เรื่องการเก็บเงิน ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าปวดหัวพอสมควรสำหรับบางคน ถึงแม้ว่าจะจด หรือเก็บไว้เป็นส่วนๆ แล้วก็ตาม แต่สุดท้ายก็ยังบริหารเงินตัวเองไม่ได้สักที แอพรายรับรายจ่าย จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับคนที่ต้องการบริหารเงินของตัวเอง และสามารถทำได้ง่ายๆ โดยใช้มือถือที่เรามีติดตัวกันอยู่แล้วนั่นเอง
การเก็บเงิน หรือทำบัญชีของตัวเองนั้น ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นแม่ค้า หรือว่าคนที่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องเงินเสมอไป เพราะคนธรรมดาทั่วไป ก็สามารถทำได้ทั้งนั้น ยิ่งถ้าทำบัญชีรายรับรายจ่ายได้เป็นสัดส่วนแล้ว การใช้เงินของเราก็จะเป็นเรื่องง่าย มีทั้งเงินเก็บ และเงินที่เอาไว้ใช้เป็นส่วนๆ เผื่อว่าในกรณีฉุกเฉินจะได้รู้ว่า ยังมีเงินเหลืออยู่เท่าไหร่ และสามารถนำไปใช้ได้เท่าไหร่บ้าง จากเมื่อก่อนที่ต้องทำบัญชีโดยการเขียน หรือจดเอาไว้ในสมุด ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นวิธีที่ดีนะ แต่ว่าเมื่อจดไปนานๆ แล้วข้อมูลก็จะเริ่มเยอะขึ้น ทำให้สับสนเมื่อย้อนมาดูอีกครั้ง เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนไป การใช้มือถือและแอพ ก็เริ่มเข้ามามีส่วนร่วมในชีวิตมากขึ้น การใช้แอพรายรับรายจ่ายจึงทำให้ง่ายต่อการเก็บเงินได้มากขึ้น แถมยังไม่ต้องมาคอยสับสนหาข้อมูลกันให้วุ่นวาย เพราะมีแอพคอยจัดการให้หมดแล้ว วันนี้ Specphone เลยจะมาแนะนำ 10 แอพที่สามารถจัดการบัญชีรายรับรายจ่าย และทำให้เรื่องเงิน ไม่ใช่เรื่องน่าปวดหัวอีกต่อไป
10 แอพรายรับรายจ่าย
แอพรายรับรายจ่ายที่เราจะมาแนะนำกันในวันนี้ จะมีทั้งแอพของไทย และของต่างประเทศ ที่ทำออกมาให้ได้ใช้งานกัน ซึ่งฟีเจอร์ต่างๆ ก็จะมีตั้งแต่ระดับเบสิคง่ายๆ ไปจนถึงการจัดการเรื่องเงินแบบยกระดับขึ้นไปอีก ใครที่ต้องการเก็บเงิน หรือจัดการเงินแบบไหนให้ตัวเองได้ดีที่สุด ก็ต้องลองอ่านดู และโหลดมาใช้งานกันก่อน ถ้าไม่ถูกใจจะเลือกใช้เป็นแอพอื่นก็ยังได้ ส่วนระบบที่รองรับ จะมีทั้ง Android และ iOS เลย แต่บางแอพก็สามารถใช้ได้เพียงระบบเดียวเท่านั้น เราก็จะพยายามหาแอพที่คนใช้งานเยอะ และใช้งานได้ดี เหมาะกับการใช้งานในทุกๆ ด้าน มาดูกันเลยว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง
1. Money Manager Expense & Budget
มาเริ่มกันที่แอพแรกกันก่อนเลย ที่มียอดดาวน์โหลดสูงถึง 10 ล้านคน แค่ชื่อแอพก็บ่งบอกแล้ว ว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง โดยแอพตัวนี้จะเป็นการจัดการเงินของเราทั้งหมด ทั้งรายรับรายจ่าย เงินเข้าบัญชี และเงินออกบัญชี พร้อมทั้งคำนวณการเงินให้ครบจบทั้งหมดเลย หน้าตาการใช้งานของแอพนี้ จะสามารถดูได้ค่อนข้างง่าย รวมไปถึงการใช้งานได้หลายรูปแบบ ทั้งการใช้บัตรเครดิต และการใช้เงินสดทั่วไป มีการแบ่งการใช้งานหลากหลาย เพิ่ม-ลด รายการใช้จ่ายได้เองทั้งหมด เหมาะสำหรับคนที่มีบัญชีการเงินหลายบัญชี เพราะแอพนี้สามารถเพิ่มบัญชีเข้าไปได้หลายบัญชี หรือจะทำบัญชีแบบกลุ่มก็ยังทำได้ มีการเก็บข้อมูลการเงินเป็นสถิติ ทั้งการเก็บเป็นปฏิทิน แบบรายวัน หรือรายเดือน พร้อมคำนวณเงินล่วงหน้าของเราออกไปได้ด้วย ถือว่าเป็นแอพที่มีความครบ และควรมีติดเครื่องเอาไว้เลย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Money Manager Expense & Budget
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Money Manager Expense & Budget
2. Money Lover
แอพตัวต่อมานี้ ก็มียอดคนดาวน์โหลดเยอะไม่แพ้กันเลย โดยมีคนใช้แล้วมากกว่า 5 ล้านคน และต้องลงทะเบียนเพื่อเข้าใช้งานก่อนทุกครั้ง ภายในแอพ จะเป็นแบบเรียบงๆ ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยากซับซ้อน นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์ไว้สำหรับใช้งานที่ครบมาก ทั้งการบันทึกรายรับรายจ่าย การคำนวณการใช้งานต่างๆ ที่สามารถใส่ตัวเลขการใช้เงินลงไป แล้วเก็บเป็น Category เพื่อครั้งต่อไปจะได้ไม่ต้องมาคอยใส่อีก แต่ที่ดูจะเหมือนเป็นเรื่องเด่น ก็คือการสแกนบาร์โค้ด หรือถ่ายลงไปแล้วแอพจะทำการเก็บข้อมูลไว้ให้เลย เหมาะมากกับการใช้งานแบบทั่วไป ไปจนถึงการใช้งานที่ต้องลงลึกไปอีก อย่างเช่น มีบัญชีหลายบัญชี การคำนวณงบประมาณ หนี้ต่างๆ หรือบัตรเครดิตที่ใช้เงินล่วงหน้า เพื่อการวางแผนที่ดีมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าตัวแอพจะมีฟีเจอร์การใช้งานที่เยอะ แต่ก็ไม่ได้ใช้งานยากแต่อย่างใด ลองโหลดมาใช้กันดูก่อนได้เลย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Money Lover
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Money Lover
3. MeTang
แอพมีตังค์ แอพรายรับรายจ่ายของไทยเรานี่เอง เป็นแอพที่ใครหลายคนชอบใช้งานเลย เพราะว่าใช้งานได้ง่าย เข้าใจการใช้งานของคนไทยได้ดีที่สุดแล้ว สามารถใส่ได้หลายบัญชีเช่นกัน มีการเก็บข้อมูลรายรับ และรายจ่ายที่ชัดเจน แบ่งเป็นสองฝั่ง เมื่อเข้ามาแล้วก็สามารถใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังมีการแยกหมวดหมู่การใช้งานด้วย เช่น เงินเดือน ยอดขาย โบนัส ดอกเบี้ย หรือเงินฝากอื่นๆ ส่วนรายจ่ายก็จะแบ่งเป็นอาหาร ช้อปปิ้ง ค่าเช่า บัตรเครดิต และค่าอื่นๆ อีกเพียบ ทั้งหมดนี้สามารถแก้ไขเองใหม่ได้ทั้งหมดเลย เพื่อให้เข้ากับการใช้งานของเรามากที่สุด มีการสรุปไว้ให้ครบ จากที่ลองใช้งานดูแล้ว คิดว่าแอพนี้สามารถเข้าใจการใช้งานได้ง่าย หรือจะตั้งงบประมาณเองก็ยังได้ บันทึกโดยใช้เสียงก็ได้นะ นอกจากนี้ยังสามารถอัพเกรดเป็นพรีเมียมได้ด้วย เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งความปลอดภัย และระบบการวางแผนที่ยาวนานยิ่งขึ้น
4. Spendee Budget & Money Tracker
แอพช่วยจัดการบัญชีตัวต่อมานี้ จะเพิ่มระดับการใช้งานขึ้นมาอีกขั้น ถึงแม้ว่าหน้าตาของแอพนั้นจะสะอาดตา แต่ก็มีฟีเจอร์ที่ให้ใช้เยอะมากๆ ที่นอกเหนือจากการบันทึกรายรับ – รายจ่ายแล้ว ก็ยังมีการสรุปค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน และนำมาวิเคราะห์ในเดือนถัดไปได้ด้วย โดยแอพจะดูจากการใช้จ่ายที่ต้องเสียเป็นประจำ อย่างเช่นค่าอาหาร และหนี้ต่างๆ เพิ่มบัญชีได้หลายบัญชี และเชื่อมต่อกับธนาคารกรุงศรีได้เลย เพื่อคิดคำนวณได้ทันที ไม่ต้องใส่ข้อมูลรายรับรายจ่ายให้วุ่นวาย แต่ก็ต้องมาแยกรายการด้วยตัวเองอยู่ดีนะ จุดที่น่าสนใจอีกอย่างนึง ก็คือการ Tag เพื่อแยกประเภทการใช้งานได้ด้วย ถึงแม้ว่าจะมี Category อยู่แล้ว แต่การ Tag ก็จะช่วยเพิ่มรายละเอียดการใช้งานให้ลึกลงไปอีก แอพนี้ไม่มีภาษาไทยรองรับนะ เหมาะกับคนที่ต้องจัดการบัญชี ที่ไม่ใช่ระดับทั่วไป อาจจะเป็นด้านธุรกิจใหญ่ๆ หรือคนที่ต้องการข้อมูลละเอียดๆ จะใช้งานได้ดีมากกว่า
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Spendee Budget & Money Tracker
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Spendee Budget & Money Tracker
5. Money Diary
แอพรายรับรายจ่ายตัวต่อมานี้ บอกได้เลยว่าสวยน่ารักมาก เมื่อเข้ามาในแอพนั้น จะเข้าสู่ระบบเพื่อเก็บข้อมูลไว้ หรือจะไม่เข้าระบบก็ได้ สามารถใช้ได้เหมือนกัน เมื่อเข้ามาแล้วก็จะตั้งชื่อแล้วพิมพ์จำนวนเงินได้ทันทีเลย ภายในแอพนี้สามารถเข้าใจ และใช้งานได้ง่ายมาก ไม่มีรูปแบบซับซ้อน รายการหลักๆ จะอยู่ในหน้าแรก และมีการรวมทุกบัญชีไว้หน้านี้เลย พร้อมทั้งบอกเป็นรายวัน รายเดือน ไปจนถึงปีเลย ถ้าอยากเพิ่มรายรับรายจ่าย ก็เลือกดได้ในทันที หรือจะเพิ่มเป็นรูปภาพด้วยก็ยังได้ ใส่เลขแล้วเลือกหมวดที่ใช้เงินได้เลย แถมยังเลือกบัญชีได้เลยจากตรงนี้เลย นอกจากนี้ยังสามารถอัพเกรดเป็นพรีเมียมได้ด้วย เมื่ออัพเกรดแล้ว จะสามารถเปลี่ยนธีมแอพได้ คำนวณสินเชื่อ บันทึกได้อย่างไม่จำกัด และวางแผนการใช้จ่ายได้ดีมากยิ่งขึ้น จากการลองใช้งานดูแล้ว คิดว่าแอพนี้มีฟีเจอร์ที่ครบดีเลย แถมยังใช้งานได้ง่ายมากๆ ใช้ได้ตั้งแต่นักเรียน ไปจนถึงวัยทำงานเลยก็ได้ ลองโหลดมาใช้งานกันดูได้เลย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Money Diary
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Money Diary
6. Household account book
มาที่ตัวต่อไปกันเลย แอพจัดการบัญชีตัวนี้ทำขึ้นโดย UNITED จากประเทศญี่ปุ่น และด้วยความญี่ปุ่นที่มักจะต้องเอาความน่ารัก หรือตัวการ์ตูนใส่เข้ามาในเกือบทุกๆ เรื่อง แน่นอนว่าแอพนี้ก็เช่นกัน ที่ทำออกมาได้น่ารักมาก แต่ข้อดีของแอพ ก็ไม่ใช่ว่าจะมีแค่ความน่ารักอย่างเดียวนะ เพราะฟีเจอร์และฟังก์ชันของแอพ ที่ค่อนข้างครบเลย ทั้งการบันทึกรายรับ รายจ่าย และยังจดจำการใช้งานของเราได้ทั้งหมด ฟีเจอร์ต่างๆ นั้นสามารถเข้าใจ และใช้งานได้ง่ายมาก เพียงแค่เลือกแล้วเพิ่มรายการเข้าไปได้ทันที ในหน้าแรกเลย หรือถ้าเบื่อพื้นหลังเดิมๆ ก็สามารถเปลี่ยนธีมได้ด้วยนะ จุดเด่นอีกอย่างของแอพนี้ ก็คือสามารถบันทึกเป็น Story ได้อีก เพิ่มความสนุกในการใช้งานได้มากขึ้น คิดว่าแอพนี้น่าจะเหมาะกับการฝึกให้เด็ก ซึ่งจะทำให้เด็กรู้สึกว่าการจัดการเกี่ยวกับเรื่องการเงิน เป็นสิ่งสำคัญ และควรฝึกการจัดการบัญชีตั้งแต่ตอนเด็กๆ กันเลย แอพจึงทำหน้าตาออกมาเป็นการ์ตูนให้ดูน่าสนใจมากขึ้น แต่ถ้าใครชอบแนวน่ารักๆ จะโหลดมาใช้งานกันก็ได้นะ
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Household account book
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Household account book
7. Wallet Story – Expense Manager
อีกหนึ่งแอพรายรับรายจ่าย ที่เราจะมาแนะนำกันก็คือ Wallet Story ที่มีความสวยงาม และมีการจัดระเบียบหน้าตาของแอพได้เป็นอย่างดีเลย สามารถเข้าใจง่ายสำหรับการใช้งานทั่วไป โดยหน้าแรกนั้น จะเป็นสรุปข้อมูลของเราทั้งหมด ว่าทำอะไรไปบ้างแล้ว รวมไปถึงการคำนวณรายรับรายจ่ายแบบรายวัน รายเดือน และรายปีในหน้าแรกเลย ทำให้เรารู้ว่าควรใช้เงินได้ขนาดไหน เท่าไหร่บ้างจากหน้านี้เลย ส่วนหน้า 2 จะเป็นการบอกรายละเอียดการใช้งาน ที่ให้เราใส่ข้อมูลรายรับรายจ่ายลงไป ซึ่งสามารถแบ่งออกได้ทั้งแบบเต็ม แบบตาราง หรือแบบย่อก็ได้ ส่วนอื่นๆ ก็จะเป็นการสรุปข้อมูลทั้งหมดแบบวันต่อวัน และยังมีอะไรให้เล่นอีกเยอะมาก เช่น การวางแผนการออมเงิน ใส่รูปภาพ ตั้งงบประมาณรายวัน ไปจนถึงรายปี และรายงานสรุปข้อมูลทั้งหมด จะปริ้นออกมาเป็นเอกสารก็ทำได้ด้วยนะ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอพ ที่อยากให้ลองใช้เลย เพราะใช้งานง่าย และเหมาะกับการใช้งานในทุกรูปแบบ ใช้ได้ทุกวัย ช่วยให้การจัดการเงินเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นมากๆ
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Wallet Story – Expense Manager
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Wallet Story – Expense Manager
8. Piggipo
แอพต่อมาก็คือ Piggipo ซึ่งเป็นแอพที่มีคนที่ใช้งานค่อนข้างเยอะอยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นแอพจัดการข้อมูลบัญชีได้ดีมาก ทั้งแบบการใช้เงินปกติ และการจัดการข้อมูลของบัตรเครดิต ซึ่งดูเหมือนว่าแอพนี้จะเน้นการใช้งานทั้ง 2 อย่างนี้ไปด้วยกันเลย โดยเมนูของบัตรเครดิตนั้น จะมีธนาคาร และพวกห้างสรรพสินค้า หรือจะตั้งเองใหม่เลยก็ได้ เมื่อเลือกได้แล้ว แอพก็จะให้ใส่ข้อมูล ของบัตรคร่าวๆ อย่างเช่น วันที่ตัดบัตร จ่ายวันสุดท้ายได้วันไหน และสามารถแจ้งเตือนได้ด้วย ในกรณีที่กลัวลืมจ่าย แอพนี้จึงเหมาะมากกับคนที่มีบัตรเยอะ หรือต้องการที่จะจัดการกับการใช้บัตรเครดิตของตัวเอง ส่วนการใช้เงินทั่วไป ที่เป็นเงินสดหรือเงินในธนาคารนั้น ก็จะมีวิธีการที่คล้ายๆ กับแอพอื่น ที่สามารถใส่รายรับ และรายจ่ายได้ พร้อมกับการคำนวณการใช้งาน ก่อนจะสรุปข้อมูลทั้งหมดออกมา จะ Export เป็นไฟล์ Excel เผื่อเอาไปเป็น Statement ด้วยก็ยังได้ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งแอพที่น่าใช้งานไม่น้อยเลย ยิ่งคนที่มีบัตรเครดิต ก็ยิ่งควรโหลดมาใช้งานเป็นอย่างยิ่งเลย
9. Wallet
แอพนี้เป็นแอพที่มีหน้าตาเรียบง่ายของจริง ขนาดที่ว่าเข้ามาแล้วยังนึกว่ามีแค่เพิ่ม รายรับรายจ่ายเท่านั้น ซึ่งหน้าแรกก็มีแค่นั้นจริงๆ ซึ่งจะบอกสรุปรายการใช้งานของเราทั้งหมดไว้ที่หน้าแรก และสามารถกดเพิ่มได้ในหน้านั้นเลยด้วย ก็ช่วยให้การใช้งานนั้นสะดวกมากขึ้น ไม่ต้องคอยค้นหาให้วุ่นวาย กดหน้าแรกไปเลยจบๆ นอกจากจะมีการสรุปให้แล้ว ก็ยังมีแผนการใช้งานที่เราวางไว้ให้ดูด้วย ว่าเราจะใช้เงินทำอะไรบ้างในอนาคต ส่วนในแถบเมนูนั้น จะมีฟีเจอร์ที่เหลืออยู่อีกเยอะมาก ทั้งการเก็บสถิติการใช้งาน การวางแผนทางด้านการใช้จ่าย งบประมาณ เป้าหมายการใช้เงินที่วางไว้ ลิสต์ช้อปปิ้ง และที่น่าสนใจมากเลยก็คือ การเชื่อมต่อกับธนาคาร เท่าที่ลองดูตอนนี้มีให้เลือกอยู่ 4 ธนาคาร คือ กสิกร กรุงศรี ธนาคารกรุงเทพ และ TMB ก็ยิ่งช่วยให้การจัดการทางการเงินง่ายมากขึ้น ไม่ต้องคอยมาใส่ Income หรือ Expense เวลาฝากถอนเงินด้วย แอพนี้ต้องเข้าสู่ระบบก่อนการใช้งานทุกครั้ง และมี Dark Mode ให้เลือกใช้งานด้วย
10. Fast Budget
แอพสุดท้ายที่จะมาแนะนำนั้น เป็นแอพที่มีคนใช้งานมากกว่า 1 ล้านคนเลยทีเดียว เนื่องจากเป็นแอพที่มีฟีเจอร์ที่ครบมาก ทั้งการใช้งานแบบเบสิคทั่วไป ไปจนถึงการใช้งานที่ต้องใช้ข้อมูลทางการเงิน แบบละเอียดมากๆ ซึ่งแอพนี้สามารถทำได้เกือบทุกอย่างเลย ตั้งแต่เพิ่มรายรับ รายจ่าย และเพิ่มการโอนเงิน โดยจะมีสรุปให้ทั้งหมดที่หน้าแรกเลย และยังมีสรุปแบบรายเดือนให้อีกด้วย นอกจากนี้ยังมีให้ใส่การทำธุรกรรมต่างๆ บัญชีทั้งหมด และเครดิตการ์ด รวมไปถึงการวางงบประมาณที่จะใช้งาน พร้อมทั้งการจัดการกับหนี้สินของตัวเองทั้งหมด ช่วยให้การตัดการเงิน เป็นเรื่องที่ดูไม่ยากเกินไป แต่อาจจะมีข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะ เหมาะกับคนทำงานทั่วไป และคนที่อยากจัดการเงินแบบครบวงจรไปเลย สิ่งที่ทำให้แอพน่าสนใจอีกอย่างก็คือ การเปลี่ยนโหมดเป็น Dark Mode ได้ พร้อมทั้งเปลี่ยนสีข้อมูลรายการได้ทั้งหมด เพื่อการใช้งานที่ง่ายขึ้น และแบ่งได้เป็นสัดส่วน ใครที่อยากได้ข้อมูลแน่นๆ ในการจัดการบัญชีของตัวเองต้องลองใช้แอพนี้เลย
- Android : ดาวน์โหลดแอพ Fast Budget
- iOS : ดาวน์โหลดแอพ Fast Budget
เป็นยังไงกันบ้าง กับ 10 แอพรายรับรายจ่าย ที่เราได้แนะนำกันไปในวันนี้ อย่างที่บอกว่าแต่ละแอพนั้น ก็จะมีการทำงานที่แตกต่างกันไป อยู่ที่ว่าเราอยากจะเอาไปใช้กับการทำงานแบบไหน ที่เหมาะกับตัวเองมากที่สุด เพราะเราได้เลือกมาให้เหมาะกับทุกๆ วัยเลย นอกจากนี้ก็ยังมีอีกหลายแอพ ที่เกี่ยวกับการจัดการบัญชี ทั้งการออมสิน หรือการจัดการรูปแบบอื่นๆ อีกเยอะมาก แต่คิดว่าที่เอามาแนะนำก็ค่อนข้างครบในหลายๆ ด้านแล้ว และถ้ามีเรื่องราวไหนน่าสนใจอีก เราก็จะนำมาฝากกันเรื่อยๆ เลยนะครับ