
20 อันดับความแรงการ์ดจอ 2025 ทั้ง NVIDIA และ AMD ที่แรงที่สุดช่วงกลางปีนี้มีรุ่นไหนบ้าง
ว่าด้วยเรื่องของการ์ดจอนั้นก็มีการอัพเดท และพัฒนาอย่างต่อเนื่องพอๆ กับวงการชิปมือถือเลยเหมือนกัน ซึ่งปีนี้ก็มีรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาแล้วอย่าง RTX 5000 Series ของ NVIDIA หรือว่าจะเป็น Radeon RX 9000 Series ของฝั่ง AMD ก็เปิดตัวออกมาใหม่ช่วงต้นปีนี้เช่นกัน วันนี้ทาง Specphone เลยจะมาอัพเดทความแรงการ์ดจอ 2025 ว่าช่วงกลางปีนี้มีรุ่นไหนบ้างที่แรงที่สุดในโลกจากทั้ง NVIDIA และ AMD ใครที่อยากรู้ว่าการ์ดจอรุ่นใหม่ๆ มีรุ่นไหนแรงและน่าสนใจบ้าง ก็ลองมาดูข้อมูลการจัดอันดับความแรง และอันดับ Ray Tracing ของปีนี้กันได้เลยว่ามีของรุ่นไหนบ้าง
วิธีการวัดคะแนนความแรงการ์ดจอ 2025

สำหรับคะแนนความแรงการ์ดจอ 2025 ที่เราจะมาจัดอันดับกันนี้อ้างอิงจากการทดสอบจริงของ Tom’s Hardware ซึ่งใช้เครื่องทดสอบที่แรงที่สุดในตลาดในช่วง 7 ปีที่ผ่านมาเกือบทุกรุ่น และการ์ดจอแต่ละรุ่นจะถูกทดสอบกับเกมยอดนิยมหลากหลายเกมไม่ว่าจะเป็น Assassin’s Creed Mirage, Baldur’s Gate 3, Black Myth Wukong, Dragon Age: The Veilguard, Final Fantasy XVI, God of War Ragnarök, Horizon Forbidden West และอื่นๆ ทั้งความละเอียด 1080p, 1440p และ 4K โดยเน้นเฟรมเรตที่ได้จากการตั้งค่า Ultra เป็นหลัก เพื่อให้เห็นศักยภาพสูงสุดของแต่ละการ์ดจอ ข้อมูลที่ได้จึงสะท้อนประสิทธิภาพจริง และยังแยกการทดสอบแบบมี Ray Tracing และไม่มี Ray Tracing ให้ด้วย

20 อันดับความแรงการ์ดจอ 2025 แบบไม่มี Ray Tracing
อันดับ | การ์ดจอ | 1080p Ultra | 1440p Ultra | 4K Ultra |
1 | GeForce RTX 5090 | 100.0% | 100.0% | 100.0% |
2 | GeForce RTX 4090 | 94.9% | 88.2% | 80.7% |
3 | GeForce RTX 5080 | 84.9% | 78.1% | 67.2% |
4 | GeForce RTX 4080 Super | 82.4% | 73.5% | 61.5% |
5 | Radeon RX 7900 XTX | 79.4% | 71.8% | 60.8% |
6 | GeForce RTX 5070 Ti | 79.1% | 71.0% | 58.7% |
7 | Radeon RX 9070 XT | 76.1% | 68.7% | 57.6% |
8 | GeForce RTX 4070 Ti Super | 73.7% | 64.0% | 51.4% |
9 | Radeon RX 7900 XT | 72.3% | 63.9% | 51.6% |
10 | Radeon RX 9070 | 69.6% | 61.1% | 50.2% |
11 | GeForce RTX 4070 Ti | 70.3% | 59.8% | 47.1% |
12 | GeForce RTX 5070 | 67.5% | 56.8% | 44.9% |
13 | GeForce RTX 4070 Super | 66.6% | 55.8% | 43.4% |
14 | Radeon RX 7800 XT | 57.2% | 48.6% | 38.5% |
15 | GeForce RTX 4070 | 58.5% | 47.9% | 37.2% |
16 | GeForce RTX 5060 Ti 16GB | 53.0% | 43.1% | 33.4% |
17 | Radeon RX 7700 XT | 50.2% | 42.7% | 32.8% |
18 | GeForce RTX 4060 Ti 16GB | 45.9% | 36.6% | 27.6% |
19 | Radeon RX 7600 XT | 36.7% | 29.4% | 21.4% |
20 | GeForce RTX 4060 | 36.9% | 27.5% | 15.9% |

20 อันดับความแรงการ์ดจอ 2025 แบบมี Ray Tracing
**ทดสอบจาก 4 เกมคือ Avatar: Frontiers of Pandora, Cyberpunk 2077, F1 24, and Spider-Man: Miles Morales ร่วมกับ DirectX 12 / DX12 Ultimate API**
อันดับ การ์ดจอ 1080p Ultra 1440p Ultra 4K Ultra 1 GeForce RTX 5090 100.0% 100.0% 100.0% 2 GeForce RTX 4090 92.3% 85.5% 78.8% 3 GeForce RTX 5080 84.9% 73.0% 63.7% 4 GeForce RTX 4080 Super 80.5% 68.5% 60.7% 5 GeForce RTX 5070 Ti 77.9% 64.3% 54.5% 6 Radeon RX 9070 XT 72.0% 58.7% 50.0% 7 GeForce RTX 4070 Ti Super 72.3% 57.7% 50.4% 8 GeForce RTX 4070 Ti 69.5% 54.4% 44.6% 9 Radeon RX 7900 XTX 66.4% 54.0% 44.9% 10 Radeon RX 9070 63.7% 50.8% 42.0% 11 GeForce RTX 4070 Super 64.6% 49.5% 39.8% 12 GeForce RTX 5070 63.5% 49.3% 40.7% 13 Radeon RX 7900 XT 59.2% 46.6% 38.4% 14 GeForce RTX 4070 54.9% 42.1% 33.9% 15 GeForce RTX 5060 Ti 16GB 48.5% 37.1% 30.0% 16 Radeon RX 7800 XT 46.0% 35.7% 30.2% 17 GeForce RTX 4060 Ti 16GB 42.2% 32.2% 25.3% 18 Radeon RX 7700 XT 41.8% 32.4% 23.7% 19 GeForce RTX 4060 33.4% 24.0% 16.8% 20 GeForce RTX 3060 12GB 27.6% 20.7% 16.3%
การทดสอบแบบมี Ray Tracing และไม่มี Ray Tracing ต่างกันยังไง
การทดสอบแบบมี Ray Tracing และไม่มี Ray Tracing แตกต่างกันหลักๆ ที่เทคโนโลยีการประมวลผลแสงและผลลัพธ์ที่ได้จากภาพ รวมถึงประสิทธิภาพของเฟรมเรตในเกม เมื่อเปิด Ray Tracing การ์ดจอจะใช้เทคนิคจำลองแสงที่ซับซ้อนขึ้น เช่น การสะท้อน การหักเห และเงาที่สมจริงมากขึ้น ภาพที่ได้จะดูมีมิติและสมจริงมากกว่าเดิม แต่ข้อเสียคือการประมวลผล Ray Tracing ต้องใช้ทรัพยากรการ์ดจอสูงมาก ส่งผลให้เฟรมเรตลดลงอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะในเกมที่กราฟิกหนักๆ หรือความละเอียดสูง
แต่ถ้า ปิด Ray Tracing หรือใช้การเรนเดอร์แบบปกติ (Rasterization) การ์ดจอจะประมวลผลแสงและเงาแบบง่ายกว่า แม้ภาพจะดูสวยงาม แต่ก็จะขาดความสมจริงในรายละเอียดของแสงและเงา เฟรมเรตจะสูงกว่าและเล่นได้ลื่นไหลมากขึ้น เพราะไม่ต้องใช้พลังประมวลผลมากเท่า Ray Tracing
ดังนั้นการทดสอบแบบมี Ray Tracing จะเน้นวัดศักยภาพการ์ดจอในการสร้างภาพที่สมจริงแต่ต้องแลกกับเฟรมเรตที่ลดลง ส่วนแบบไม่มี Ray Tracing จะเน้นประสิทธิภาพเฟรมเรตและความลื่นไหลมากกว่า แต่ความสมจริงของแสงและเงาจะน้อยลงนั่นเอง
เทคโนโลยีใหม่ในวงการการ์ดจอ 2025
ในปี 2025 เป็นปีที่เทคโนโลยีการ์ดจอเปลี่ยนแปลงเยอะมาก ทั้งฝั่ง NVIDIA ที่เปิดตัวสถาปัตยกรรม Blackwell ในซีรีส์ RTX 50 และ AMD ที่ขยับมาใช้ RDNA 4 ในซีรีส์ RX 9000 ซึ่งแต่ละค่ายก็ใส่ของใหม่มาเพียบ เช่น การเร่งประสิทธิภาพ AI, DLSS 4 Neural Rendering, Multi Frame Generation (MFG) ของ NVIDIA หรือ Ray Tracing รุ่นใหม่ของ AMD ที่แรงขึ้นและกินไฟน้อยลง สำหรับคอเกมหรือใครที่ชอบเทคโนโลยีใหม่ๆ ปีนี้ก็คาดว่าจะได้เห็นอะไรใหม่และดีกว่าเดิมอีกแน่นอน
เทรนด์และอนาคตของความแรงการ์ดจอ 2025
ปีนี้เห็นได้ชัดว่าทั้ง NVIDIA และ AMD เน้นการพัฒนา AI, Ray Tracing และเทคโนโลยี Frame Generation เพื่อให้ได้เฟรมเรตสูงขึ้นและภาพสมจริงมากขึ้น โดยเฉพาะ DLSS 4 Neural Rendering ของ NVIDIA ที่ช่วยเร่งเฟรมเรตได้ดีมากในเกมใหม่ๆ ส่วน AMD ก็เน้น Ray Tracing ที่ดีขึ้นและ VRAM เยอะขึ้นสำหรับงานต่างๆ อีกด้วย
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลการจัดอันดับความแรงการ์ดจอ 2025 ที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ สำหรับใครที่กำลังมองหาการ์ดจอแรงๆ มาใช้งาน ก็ต้องเริ่มจากการประเมินงบประมาณ และรูปแบบการใช้งานของตัวเองก่อน ถ้าเน้นประสิทธิภาพสูงสุดแบบไม่สนงบ RTX 5090 คือที่สุดของปี 2025 แต่ถ้าอยากได้ความแรงระดับท็อปที่คุ้มค่ากว่าสามารถเลือก RTX 4090 หรือ RX 9070 XT ที่ยังตอบโจทย์เกม 4K ได้สบาย
สำหรับคนที่เน้นความคุ้มค่าและใช้งานทั่วไป เลือกการ์ดจอระดับกลางอย่าง RTX 4070 Super หรือ RX 7800 XT ก็เหลือเฟือสำหรับเล่นเกม และใช้งานทั่วไปได้แล้ว ที่สำคัญอย่าลืมดูความเข้ากันได้กับอุปกรณ์อื่น เช่น PSU และขนาดเคส รวมถึงฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Ray Tracing หรือ DLSS ที่จะช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดียิ่งขึ้น สุดท้ายเลือกการ์ดจอที่เหมาะกับความต้องการของตัวเอง จะช่วยให้ใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพและคุ้มค่าที่สุด
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก tomshardware