็มที่หน่อยก็ต้องเป็น Samsung Galaxy A71 5G ที่สามารถรองรับ 5G ได้อย่างเต็มที่ และสเปคเครื่องก็ค่อนข้างแรง ใช้งานได้ดีทั้งเล่นเกม และถ่ายรูป แต่ถ้าหากไม่ต้องการ 5G แต่อยากใช้ Samsung ก็ขอแนะนำเป็นตัว Samsung Galaxy S10 Lite เพราะได้ชิปเซ็ตที่แรงกว่าด้วย
สำหรับคนที่ไม่ติดเรื่อง GMS แต่อยากใช้ 5G ได้ พร้อมกับเครื่องสเปคแรงราคาเบาๆ ก็เลือกเป็นตัว Huawei Nova 7 ที่ราคาต่ำลงมาหน่อยนึง แต่ก็ยังมีความสามารถที่ครบ และใช้งานได้ดีมาก
สำหรับคนที่ไปทางสายกล้องถ่ายรูป อยากถ่ายรูปสวยๆ ก็ต้องเลือกตัว Realme X3 Super Zoom ที่มีความสวยตั้งแต่ภายนอก ไปจนถึงการถ่ายรูปที่สามารถซูมได้ถึง 60 เท่า และยังมีฟังก์ชันอีกมากมายให้ใช้งานร่วมด้วย หรือจะเป็น OnePlus Nord ก็ยังได้
ส่วนคนที่เป็นสาย iOS ก็ต้องใช้ iPhone SE 2020 128GB ที่ราคาพอจับต้องได้ และตัวเครื่องมีความแรงไม่น้อยไปกว่าตัวใหม่ๆ ที่ออกมาเลย ถ้าเทียบจริงๆก็ได้เท่า iPhone 11 กันเลยทีเดียว
ส่วนคนที่อยากได้ครบๆ จบทุกเรื่องราว ต้องเป็น OnePlus Nord ที่กำลังจะเปิดตัวแล้ว ด้วยความครบทั้ง 5G (ต้องรอคลื่น 700MHz มาก่อน) และสเปคที่มีความแรง ถ่ายรูปสวย เหมือนรวมทุกอย่างมาไว้ที่เครื่องนี้แล้ว
ใครที่มีงบประมาณเท่าไหน ก็ลองหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อด้วย และที่สำคัญคือ ต้องซื้อแล้วเหมาะกับการใช้งานของเราด้วย ฟังก์ชันที่เค้าให้มาจะได้มีประสิทธิภาพในการใช้งานมากขึ้น แล้วทั้งหมดนี้ก็คือ มือถือราคาไม่เกิน 20000 บาท ในปี 2020 ที่เรานำมาฝากกัน ถ้ามีข้อมูลดีดี ก็จะมาแนะนำกันเรื่อยๆ นะครับ