5 วิธีดูเเลรักษาเเบตเตอรี่ในสมาร์ทโฟนเเละเเท็บเล็ตให้มีอายุยืนยาว

เรื่องเเบตเตอรี่ยังคงเป็นเรื่องที่ควรให้ความสำคัญระดับต้นๆ สำหรับสมาร์ทโฟนเพราะเนื่องจากเเบตเตอรี่นั้นมีการใช้งานได้ในระยะเวลาที่จำกัดในขณะที่เราใช้ชีวิตอยู่กับอุปกรณ์เหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งเทคนิคการดูเเละรักษาเเบตเตอรี่นั้นมีความเข้าใจผิดอยู่หลายประการหรือเราอาจจะไม่รู้วิธีการดูเเลรักษาอย่างถูกวิธี บางครั้งนั้นเราก็ทำร้ายเเบตเตอรี่โดยรู้เท่าไม่ถึงการ เรามาดูเรื่องที่คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจผิดเกี่ยวกับเเบตเตอรี่กันดีกว่าครับ

1. ไม่ควร calibrate เเบตเตอรี่บ่อยๆ

หลายคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับการ calibrate เเบตเตอรี่เพื่อให้ระบบเเสดงค่าเเบตเตอรี่ได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการ calibrate นั้นสามารถทำได้ด้วยการใช้งานให้เเบตเตอรี่หมดเสียก่อน เเล้วค่อยทำการชาร์จใหม่ ซึ่งความเชื่อดังกล่าวนี้จริงในสมัยที่เเบตเตอรี่ยังถูกผลิตจาก NiCd ที่มีปัญหาเรื่อง Memory Effect (ใช้ไฟในเเบตเตอรี่ไม่หมดทำให้เมื่อชาร์จไฟเข้าไปใหม่เเล้วเเบตเตอรี่ไม่สามารถชาร์จส่วนที่มีไฟเหลืออยู่ได้ อยู่จึงเก็บไฟได้น้อยลง) เเต่เทคโนโลยีเเบตเตอรี่ในปัจจุบันนี้เป็นเเบบ Li-ion นั้นได้เเก้ไขปัญหานี้ไปเเล้ว จึงไม่ควรให้เเบตเตอรีเหลือน้อยก่อนเเล้วค่อยชาร์จ จึงสามารถชาร์จเมื่อไรก็ได้ตามต้องการเลยครับ

2. ชาร์จนานเกินไป

โดยธรรมชาติของเเบตเตอรี่นั้น เมื่อมีความร้อนสะสมอยู่เป็นเวลานานจะทำให้อุณหภูมินั้นสูงซึ่งทำให้เสื่อมเร็วกว่าอุณหภูมิการใช้งานปกติ สำหรับสมาร์ทโฟนหรือเเท็บเล็ตบางรุ่นนั้นที่ไม่มีการตัดไฟเมื่อชาร์จครบ 100% นั้นจะทำให้มีการป้อนไฟเข้าไปยังเเบตเตอรี่เรื่อยๆ จนรู้สึกว่าร้อนกว่าเดิมอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งนั่นเป็นสาเหตุที่ทำให้เเบตเตอรี่เสื่อมเร็วนั่นเอง

อย่างไรก็ตาม อุปกรณ์บางรุ่นนั้นจะทำการตัดไฟเมื่อมีการชาร์จถึง 100% (หรือเกือบถึง) เเละเมื่อไฟต่ำกว่าระดับที่กำหนด เช่น ต่ำกว่า 90% ก็จะทำการชาร์จไฟอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถ้ามีระบบตัดไฟเเบบนี้ก็สามารถชาร์จได้นานเท่าไรก็ได้โดยไม่ต้องเป็นห่วง

วิธีสังเกตง่ายๆ คือถ้าเราชาร์จครบ 100% เมื่อไรให้ลองทิ้งไว้ซักพักหนึ่งเเละสังเกตดูหน้าจอดูว่ายังบอกสถานะการชาร์จไว้อยู่หรือไม่ ถ้าไม่มีการชาร์จเเล้วก็ถือว่ามีระบบตัดไฟมาให้ หรือไม่ก็ลองจับบริเวณด้านหลังของเครื่อง ถ้ามีความร้อนสูงเกินปกติเมื่อชาร์จเเบตเตอรี่เต็มเเล้วเเสดงว่าไม่ควรชาร์จทิ้งไว้นานเกินไปครับ

3. ทิ้งอุปกรณ์ไว้ในที่ร้อนๆ

นอกจากการชาร์จไว้นานๆ เเล้ว การวางอุปกรณ์ไว้ในที่มีความร้อนสูงเกินอุณหภูมิห้องก็ทำให้เเบเตตอรี่เสื่อมเร็วเช่นกัน เพราะเเบตเตอรี่ไม่ถูกกับความร้อนอย่างที่กล่าวไปข้างต้น พยายามหลีกเลี่ยงอย่างเช่นการวางไว้ในที่มีเเดดส่องถึง หรือไว้วางทิ้งไว้ในรถยนต์ครับ

4. ถ้าไม่ใช้งานเป็นระยะเวลานาน ไม่ควรชาร์จเเบตเตอรี่เต็มที่ 100%

สำหรับใครที่จะเก็บมือถือหรือเเท็บเล็ตที่ตั้งใจจะไม่ใช้เป็นเวลานาน ตามความรู้สึกเเล้วเราก็ควรที่จะชาร์จเเบตเตอรี่ไว้ให้เต็ม 100% เพื่อที่ให้มีไฟอยู่ในเครื่องมากจะได้ไม่เสื่อมไว เเต่จริงๆ เเล้วการชาร์จเเบตเตอรี่ที่เหมาะสมเมื่อไม่ใช้อุปกรณ์เเล้วควรชาร์จไว้ที่ประมาณ 40% เท่านั้น เพราะถ้าชาร์จเต็ม 100% เเล้วจะมีการคายประจุมากกว่าที่ 40% ครับ

5. การปล่อยให้เเบตเตอรี่หมด

การใช้งานเเบตเตอรี่นั้นจะเสื่อมเมื่อมีการใช้ไปเป็นระยะเวลานานซึ่งเป็นธรรมชาติของเเบตเตอรี่อยู่เเล้ว ซึ่งต่างจาก NiCD ที่ควรรอให้เเบตเตอรี่หมดก่อนถึงชาร์จ เเต่ Li-ion นี้ไม่ควรรอให้เเบตเตอรี่หมดก่อนถึงค่อยชาร์จเพราะจะทำให้เเบตเตอรี่เสื่อมเร็วกว่าปกติครับ

ที่มา : mobilecom