แนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 รุ่นไหนดี มือถือสเปคดีเล่นเกมถ่ายรูปได้ในราคาประหยัด
มือถือราคาประหยัดที่เป็นรุ่นเริ่มต้นสำหรับใช้งานทั่วไป เอาไว้ดูหนังฟังเพลง ใช้สำหรับวิ่งงานไรเดอร์ เล่นเกมหรือเอาไว้ถ่ายรูป สแกนจ่ายได้แบบไม่แพงมาก ก็จะต้องเป็นมือถือที่มีราคาอยู่ในช่วงไม่เกิน 3000 บาทที่สามารถใช้งานได้ดีในระดับหนึ่ง ใครที่จะซื้อไว้ให้ผู้ใหญ่หรือเด็กๆ ใช้ก็อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม หรือว่าใครต้องการใช้มือถือราคาประหยัดด้วยตัวเองก็ยังได้ ส่วนใครที่มีงบมากขึ้นมาหน่อย ก็ยังมีมือถือราคาไม่เกิน 5000 บาท/ มือถือราคาไม่เกิน 10000 บาท และมือถือราคาไม่เกิน 20000 บาทในปี 2023 ที่เราได้เคยแนะนำกันไว้อย่างละ 10 รุ่น เอาไว้เป็นตัวเลือกของคนที่อยากอัพเกรดสเปคในงบที่ตัวเองมีได้เหมือนกัน แต่ถ้ามองหามือถือราคาประหยัดในช่วงปลายปีนี้อยู่ วันนี้ทาง Specphone จะมาแนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 รุ่นไหนดี มือถือสเปคดีเล่นเกมถ่ายรูปได้ในราคาประหยัด
10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023
- Infinix SMART 8
- ZTE Blade A31 Plus (2023)
- Redmi A2+
- Infinix SMART 7
- Nokia C12
- TECNO Spark Go (2023)
- vivo Y02
- Redmi A1
- Infinix HOT 20i
- realme C30s
ตารางเปรียบเทียบสเปค 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023
แนะนำ 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023
สำหรับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 รุ่นไหนดีที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ทั้ง 10 รุ่นนั้น จะเป็นมือถือที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปลายปี 2022 เรียงยาวมาถึงปี 2023 นี้เลย โดยจะมีบางรุ่นที่ลดราคาล่าสุดลงมาจากตอนเปิดตัวเยอะเหมือนกัน ทำให้มีราคาปัจจุบันไม่เกิน 3000 บาท ใครที่มองหามือถือราคาประหยัด แต่ได้สเปคดีคุ้มกับราคาที่ต้องจ่ายก็ลองเข้าไปดูสเปคกันได้เลย ส่วนบางรุ่นนั้นอาจจะต้องหาซื้อตามร้านค้าออนไลน์ เพราะว่าทางแบรนด์ขายหมดไปแล้ว แต่ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีให้ซื้อ เพราะเราคัดมาเฉพาะรุ่นที่มีขายเท่านั้น ไปดูกันเลยว่ามีรุ่นไหนน่าสนใจบ้าง
1. Infinix SMART 8: ราคา 2,999 บาท
เริ่มกันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 ของ Infinix ที่เปิดตัวออกมารุ่นล่าสุดในราคาเบาๆ สเปคคุ้มสุดๆ ตัวเครื่องทำออกมาแบบขอบแบนฝาหลังเป็นพื้นผิวแวววาว ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ HD+ (720×1612) กว้าง 6.6 นิ้วพร้อม Refresh Rate 90Hz เล่นลื่นสว่างได้สูงสุด 500nits และยังมีฟีเจอร์ Magic Ring ที่ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามการใช้งานตรงรูกล้องหน้า มาพร้อมกับชิป Unisoc T606 ที่มี RAM 4GB/ ROM 128GB ความจุเยอะเพิ่มด้วย MicroSD ได้อีก และยังขยายแรมเพิ่มได้อีก 4GB สลับแอพหรือเล่นเกมทั่วไปได้ไม่สะดุด กล้องหลังรุ่นนี้เป็นกล้องคู่ AI ความละเอียด 13MP และชัดลึก 0.3MP แฟลชวงแหวน ถ่ายบุคคลสวยเซลฟี่คมชัดด้วยกล้องหน้า 8MP กับแบตอีก 5,000mAh ชาร์จไวได้ 10W ดูสเปคและซื้อที่นี่
2. ZTE Blade A31 Plus (2023): ราคา 1,999 บาท
มือถือรุ่นเริ่มต้นราคาเบาๆ ที่รุ่นนี้เป็นโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 สามารถสั่งซื้อได้จาก All Online ในราคา 1,999 บาทเท่านั้น ตัวเครื่องดีไซน์แบบฝาหลังโค้งมีลวดลายตารางจับได้ถนัดมือ หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ 960×480 พิกเซลขนาดกว้าง 6 นิ้ว และได้ชิปตัว Unisoc SC9863A ที่มี RAM 2GB/ ROM 32GB เพิ่มความจะด้วย microSD สูงสุด 128GB เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เอาไว้ฟังวิทยุ FM หรือดูคอนเทนต์ฟังเพลงได้สบาย กล้องหลังรุ่นนี้มีตัวเดียวที่ความละเอียด 5MP มีซอฟท์แวร์อัพสเกลได้เป็น 8MP รวมไปถึงกล้องหน้าที่มี 2MP ก็อัพสเกลเป็น 5MP ได้เช่นกันในตอนถ่าย ส่วนแบตมีความจุ 3000mAh ดูสเปคและซื้อได้ที่นี่
3. Redmi A2+: ราคา 2,699 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 รุ่นต่อมาเป็นมือถือจาก Redmi ที่เปิดตัวออกมาช่วงต้นปี และตอนนี้ก็มีให้ซื้อได้ที่ตัวแทนจำหน่ายอย่างร้าน BaNANA หรือ AIS ก็ยังมีอยู่ ซึ่งราคานี้ก็ลดลงมาจากราคาตอนเปิดตัวที่เกิน 3000 บาทไปแล้วด้วย ฝาหลังดีไซน์แบบเรียบเนียนแต่ก็มี Texture อยู่บ้างเล็กน้อย สแกนลายนิ้วมือได้ที่ด้านหลัง ส่วนหน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ HD+ (720×1600) กว้าง 6.52 นิ้วและได้ชิปตัว Helio G36 ที่มี RAM 3GB/ ROM 64GB เพิ่มความจุได้อีก 1TB และขยายแรมได้ 2GB เล่นเกมได้ไหว กล้องหลังรุ่นนี้มีความละเอียด 8MP กับชัดลึก AI 0.08MP มีโหมดพอร์ตเทรตและ HDR รองรับ กล้องหน้ามี 5MP พร้อมกับแบตความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 10W ซื้อได้ที่นี่
4. Infinix SMART 7: ราคา 2,799 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 จาก Infinix รุ่นนี้เป็นรุ่นก่อนหน้ารุ่นล่าสุดที่ทางแบรนด์ไม่มีขายแล้ว แต่ก็ยังสามารถหาซื้อได้จากร้านค้า IT ชั้นนำที่ยังมีขายอีกเยอะในราคาเบาๆ สเปคคุ้มไม่แพ้กัน โดยรุ่นนี้ทำลายฝาหลังเป็นแบบคลื่น 3D จับไม่ลื่น ปลดล็อคด้วยลายนิ้วมือและใบหน้าได้ หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ (720×1612) กว้าง 6.6 นิ้วสว่างได้ 500nits มาพร้อมกับชิป Helio A22 ที่มี RAM 4GB/ ROM 64GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 3GB และเพิ่มความจุได้อีก 2TB เล่นเกมทั่วไปได้แน่นอน ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดตัวหลัก 13MP และเป็นเลนส์ AI Lens อีกตัว กับกล้องหน้า 5MP ที่มี Flash Light ทำให้สว่างขึ้น กับแบตความจุ 5,000mAh ซื้อได้ที่นี่
5. Nokia C12: ราคา 2,549 บาท
สำหรับโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 จาก Nokia รุ่นนี้ทางแบรนด์ก็ขายหมดแล้วเช่นกัน แต่ว่ายังหาซื้อได้จากร้านค้าออนไลน์ที่มีขายกันอีกเพียบ หรือถ้าใครอยากได้จากร้าน Nokia จริงๆ จะมีรุ่นก่อนหน้าคือ C10 แต่รุ่นที่เอามาแนะนำอย่าง C12 นั้นย่อมมีสเปคที่ดีกว่า ฝาหลังเป็นผิวโลหะและลวดลาย 3D กันน้ำฝุ่นได้ที่ IP52 หน้าจอเป็นแบบ LCD ระดับ HD+ (720×1600) กว้าง 6.3 นิ้วขนาดที่เอาไว้ถือมือเดียวได้สบายๆ ปลดล็อคได้ด้วยใบหน้า โดยได้ชิปตัว Unisoc 9863A1 ที่มี RAM 3GB/ ROM 64GB ขยายแรมเพิ่มได้ 2GB สำหรับการใช้งานแบบทั่วไป เล่นเกมไม่กินสเปคได้ กล้องหลังรุ่นนี้มีตัวเดียวที่ความละเอียด 8MP มีโหมดใช้งานครบ ส่วนกล้องหน้ามี 5MP กับแบตความจุ 3,000mAh แบบถอดได้ ดูสเปคเพิ่มเติมที่นี่
6. TECNO Spark Go (2023): ราคา 2,899 บาท
มาต่อกันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 รุ่นต่อมากับมือถือของ TECNO ที่เปิดตัวออกมาตั้งแต่ต้นปี โดยตอนนี้มีขายแค่รุ่นตัวท็อปที่ลดราคาลงมาไม่เกิน 3000 บาทแล้วล่าสุดนี้ ตัวเครื่องเป็นขอบแบนทำลวดลายทรงเรขาคณิต Cloud Mirror สแกนลายนิ้วมือได้ที่ด้านหลัง หน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ HD+ (720×1612) กว้าง 6.6 นิ้วมีฟีเจอร์ถนอมสายตาได้ และได้ใส่ชิป Helio A22 ที่มี RAM 4GB/ ROM 64GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 3GB ช่วยทำให้เล่นได้ไหลลื่นขึ้น ส่วนกล้องหลังมีความละเอียดหลัก 13MP กับอีกตัวคือ AI Lens และแฟลช กับกล้องหน้าความละเอียด 5MP ถ่ายรูปทั่วไปได้ดี สแกนจ่ายได้ปกติ รุ่นนี้มีแบต 5,000mAh ชาร์จไวได้ 10W ดูสเปคและซื้อที่นี่
7. vivo Y02: ราคา 2,850-2,900 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 ของ vivo รุ่นที่เปิดตัวออกมาช่วงปลายปีที่แล้วจากราคาเดิม ตอนนี้ก็ลดราคาลงมาเยอะแล้ว แต่จะมีขายอยู่แค่เพียงบนร้านค้าออนไลน์เท่านั้นนะ ยังหาซื้อได้แน่นอนในตอนนี้ ดีไซน์รุ่นนี้เป็นแบบขอบแบนสีเรียบๆ มีความเบาบาง ปลดล็อคด้วยใบหน้าได้ หน้าจอเป็นแบบ IPS-LCD ระดับ HD+ (1600×720) กว้าง 6.51 นิ้วขนาดกำลังดี มาพร้อมชิป Helio P22 ที่มี RAM 2GB/ ROM 3GB เพิ่มความจุได้สูงสุดอีก 1TB เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป เอาไว้สแกนจ่ายได้ปกติด้วยกล้องหลังความละเอียด 8MP มีโหมดรองรับเยอะ กล้องหน้า 5MP มีฟีเจอร์ Face Beauty สำหรับเซลฟี่ และมีแบตความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 10W ดูสเปคที่นี่
8. Redmi A1: ราคา 2,699 บาท
โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 จาก Redmi อีกหนึ่งรุ่นที่ยังคงมีการวางขายอยู่ ถึงแม้ว่าจะเปิดตัวออกมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้วก็ตาม ดีไซน์รุ่นนี้เป็นแบบเรียบๆ แต่มีการทำ Texture เล็กน้อยที่ฝาหลังสามารถป้องกันรอยนิ้วมือและถือได้สบายๆ หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ (1600×720) กว้าง 6.52 นิ้วหน้าจอคมชัด เสริมพลังด้วยชิป Helio A22 ที่มี RAM 2GB/ ROM 32GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 2GB และเพิ่มความจุได้สูงสุด 1TB ส่วนกล้องหลังเป็นกล้องคู่ความละเอียดหลัก 8MP กับเลนส์ QVGA ถ่ายรายละเอียดคมชัดมีทั้งโหมด HDR และพอร์ตเทรต ส่วนกล้องหน้ามี 5MP พร้อมโหมดบิวตี้ กับแบตความจุ 5,000mAh ชาร์จไวได้ 10W ดูสเปคและซื้อที่นี่
9. Infinix HOT 20i: ราคา 2,999 บาท
ยังคงอยู่กันที่โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 จาก Infinix อีกรุ่นที่น่าสนใจ เพราะมีการลดราคาจากเดิมลงมาพอสมควร เนื่องจากเปิดตัวออกมาปลายปีที่แล้ว แต่ก็ยังมีสเปคที่คุ้มอยู่เหมือนเดิม ฝาหลังดีไซน์แบบแวววาวสวยงามมีลวดลายเล็กน้อย สแกนลายนิ้วมือได้ หน้าจอเป็นแบบ IPS LCD ระดับ HD+ (720×1612) กว้าง 6.6 นิ้วสว่างได้ถึง 500nits พร้อมโหมดถนอมสายตา และได้ชิปเป็นตัว Helio G25 ที่มี RAM 4GB/ ROM 128GB ขยายแรมเพิ่มได้อีก 3GB เล่นเกมได้แบบสบายๆ แน่นอน อีกทั้งยังมีระบบเสียง DTS ที่ให้เสียง 3D รอบทิศ ส่วนกล้องหลังมีความละเอียด 13MP และมี AI Lens เสริมเพื่อถ่ายรูปได้อีก กับกล้องหน้า 8MP และมีแบตความจุ 5,000mAh ชาร์จไว 10W ดูสเปคและซื้อที่นี่
10. realme C30s: ราคา 2,799-2,999 บาท
ปิดท้ายด้วยโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 จาก realme รุ่นนี้ที่เปิดตัวออกมาปลายปีที่แล้วเหมือนกัน และมีการลดราคาลงมาไม่เกิน 3,000 บาทสำหรับทุกสเปคแล้ว ฝาหลังทำลวดลาย Micro-texture จับไม่ลื่น สแกนลายนิ้วมือได้ที่ด้านข้าง และมีความเบาบางสูง หน้าจอเป็นแบบ LCD ระดับ HD+ (720×1600) กว้าง 6.5 นิ้วขนาดกำลังดี มาพร้อมกับชิป Unisoc SC9863A ที่มีรุ่น RAM 2/32GB และรุ่น RAM 3/64GB มีให้เลือกเหลืออยู่ 2 รุ่นในราคาต่างกัน 200 บาท กับลำโพงเสียง Dirac 3.0 กระจายรอบทิศทาง ส่วนกล้องหลังรุ่นนี้มีความละเอียด 8MP และมีกล้องหน้า 5MP ถ่ายทั่วไปได้ดี และมีแบต 5,000mAh ชาร์จไว 10W ซื้อที่นี่
ตารางเปรียบเทียบสเปค 10 โทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023
หน้าจอ | ชิป | RAM/ ROM | กล้องหน้า | กล้องหลัง | แบต | ราคา | |
Infinix SMART 8 | IPS LCD, 90Hz 6.6 นิ้ว | Unisoc T606 | 4/128GB | 8GB | 13MP + 0.3MP | 5,000mAh, 10W | 2,999 บาท |
ZTE Blade A31 Plus (2023) | IPS LCD 6 นิ้ว | Unisoc SC9863A | 2/32GB | 2MP (Up to 5) | 5MP (Up to 8) | 3,000mAh | 1,999 บาท |
Redmi A2+ | IPS LCD 6.52 นิ้ว | Helio G36 | 3/64GB | 5MP | 8MP + 0.08MP | 5,000mAh, 10W | 2,699 บาท |
Infinix SMART 7 | IPS LCD 6.6 นิ้ว | Helio A22 | 4/64GB | 5MP | 13MP + AI | 5,000mAh | 2,799 บาท |
Nokia C12 | LCD 6.3 นิ้ว | Unisoc 9863A1 | 3/64GB | 5MP | 8MP | 3,000mAh | 2,549 บาท |
TECNO Spark Go (2023) | IPS LCD 6.6 นิ้ว | Helio A22 | 4/64GB | 5MP | 13MP + AI | 5,000mAh, 10W | 2,899 บาท |
vivo Y02 | IPS LCD 6.51 นิ้ว | Helio P22 | 2/32GB | 5MP | 8MP | 5,000mAh, 10W | 2,850 บาท |
Redmi A1 | IPS LCD 6.52 นิ้ว | Helio A22 | 2/32GB | 5MP | 8MP + QVGA | 5,000mAh, 10W | 2,699 บาท |
Infinix HOT 20i | IPS LCD 6.6 นิ้ว | Helio G25 | 4/128GB | 8GB | 13MP + AI | 5,000mAh, 10W | 2,999 บาท |
realme C30s | LCD 6.5 นิ้ว | Unisoc SC9863A | 2/32GB, 3/64GB | 5MP | 8MP | 5,000mAh, 10W | 2,799 บาท |
ทั้งหมดนี้ก็เป็นข้อมูลสเปคและการแนะนำโทรศัพท์ราคาไม่เกิน 3000 ปี 2023 รุ่นไหนดีจากทั้ง 10 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยมีทั้งรุ่นใหม่ที่เปิดตัวออกมาในปี 2023 และรุ่นปลายปีที่แล้วแต่ยังใช้งานได้ดี และทุกรุ่นยังคงมีขายและหาซื้อได้แน่นอน แต่อาจจะต้องซื้อกับร้านค้าออนไลน์ หรือว่าร้าน IT ชั้นนำ โดยแต่ละรุ่นจะมีสเปคที่ค่อนข้างคล้ายกัน ไม่ว่าจะเป็นหน้าจอ หรือชิปที่ใช้งานได้แบบทั่วไป แต่ก็มีบางรุ่นที่ลดราคาจากเดิม ทำให้มีสเปคที่สูงกว่า ใครอยากได้เอาไว้เล่นเกมก็พอไหวอยู่ ส่วนการถ่ายรูปจะไปในทางเดียวกัน เหมาะกับการถ่ายทั่วไป ถ่ายบุคคลได้ปกติ สแกนจ่ายได้ดี เซลฟี่ได้ปกติ กับแบตอึดๆ ทุกรุ่น ใครสนใจรุ่นไหนก็ลองเทียบจากในตารางนี้ได้เลย