แนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 – 10000 บาทในปี 2023 กล้องสวย เล่นเกมได้ ใช้งานได้ดี
มือถือสเปคเริ่มต้นสำหรับใช้งานสมาร์ทโฟน หรือว่ามือถือระดับกลางที่มีราคาไม่สูงมากในตอนนี้ ก็ถือว่ามีออกมาให้เลือกอยู่หลายรุ่นทีเดียว รวมไปถึงช่วงราคาของมือถือที่ไม่เกิน 5000 และไม่เกิน 10000 บาทที่มีรุ่นน่าสนใจและน่าใช้งานเหมือนกันในปีนี้ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ดีในระดับหนึ่งอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานทั่วไป ใช้ดูหนังฟังเพลงเพื่อความบันเทิง เอาไว้เล่นเกม หรือถ่ายรูปได้แบบสวยๆ ตามเรทราคาของแต่ละรุ่น ถ้าช่วงราคาไม่เกิน 5000 ก็จะได้สเปคที่ยังไม่สูงมากแต่ใช้งานได้ดี แต่ถ้ารุ่นที่มีราคาไม่เกิน 10000 ก็จะมีฟีเจอร์การใช้งานที่ครบมากกว่านั่นเอง สำหรับคนที่อยากได้โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 และไม่เกิน 10000 ในปีนี้และยังไม่รู้จะเลือกซื้อรุ่นไหนดี วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 – 10000 บาทในปี 2023 ที่ได้กล้องสวย เล่นเกมได้ พร้อมใช้งานได้ดี
- โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาท
- โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาท
ตารางเปรียบเทียบ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 – 10000 บาทปี 2023
10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 – 10000 บาทปี 2023
สำหรับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 และโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาททั้ง 10 รุ่นที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะแบ่งเป็น 2 แบบคือโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาททั้งหมด 5 รุ่น และมือถือราคาไม่เกิน 10000 อีก 5 รุ่นเท่าๆ กัน โดยแต่ละรุ่นส่วนใหญ่จะเป็นรุ่นที่เปิดตัวออกมาล่าสุดในปี 2023 นี้เลย จะมีเพียงบางรุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ดีอยู่เหมือนกัน ใครสนใจรุ่นไหนก็ลองดูสเปค หรือเทียบแต่ละรุ่นได้ที่ตารางด้านล่างเลย
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาท
1. Honor X6: ราคา 4,999 บาท
เริ่มด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทรุ่นแรกกับ Honor ที่เปิดตัวออกมาในช่วงต้นปีนี้กันก่อนเลย ซึ่งรุ่นนี้ก็ทำสเปคออกมาได้ดีงามมาก คุ้มค่ากับราคาและการใช้งานที่ครบแน่นอน โดยตัวเครื่องจะเป็นแบบขอบแบนถือได้ถนัดมือ ปลดล็อคลายนิ้วมือได้ที่ด้านข้าง และมีหน้าจอเป็นแบบ TFT LCD ระดับ HD กว้าง 6.5 นิ้ว มาพร้อมชิป Helio G25 ที่มี RAM 4GB และ ROM 64GB เพิ่มด้วย microSD ได้ถึง 1TB เล่นเกมทั่วไปได้ดี ส่วนกล้องหลังก็มีถึง 3 ตัวความละเอียดหลัก 50MP ชัดลึก 2MP และมาโคร 2MP ถ่ายทั่วไปและถ่ายแบบอื่นๆ ได้คมชัด ส่วนกล้องหน้ามี 5MP กับแบตอึดๆ ความจุ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 10W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
2. Redmi 12C: ราคา 3,699-4,999 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทในปี 2023 รุ่นต่อมานี้เป็นรุ่นที่เปิดตัวเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมาเช่นกัน แถมยังมีสเปคที่น่าสนใจมากๆ โดยเฉพาะคนที่อยากได้เอาไว้เล่นเกม และถ่ายรูปได้ดีด้วย โดยรุ่นนี้มีฝาหลังโค้งมนและมีสัมผัสกันลื่น ปลดล็อคลายนิ้วมือได้ด้านหลัง ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.71 นิ้วขนาดใหญ่มาก และยังได้ชิป Helio G85 มาช่วยเสริมความแรงที่มีให้เลือก 2 รุ่นคือรุ่น RAM 3/64GB และ 4/64GB มีฟีเจอร์ขยายแรมเพิ่มได้ ในราคาที่ต่างกันหลักพัน ส่วนกล้องของรุ่นนี้มีตัวหลัก 50MP และเลนส์เสริม QVGA ถ่ายย้อนแสงหรือที่แสงน้อยได้สวยเลย ส่วนกล้องหน้ามี 5MP และมีแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไว 10W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
3. Infinix Smart 7: ราคา 2,899 บาท
มาดูที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทในปี 2023ที่มีราคาเบาๆ ประหยัดเข้าถึงง่ายแต่ใช้งานได้ดีกันบ้างกับ Infinix ที่ขึ้นชื่อเรื่องสเปคคุ้มค่ากันอยู่แล้ว ซึ่งรุ่นนี้ก็เน้นที่การใช้งานลื่นๆ ได้หน้าจอใหญ่ ออกแบบฝาหลังเป็น 3D ที่มีลวดลายเหมือนสายน้ำ ป้องกันแบคทีเรียได้ และมีหน้าจอเป็น IPS ระดับ HD+ กว้าง 6.6 นิ้วอัตราส่วน 84% ปรับแสงได้อัตโนมัติ มาพร้อมชิป Helio A22 ที่มี RAM 3/64GB เพิ่มได้สูงสุด 2TB เหมาะสำหรับใช้งานทั่วไป หรือเน้นถ่ายรูปด้วยกล้องหลัง 13MP กับ AI Lens และกล้องหน้า 5MP ถ่ายวิว ภาพบุคคล หรือเซลฟี่ได้สวยๆ และมีแบตอึด 5,000 mAh ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
4. Infinix Hot 30: ราคา 4,799 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทในปี 2023 จาก Infinix อีกหนึ่งรุ่นที่ยกระดับขึ้นมาอีกหน่อย และรุ่นนี้ก็ยังเหมาะกับเอาไว้เล่นเกมเน้นๆ ถ้าเทียบกับรุ่นอื่นที่แนะนำก็น่าจะคุ้มที่สุดแล้ว ตัวเครื่องออกแบบมาเหมือนเป็นแก้ว สัมผัสได้เหมือนกระจก ส่วนหน้าจอเป็น IPS LCD แบบ LTPS กว้าง 6.78 นิ้วใหญ่จัดๆ และยังมีอัตรา Refresh Rate 90Hz เล่นได้ไหลลื่น โดยได้ความแรงจากชิป Helio G88 ที่มี RAM8/128GB ขยายได้สูงสุด 16GB พร้อมระบบระบายความร้อนแบบอัตโนมัติ และฟีเจอร์สำหรับคอเกมอีกเพียบ ส่วนกล้องหลังมี 50MP กับ AI Lens และมีกล้องหน้า 8MP ถ่ายได้สวยทุกช่วงเวลา มาพร้อมแบตอึด 5,000 mAh และรองรับชาร์จไวถึง 33W ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่
5. Samsung Galaxy A04s: ราคา 4,699 บาท
ปิดท้ายโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 บาทด้วยมือถือจาก Samsung รุ่นที่มีราคาไม่เกิน 5000 บาทจากราคาเดิม 4,999 บาทแต่ตอนนี้ปรับลงมาเหลือเพียง 4,699 บาทเท่านั้น ซึ่งรุ่นนี้ก็ถือว่าเป็นรุ่นสุดคุ้มกับราคาและสเปคอีกเช่นกัน โดยเฉพาะคนที่อยากได้มือถือมาไว้ถ่ายรูปสวยๆ มาพร้อมดีไซน์แบบมินิมอลเรียบๆ และมาหน้าจอเป็น PLS LCD ระดับ HD+ กว้าง 6.5 นิ้วกับอัตรา Refresh Rate 90Hz และใช้ชิปตัว Exynos 850 ที่มี RAM 4/64GB ใช้งานทั่วไปหรือเอาไว้เล่นเกมเบาๆ ได้ดี หรือถ้าชอบถ่ายรูปก็มีกล้องหลัง 3 ตัวที่ตัวหลัก 50MP มาโคร 2MP และชัดลึก 2MP ถ่ายทั่วไปหรือจะเอาไว้ Live ขายของก็ได้ ส่วนกล้องหน้า 5MP ที่มีเอฟเฟกต์โบเก้ กับแบต 5,000 mAh ชาร์จไว 15W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาท
1. Honor X8a: ราคา 7,999 บาท
มาดูที่ด้านของโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาทในปี 2023 กันบ้างที่เริ่มด้วยมือถือจาก Honor อีกรุ่นที่เพิ่งเปิดตัวกันไปหมาดๆ ดีไซน์ขอบแบนมีความบางเบา มาพร้อมหน้าจอที่มีขอบจอบางเล่นได้เต็มที่ด้วยอัตราส่วน 93.6% และมีจอเป็น LTPS LCD กว้าง 6.7 นิ้วและมีอัตรา Refresh Rate 90Hz ไหลลื่นขึ้น และเล่นลื่นไปอีกด้วยชิป Helio G88 ที่มี RAM 8/128GB เล่นเกมก็ได้ถ่ายรูปก็ดี ด้วยกล้องหลังสุดเทพที่ตัวหลัก 100MP อัลตร้าไวด์ 5MP และมาโคร 2MP กับกล้องหน้า 16MP เก็บสีสันและรายละเอียดได้ดีเยี่ยม ถ่ายกลางคืนก็ยังสวย หรือจะถ่ายโหมด VLOG ด้วยกล้องหน้า, หลังพร้อมกันก็ได้ รุ่นนี้มีแบตที่ 4,500 mAh ชาร์จไว 22.5W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
2. OPPO A78 5G: ราคา 8,499-9,999 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นต่อมาเป็นมือถือจาก OPPO รุ่นที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ช่วงต้นปี และเป็นรุ่นที่ใช้งานได้ดีในหลายๆ ด้านเลย โดยตัวเครื่องออกแบบฝาหลังเป็นแบบผิวด้าน และมีหน้าจอเป็นแบบ LCD (A-Si) ระดับ HD+ กว้าง 6.56 นิ้วพร้อมอัตรา Refresh Rate 90Hz หน้าจอลื่น และได้ใช้ชิปเป็นตัว Dimensity 700 ที่มี RAM 4/8GB และความจุ 128GB กับฟีเจอร์เพิ่มแรม มีให้เลือก 2 รุ่นในราคาที่ต่างกันเล็กน้อย ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดหลัก 50MP กับชัดลึก 2MP ที่มี 108MP Ultra-Clear Image ถ่ายคมชัด และมีกล้องหน้า 8MP กับแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไวได้ 33W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
3. realme 10T 5G: ราคา 8,999 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาทจาก realme ที่เน้นความจุมาให้โดยเฉพาะ สำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปเก็บภาพเยอะๆ หรือว่าต้องการพื้นที่ความจุเยอะเป็นหลัก โดยรุ่นนี้ดีไซน์ตัวเครื่องแบบขอบแบน และมีความบางเพียง 8.1 มม. พร้อมปลอดล็อคด้านข้างตัวเครื่องได้ง่ายๆ ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ FHD+ กว้าง 6.6 นิ้วและมี Refresh Rate 90Hz ตอบสนองได้ดีเยี่ยม รุ่นนี้มาพร้อมกับชิป Dimensity 810 5G ที่มี RAM 8/256GB ขยายแรมได้อีก 8GB ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดหลัก 50MP Portrait 2MP และมาโคร 2M ถคมชัดทุกรายละเอียด กับกล้องหน้า 8MP เซลฟี่ได้สวย และมีแบตความจุ 5,000 mAh ชาร์จไว 18W ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
4. Redmi Note 12 Pro 5G: ราคา 9,999 บาท (เฉพาะที่ AIS 5G เท่านั้น)
สำหรับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 10000 บาทรุ่นต่อมานี้เป็นรุ่นโปรเฉพาะรุ่นความจุ RAM 6/128GB ที่วางจำหน่ายเฉพาะ AIS Exclusive เท่านั้นถึงจะซื้อได้ แต่ถ้าใครไม่ได้เป็นลูกค้า AIS อยู่แล้วอาจจะขยับลงไปเป็น Redmi Note 12 5G ที่มีราคาใกล้เคียงกันก็ยังได้ โดยรุ่นนี้ตัวเครื่องเบาบางมากๆ และมีหน้าจอเป็น Flow AMOLED ระดับ FHD+ กว้าง 6.67 นิ้วกับอัตรา Refresh Rate 120Hz เล่นไหลลื่นเต็มตาด้วยขอบที่บางลง มาพร้อมชิป Dimensity 1080 ที่มี RAM 6-8/128-256GB เล่นเกมได้สบายๆ ส่วนกล้องหลังมี 50MP อัลตร้าไวด์ 8MP และมาโคร 2MP ที่มีกันสั่นและเซ็นเซอร์ถ่ายรูปออกมาได้สวยคมชัด กับกล้องหน้า 16MP และมีแบต 5,000 mAh ชาร์จเร็ว 67W ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่
5. Samsung Galaxy A14 5G: ราคา 6,999 บาท
ปิดท้ายด้วยมือถือระดับกลางที่มีราคาเบาๆ ถึงได้ง่ายและไม่เกิน 10000 บาทกับสเปคที่คุ้มแน่นอน ตัวเครื่องรุ่นนี้ออกแบบมาเป็นมินิมอล แต่ก็มีลวดลายที่ฝาหลังอยู่นิดหน่อยด้วย ส่วนหน้าจอเป็นแบบ PLS LCD ระดับ FHD+ กว้าง 6.6 นิ้วและมี Refresh Rate 90Hz ดูหนังหรือรับชมคอนเทนต์ต่างๆ ได้สีสันสดใส มาพร้อมชิป Dimensity 700 ที่มี RAM 4/128GB ความจุให้แน่นๆ และมีกล้องหลังความละเอียด 50MP ชัดลึก 2MP และมาโคร 2MP ถ่ายรูปได้สวยงาม กับกล้องหน้าที่มี 13MP และมีแบตอึดๆ ที่ความจุ 5,000 mAh ชาร็จเร็ว 15W โดยรวมแล้วเหมาะกับการใช้งานทั่วไป ใช้เล่นเกมหรือถ่ายรูปได้ปกติในราคาประหยัดนั่นเอง ดูสเปคและสั่งซื้อที่นี่
ตารางเปรียบเทียบ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 – 10000 บาทปี 2023
หน้าจอ | ชิปฯ | RAM/ ROM | กล้องหน้า | กล้องหลัง | แบต | ราคา | |
Honor X6 | TFT LCD, 6.5 นิ้ว | Helio G25 | 4/64GB | 5MP | 50MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh, 10W | 4,999 บาท |
Redmi 12C | IPS-LCD, 6.71 นิ้ว | Helio G85 | 3-4/64GB | 5MP | 50MP + QVGA | 5,000 mAh, 10W | 3,699 บาท* |
Infinix Smart 7 | IPS, 6.6 นิ้ว | Helio A22 | 3/64GB | 5MP | 13MP + AI Lens | 5,000 mAh | 2,899 บาท |
Infinix Hot 30 | IPS-LCD, 90Hz, 6.78 นิ้ว | Helio G88 | 8/128GB | 8MP | 50MP + AI Lens | 5,000 mAh, 33W | 4,799 บาท |
Samsung Galaxy A04s | PLS LCD, 90Hz, 6.5 นิ้ว | Exynos 850 | 4/64GB | 5MP | 50MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh, 15W | 4,699 บาท |
Honor X8a | LTPS LCD, 90Hz, 6.7 นิ้ว | Helio G88 | 8/128GB | 16MP | 100MP + 5MP + 2MP | 4,500 mAh, 22.5W | 7,999 บาท |
OPPO A78 5G | LCD (A-Si), 90Hz, 6.56 นิ้ว | Dimensity 700 | 4-8/128GB | 8MP | 50MP + 2MP | 5,000 mAh, 33W | 8,499 บาท |
realme 10T 5G | IPS-LCD, 90Hz, 6.6 นิ้ว | Dimensity 810 5G | 8/256GB | 8MP | 50MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh, 18W | 8,999 บาท |
Redmi Note 12 Pro 5G | AMOLED, 120Hz, 6.67 นิ้ว | Dimensity 1080 | 6/128GB | 16MP | 50MP + 8MP + 2MP | 5,000 mAh, 67W | 9,999 บาท |
Samsung Galaxy A14 5G | PLS LCD, 90Hz, 6.6 นิ้ว | Dimensity 700 | 4/128GB | 13MP | 50MP + 2MP + 2MP | 5,000 mAh, 15W | 6,999 บาท |
ทั้งหมดนี้ก็เป็น 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 – 10000 บาทในปี 2023 ที่เราได้นำมาฝากกัน โดยแต่ละรุ่นก็จะแบ่งกันออกไปตามสเปคและช่วงราคา ที่มีจุดเด่นต่างกันออกไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นมือถือที่เอาไว้ใช้งานทั่วไป ไม่ได้เน้นการใช้งานแบบไหนมาพิเศษ ก็จะมีราคากลางๆ ที่ยังไม่สูงมากนัก แต่ถ้าเป็นมือถือที่เน้นเล่นเกม หรือว่าเน้นถ่ายรูปมาให้เป็นหลัก ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามไปด้วย แต่รับรองได้ว่าในราคาโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 5000 และ 10000 บาทได้สเปคเท่านี้ก็คุ้มมากแล้วต่อการใช้งาน แล้วถ้ามีเรื่องไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ