แนะนำ 10 ลำโพง Marshall รุ่นไหนดีในปี 2024 ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ พกพาง่าย แต่งห้องได้สวยๆ มีรุ่นไหนบ้าง
ถ้าพูดถึงเรื่องลำโพง หนึ่งยี่ห้อที่หลายคนนึกถึงแรกๆ ก็คงจะหนีไม่พ้นลำโพงจาก Marshall ที่มีทั้งชื่อในด้านเสียงดีเยี่ยม เบสหนักแน่น ให้ความรู้สึกถึงดนตรีอย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังมีความโดดเด่นในด้านดีไซน์ที่ทำออกมาได้สวยลงตัว จะเอาไว้ประดับห้อง ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรือพกไปตอนตั้งแคมป์ก็ยิ่งเพิ่มความสวยงามไปโดยปริยาย โดยลำโพงของ Marshall นั้นจะมีให้เลือกทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเอาไปตั้งไว้ตรงไหน เน้นพกพาหรือจะเอาวางไว้เฉยๆ ก็ได้ มาดูกันว่ามีรุ่นที่ได้รับความนิยมและน่าใช้งานรุ่นไหนบ้างกับ 10 ลำโพง Marshall รุ่นไหนดีในปี 2024 ที่พกพาง่ายหรือเอาไว้แต่งห้องได้สวยๆ
แนะนำ 10 ลำโพง Marshall รุ่นไหนดีในปี 2024
1. Marshall Willen: ราคา 3,590 บาท
เริ่มต้นกันด้วยลำโพง Marshall ขนาดพกพาสะดวกรุ่นตัวเล็กประมาณหนึ่งฝ่ามือ มีสายรัดเอาไว้คล้องแขนหรือแขวนไว้ฟังเพลงได้ เน้นการใช้งานนอกสถานที่หรือพกพาไปฟังเพลงชิลๆ นอกบ้านได้สบายๆ ในเรื่องของเสียงมีความหนักแน่นด้วยไดร์เวอร์ฟูลเรนจ์ขนาด 2 นิ้ว จำนวน 1 ตัวและพาสซีฟเรดิเอเตอร์ 2 ตัวให้เสียงตามสไตล์ Marshall และยังกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP67 สามารถปรับตั้งค่าเสียงต่างๆ ผ่านแอพได้เลยง่ายๆ และเมื่อชาร์จเต็ม (3 ชั่วโมง) สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องนานถึง 15 ชั่วโมงเลย สั่งซื้อได้ที่ BaNANA
2. Marshall Willen II: ราคา 4,290 บาท
ลำโพง Marshall ตัวเล็กขนาดพกพาอีกหนึ่งรุ่น ที่รุ่นนี้เป็นรุ่นเจนสองของ Willen ที่ได้ปรับและพัฒนาออกมาใหม่ หน้าตาจะคล้ายๆ รุ่นก่อนหน้า แต่ว่าจะมีขอบหน้าใหม่ที่ดูมีมิติมากขึ้น และยังมีสายคล้องมือหรือแขวนไว้ด้านหลังเช่นเคย ในด้านเสียงให้เบสหนักแน่น มาพร้อมระบบไดรเวอร์ใหม่ที่ให้เสียงดีขึ้น สามารถรับสายโทรศัพท์และพูดคุยผ่านลำโพงได้ด้วยไมโครโฟนแบบ Built-in มาในตัว เชื่อมต่อไวด้วยเทคโนโลยี Bluetooth LE Audio กันน้ำกันฝุ่นที่ IP67 ชาร์จไวเพียง 2.30 ชั่วโมงใช้ได้นานกว่า 17 ชั่วโมง หรือใช้โหมดชาร์จเร็ว 20 นาทีก็ฟังต่อได้ถึง 5 ชั่วโมง สั่งซื้อได้ที่ BaNANA
3. Marshall Emberton II: ราคา 5,990 – 6,365 บาท
มาดูที่ลำโพง Marshall ขนาดใหญ่ขึ้นมาหน่อย แต่ก็ยังถือว่าเป็นตัวเล็กที่เอาไว้พกพาไปฟังนอกสถานที่ได้แบบง่ายๆ ตัวเครื่องเป็นแบบสี่เหลี่ยมฝืนผ้าถือจับได้ในมือเดียว มาพร้อมกับคุณภาพเสียงที่มีไดรเวอร์ฟูลเรนจ์ขนาด 2 นิ้ว 2 ตัวและพาสซีฟเรดิเอเตอร์ 2 ตัวให้เสียงหนักแน่นและไพเราะตามแบบของ Marshall สามารถปล่อยเสียงออกมาได้รอบทิศทางแบบ True Stereophonic รูปแบบเสียงหลายทิศทาง สามารถกันน้ำกันฝุ่นที่ระดับ IP67 และยังมีโหมด Stack ที่สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth ได้มากกว่า 1 เครื่องอีกด้วย เมื่อชาร์จแบตเต็มจะใช้งานได้ต่อเนื่องสูงสุดถึง 30 ชั่วโมง สั่งซื้อที่ BaNANA
4. Marshall Emberton III: ราคา 7,690 บาท
ลำโพงจาก Marshall ขนาดพกพารุ่นเจนถัดมาของ Emberton จะเอาไว้พกพาหรือตั้งสวยๆ ก็ยังได้ ซึ่งตัวนี้จะมีหน้าตาภายนอกจะคล้ายๆ กับรุ่นก่อนหน้าเลย แต่ว่าภายในนั้นได้มีการพัฒนาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นเสียงเบสที่หนักแน่นขึ้น และ Dynamic Loudness ที่ช่วยปรับโทนเสียงเมื่อเราปรับระดับเสียง ให้เสียงกระจายรอบทิศทาง 360 องศา มีการรองรับ Bluetooth LE Audio พร้อมไมโครโฟนแบบ Built-in รับสายพูดคุยผ่านลำโพงได้เลย สามารถชาร์จเต็มใน 2 ชั่วโมงและใช้งานได้ต่อเนื่อง 32 ชั่วโมงเลยทีเดียว สั่งซื้อที่ BaNANA
5. Marshall Middleton: ราคา 12,990 บาท
หนึ่งในรุ่นทีได้รับความนิยมมากเป็นอันดับต้นๆ สำหรับลำโพงของ Marshall ขนาดกลางที่ยังสามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ จะตั้งแคมป์หรือจะตั้งไว้ฟังภายในห้องก็ยังได้สบายๆ จับถือได้ง่ายด้วยสายที่ติดมากับตัวเครื่อง ให้เสียงหนักแน่นทุกรูปแบบเสียงด้วย Quad-Speaker และ True Stereophonic กระจายเสียงได้รอบทิศทาง จะปรับระดับเสียงเท่าไหนก็ยังได้ยินเสียงครบชัดเจน มีโหมด Stack เพื่อเชื่อมต่อขยายเสียงให้ดังมากขึ้นได้ พร้อมกับการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP67 เมื่อชาร์จเต็มสามารถใช้ต่อเนื่องได้กว่า 20 ชั่วโมง สั่งซื้อที่ BaNANA
6. Marshall Kilburn II: ราคา 9,990 บาท
ลำโพง Marshall ขนาดกลางที่ค่อนข้างใหญ่ขึ้นมาอีกนิด กับตัว Kilburn ที่จะเอาไว้พกพาไปไหนมาไหนก็ได้ด้วยสายคล้องด้านบน หรือจะตั้งเอาไว้ตอนไปเที่ยวก็ได้เช่นกัน ตัวเครื่องมีน้ำหนักประมาณ 3 กิโลกรัม ด้านบนสามารถปรับจูนได้ ไม่ว่าจะเป็นสวิตซ์เปิด/ปิด ปรับเสียงดัง-เบา และปรับเสียงแหลมกับเสียงเบสได้ในตัว ตัวลำโพงมีกำลังขับ 36 วัตต์ดูแบตได้ง่ายด้วยแถบไฟด้านบน และมีช่องแจ๊ค 3.5mm ที่ด้านหลังสำหรับคนที่ต้องการเสียบสาย กันน้ำได้ที่ IPX2 และใช้งานได้ยาวนานกว่า 20 ชั่วโมง สั่งซื้อที่ Ash Asia
7. Marshall Stockwell II: ราคา 9,990 บาท
ลำโพงของ Marshall ขนาดกลางใกล้เคียงกับตัว Kilburn แต่ว่ารุ่นนี้จะเป็นดีไซน์แบบสี่เหลี่ยมแนวตั้งแทน และมีน้ำหนักเพียง 1.4 กิโลกรัม ตัวลำโพงมีสายคล้องด้านบนไว้พกพา หรือว่าจะตั้งโต๊ะก็สวยได้เหมือนกัน ระบบเสียงของรุ่นนี้จะมีเบสที่หนักแน่นด้วยกำลังขับ 20 วัตต์และ Passive Bass ที่ขับด้วย Class D amplifier สามารถปรับเสียงหรือจูนได้ที่ด้านบนทั้งเสียงทุ้ม, เสียงแหลม และปรับระดับเสียง เสียบสายแจ็ค 3.5 mm. ได้ พร้อมไฟแสดงสถานะแบต กันน้ำได้ที่ระดับ IPX4 สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องกว่า 20 ชั่วโมง สั่งซื้อที่ BaNANA
8. Marshall Acton III: ราคา 12,990 บาท
มาดูกันที่ลำโพง Marshall แบบตัวกลางถึงใหญ่กันบ้างที่รุ่นนี้จะเน้นวางตั้งไว้เป็นหลัก ดีไซน์ออกแนววินเทจที่เป็นลำโพงโฮมร็อคแอนด์โรล วัสดุหนัง Vegan กับปุ่มควบคุมสีทองเหลือง เรื่องเสียงหายห่วงด้วยกำลังขับ 60W และทวีตเตอร์ที่ทำมุมออกด้านนอก พร้อมท่อนำคลื่นที่ออกแบบมาใหม่ ทำให้ได้เสียงแบสที่แน่น และให้เสียงกระจายออกไปรอบทิศทางกระจายทั่วทั้งพื้นที่ จะปรับสียงระดับไหนก็ยังให้เสียงที่มีสมดุลเท่ากัน ซึ่งตัวนี้จะไม่มีแบตในตัวต้องเสียบปลั๊กใช้งานจึงไม่เหมาะกับการพกพาไปข้างนอก สั่งซื้อได้ที่ BaNANA
9. Marshall Stanmore III: ราคา 18,990 บาท
ลำโพง Marshall แบบตัวกลางถึงใหญ่เช่นกัน เหมาะกับการตั้งเอาไว้ในห้องหรือร้านอาหารได้อย่างสวยงามลงตัว โดยดีไซน์ตัวนี้จะเป็นแบบโฮมร็อคแอนด์โรล ที่ใช้วัสดุหนัง Vegan กับปุ่มควบคุมสีเหลืองทองเช่นกัน จะมีน้ำหนักมากกว่าตัว Acton หน่อย มีเสียงที่ขับออกมาได้อย่างดีเยี่ยมด้วยกำลังขับ 80W โดยมีเสียงกลาง-ต่ำ 1 ตัวและทวีตเตอร์เสียงแหลม 2 ตัวซ้าย-ขวา พร้อมท่อลมที่นำคลื่นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังมี Placement Compensation ที่ช่วยคำนวณเสียงจากตำแหน่งที่ตั้งลำโพงได้ด้วย เชื่อมต่อได้ทั้ง Bluetooth และสาย แต่ว่าไม่มีแบตในตัว เน้นตั้งไว้ใช้งานมากกว่า สั่งซื้อได้ที่ BaNANA
10. Marshall Tufton: ราคา 20,990 บาท
ปิดท้ายด้วยลำโพง Marshall ขนาดใหญ่ แต่ก็ยังพกพาไปไหนมาไหนได้ด้วยสายหิ้วด้านบน มีน้ำหนัก 4.9 กิโลกรัม หรือจะตั้งอยู่กับที่ก็ยังได้ ตัวลำโพงมีการดีไซน์ให้ด้านหลังมีลำโพง ทำให้เสียงที่ออกมาได้ถึง 3 ทางด้วยระบบ Multi-Directional Sound ทำให้ได้ยินเสียงที่คมชัดและกระจายได้มากขึ้น ด้านบนมีปุ่มที่ปรับระดับเสียง ปรับเสียงเบส และปรับเสียงแหลมได้ตามที่ต้องการ สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 2 เครื่องพร้อมกัน และกันน้ำที่ IPX2 เมื่อชาร์จเต็มใช้งานต่อเนื่องได้กว่า 20 ชั่วโมงและมีระบบชาร์จไวแค่ 20 นาทีก็เปิดต่อได้ถึง 4 ชั่วโมง สั่งซื้อได้ที่ BaNANA
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการแนะนำลำโพง Marshall รุ่นไหนดีในปี 2024 ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ทั้งหมด 10 รุ่นที่เราได้นำมาฝากกันในวันนี้ โดยแต่ละรุ่นนั้นก็จะมีจุดเด่นและเหมาะกับการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยตัวลำโพงที่ได้รับความนิยมหลักๆ จะเป็นลพดพงแบบพกพาที่เอาไว้ไปเที่ยว หรือหยิบไปวางไว้ที่ไหนก็ได้แบบสะดวกสบาย ทั้งตัวเล็กและตัวใหญ่ แต่ก็มีรุ่นที่เน้นตั้งไว้กับที่สวยๆ ด้วยดีไซน์ที่โดดเด่นให้เลือกซื้ออยู่เช่นกัน ใครที่อยากได้ลำโพงเสียงดีๆ พร้อมกับดีไซน์สวยๆ ก็ลองดูรุ่นที่เหมาะกับตัวเองได้เลย