Close Menu
    Facebook X (Twitter) YouTube TikTok
    SpecPhone
    • ข่าวล่าสุด
    • รีวิว
    • ค้นหามือถือ
    • วิดีโอ
    • บทความ
    • ติดต่อเรา
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)
    SpecPhone
    Home»Editorial»เปรียบเทียบ iPhone 5 เเละ Samsung Galaxy S III (ศึกคู่เเค้นข้ามสายพันธุ์)
    Editorial

    เปรียบเทียบ iPhone 5 เเละ Samsung Galaxy S III (ศึกคู่เเค้นข้ามสายพันธุ์)

    SylenthBy Sylenth13 กันยายน 2012Updated:3 เมษายน 2014
    Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Share
    Facebook Twitter LinkedIn Pinterest Email

    iphone5

    เเน่นอนว่าสมาร์ทโฟนที่เป็นไฮไลท์มากที่สุดของปีนี้คือ iPhone 5 ของ Apple ที่เป็นตัวเเทนในฝั่ง iOS เเละ Samsung Galaxy S III ที่เป็นตัวเเทนในฝั่ง Android

     

    วัสดุ

    new-iphone-5-vs-samsung-galaxy-s-iii-comparison

    iPhone 5 นั้นวัสดุยังคงทำจากอลูมิเนียมเเละกระจกเช่นเดิม ส่วน Galaxy S III นั้นทำมาจาก Polycarbonate ที่เป็นพลาสติกชนิดหนึ่ง ถ้าเทียบกันตรงๆ เเล้วอาจจะไม่สามารถวัดได้ว่าอะไรดีกว่ากันซึ่งอยู่กับความชอบเป็นหลัก โดย Polycarbonate ของ Galaxy S III ก็ถือว่าทำออกมาได้เเข็งเเรงเเละน่าใช้ (ไม่นับเรื่องปัญหา QC) ดีเเละถือว่ามีพัฒนาการจาก Galaxy S II อย่างชัดเจน ซึ่งตรงนี้ไม่อยากให้ตั้งเเง่กับความเป็นพลาสติกมากนักเนื่องจาก Lumia หรือ HTC One X เองก็ทำมาจากพลาสิกเช่นกัน เเต่ก็สามารถให้ความรู้สึกพรีเมียมเเละรู้สึกดีเวลาจับได้

    ในขณะที่ iPhone 5 นั้นวัสดุก็ยึดมาตาม iPhone 4S ที่มีดีไซน์เเละงานประกอบอยู่ในระดับสูงอย่างไม่ต้องสงสัย ถ้าชอบวัสดุในสไตล์ของอลูมิเนียมก็ไปทาง iPhone 5 (หรือ HTC One S) ส่วน Galaxy S III เป็น Polycarbonate เเบบเงา ซึ่งเเนะนำให้ไปจับตัวจริงว่าชอบหรือไม่ชอบจะดีที่สุดครับ

     

     

    หน้าจอ

    หน้าจอ ของ Samsung Galaxy S III นั้นมีขนาดใหญ่กว่าเเละละเอียดมากกว่า iPhone 5 โดยมีขนาดที่ 4.8 นิ้ว เมื่อเทียบกับ 4 นิ้ว นอกจากนี้เเล้วความละเอียดจอของ Samsung Galaxy S III ยังมากกว่าเล็กน้อย คือขนาด 1280 x 720 ส่วน iPhone 5 นั้นอยู่ที่ 1136 x 640 พิกเซล ทำให้การมองคอนเทนท์ต่างๆ ใน Galaxy S III นั้นจะใหญ่กว่าชัดเจน เเต่เนื้อหาที่เเสดงนั้นไม่ต่างกันมากนักสำหรับทั้งสองเครื่องเรียกว่าเวลาเปิดเว็บไซต์ก็จะเห็นเนื้อหาได้พอๆ กัน

    มาถึงเทคโนโลยีหน้าจอ ซึ่ง Galaxy S III นั้นใช้จอ Super AMOLED HD เเบบ Pentile ที่มีการเรียงซับพิกเซลต่างไปจากปกติที่เป็น RGBG เเละหน้าจอสีออกไปทางสีฟ้าสำหรับ Galaxy S III ถึงเเม้ว่าหน้าจอจะเเสดงสีขาวล้วนก็ตาม เเต่เนื่องจากหน้าจอนั้นละเอียดมากทำไม่ให้เห็นจุดอ่อนของหน้าจอเเบบ Pentile ที่จะเเสดงผลเป็นหยักเเละดูไม่คมเท่าไรนัก ส่วน iPhone 5 จะเป็นหน้าจอ IPS ที่เรียกว่า ?Retina Display? เนื่องจากมีความหนาเเน่นพิกเซลที่สูง ซึ่งหน้าจอของ iPhone 5 ก็น่าจะเเสดงสีได้ดียิ่งขึ้นเนื่องจากมีการรวมทัชเซนเซอร์เข้าไปกับกระจกเเล้ว ทำให้กระจกหน้าจอบางลงกว่าเดิมเเละเเสดงสีได้สวยงามยิ่งขึ้นเนื่องจากหน้าจอเเสดงผลที่ออกมาเป็นพิกเซลเเละกระจกอยู่ใกล้กันมาก ใครที่ชอบใจในความคมชัดของ iPhone 4S อยู่เเล้ว iPhone 5 ก็เป็นหน้าจอที่เหนือกว่าเเน่นอน

    โดยสรุปเเล้วหน้าจอของ Galaxy S III เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานสมาร์ทโฟนหน้าจอใหญ่ ที่มองเห็นได้เต็มตาเเละไม่ต้องเสียเวลาเพ่งมากนัก ในขณะที่หน้าจอ iPhone 5 จะเด่นในเรื่องความคมชัด สีที่เที่ยงตรง สดใสเเละ เป็นธรรมชาติ มากกว่าจอของ Super AMOLED ทีี่มักจะมีสีสดมากเกินไป ทำให้ภาพต้นฉบับกับหน้าจอที่เเสดงออกมาไม่ตรงตามความจริงนัก

     

     

    ตัวประมวลผล

    120914_apple_a6

    สำหรับตัวประมวลผลของ Samsung Galaxy S III นั้นใช้ Exynos Quad 4412 ที่ประกอบไปด้วยซีพียู ARM Cortex A9 จำนวน 4 คอร์ที่ความเร็ว 1.4 GHz เเละตัวประมวลผลกราฟฟิค Mali-400MP4 เเต่สำหรับ Apple A6 ใน iPhone 5นั้น นั้นข้อมูลซีพียูยังออกมาเเบบไม่เป็นทางการเเต่คาดว่าใช้ซีพียู ARM Cortex A15 รุ่นดัดเเปลงจาก Apple เอง ซึ่งทำให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิม เเต่ว่า Apple A6 มีซีพียูความเร็ว 1.0 GHz เพียง 2 คอร์เท่านั้น เเต่จากผลทดสอบนั้นเรียกว่ามีประสิทธิภาพด้อยกว่าเเละเหนือกว่า Galaxy S III เล็กน้อยเเล้วเเต่การทดสอบ

    ถ้ามองในเเง่ของประสิทธิภาพดิบนั้นตัวประมวลผลทั้งสองตัวจัดว่าอยู่ในระดับสูงทั้งคู่ ซึ่งตัวเเปรจะอยู่ในตัวของ OS ที่ iOS นั้นจะปรับเเต่งมาค่อนข้างดีกว่า Android ทำให้การใช้งานนั้นลื่นเเละเร็วกว่าเป็นส่วนใหญ่ เเต่ก็ถือว่าไม่เเตกต่างกันอย่างมีนัยยะสำคัญ เร็วเหมือนกันทั้งคู่ครับ

     

     

    พื้นที่เก็บข้อมูล

    340330

    iPhone 5 นั้น ถูกวางจำหน่ายทั้ง 3 ความจุคือ 16GB, 32GB เเละ 64GB ตามลำดับ ซึ่งเเต่ละความจุจะมีราคาเพิ่มขึ้นประมาณ 3000 บาท เเต่สำหรับ Samsung Galaxy S III นั้นมีจำหน่ายเพียงรุ่นความจุ 16 GB เท่านั้น เเต่สามารถเพิ่มความจุด้วย microSD ได้สูงสุดถึง 64GB ซึ่ง microSD ความจุ 64GB ในตอนนี้มีราคาประมาณ 2300 บาท ถ้าเทียบกันเเล้วความจุต่อหน่วยของ Galaxy S III จะถูกกว่าเพราะถึงเเม้จะซื้อ microSD เพิ่มไปอีก 64 GB ก็ยังถูกกว่า iPhone 5 รุ่น 64 GB อยู่ดี

     

     

    ความละเอียดกล้อง

    iphone-5-vs-galaxy-s3-camera

    ในเเง่ของสเปคกล้องนั้นจะเห็นว่าทั้ง iPhone 5 เเละ Galaxy S III นั้นไม่เเตกต่างกันมาก คือมีความละเอียดกล้องขนาด 8 ล้านพิกเซล รูรับเเสง f/2.0 เเละ BSI ช่วยในการถ่ายรูปที่มืดเช่นเดียวกัน ส่วนที่ต่างอยู่ในซอฟเเวร์ของกล้องอย่างโหมดพาโนรามา เเละการที่ Apple A6 ทำหน้าที่เป็น ISP ประมวลผลภาพโดยเฉพาะทำให้เก็บรายละเอียดได้ดีขึ้นในที่เเสงน้อย อีกทั้งยังให้สีที่อิ่มตัวมากกว่า iPhone 4S ที่เรียกว่าเป็นกล้องสมาร์ทโฟนที่ดีที่สุดในปีที่เเล้ว เรื่องคุณภาพของรุปนั้นจึงเเทบไม่ต้องห่วงกันเลย นอกจากนี้กล้องหน้าของ iPhone 5 ยังมีความละเอียดเพิ่มขึ้นเป็น 1.2 ล้านพิกเซลเเละมี BSI จึงทำให้ใช้งานในบริเวณในที่เเสงน้อยได้ดีขึ้นซึ่งเป็นการเปลี่ยนเเปลงที่สำคัญสำหรับคนใช้กล้องหน้าทีเดียว

    ส่วนกล้องของ Galaxy S III นั้นก็ถือว่าอยู่ในระดับเเนวหน้าของกล้องสมาร์ทโฟนในตอนนี้เช่นเดียวกัน ถึงเเม้กล้องจะให้สีเเละรายละเอียดที่ดี เเต่ว่ามีการรับช่วงเเสงที่ค่อนข้างจำกัด ซึ่งเมื่อรูปภาพนั้นมีความสว่างเเละมืดที่เเตกต่างกันมากจะเกิดอาการเเสงมากหรือเเสงน้อยของรูป ซึ่งทำให้รูปสว่างหรือมืดเกินจริง ซึ่งถือเป็นจุดอ่อนสำคัญของ Galaxy S III ทีเดียว

     

    ระยะเวลาการใช้งาน

    GalaxyS3Battery

    iPhone 5 นั้นคาดว่าจะมีเเบตเตอรี่มากกว่า iPhone 4S เพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งน่าจะไม่เกิน 1500 mAh เเต่ Samsung Galaxy S III นั้นมีเเบตเตอรี่สูงถึง 2100 mAh ทีเดียว เเต่อัตราการใช้พลังงานของ Galaxy S III นั้นก็มีมากกว่าเช่นกันเพราะใช้ซีพียูเเบบ 4 คอร์เเละหน้าจอขนาดใหญ่ถึง 4.8 นิ้ว เมื่อเทียบกับ iPhone 5 ที่มีหน้าจอขนาด 4 นิ้วเเละตัวประมวลผลเเบบ Dual-Core เท่านั้น? ซึ่งดูรวมๆ เเล้วเรื่องการใช้งาน Galaxy S III น่าจะนานกว่าเนื่องจากเเบตเตอรี่เยอะกว่ามาก ซึ่งต้องรอ iPhone 5 ออกมาอีกทีหนึ่งถึงจะสามารถตอบได้ เเต่ดูจากสเปคเเล้วระยะเวลาการใช้งาน iPhone 5 นั้นไม่น่าจะเเตกต่างกับ iPhone 4S มากนักหรือดีกว่าเดิมเล็กน้อย

     

     

     

    อะไรที่ Samsung Galaxy S III ดีกว่า

    • ถูกกว่า
    • หน้าจอใหญ่กว่า ความละเอียดมากกว่า อ่านตัวอักษรง่ายกว่า
    • เพิ่ม microSD ได้สำหรับคนต้องการพื้นที่เพิ่มเเละมีราคาถูก
    • เเบตเตอรี่มากกกว่า ใช้งานได้ยาวนานกว่า

    อะไรที่ iPhone 5 เหนือกว่า

    • จอภาพคมชัดเเละให้สีสวยกว่า
    • กล้องภาพออกมา (น่าจะ) สวยกว่า
    • งานประกอบ วัสดุ ดีกว่า

     

    สรุป iPhone 5 หรือ Galaxy S III ดี?

    การเปรียบเทียบสมาร์ทโฟนทั้งสองรุ่นนี้ถือเป็นเรื่องที่น่าลำบากใจพอสมควรเพราะถือว่าก็เป็นรุ่นที่ดีเเละตอบสนองการใช้งานในระดับสูงทั้งคู่เเน่นอนอยู่เเล้วโดยไม่ต้องสงสัย ซึ่งก่อนอื่นอยากจะยกเรื่องข้อได้เปรียบของเเต่ละเเพลตฟอร์ม หรือการใช้งานว่าเราใช้งานเเบบไหนบ่อยกันมากกว่า

    • เล่นเกมบ่อย > ไป iPhone 5 มีเกมให้เล่นเยอะกว่าเเน่นอน
    • ใช้ Social Network บ่อย > client Twitter ดีๆ ใน iOS มีให้เล่นเยอะกว่า เเอพ Facebook ใน iOS ถูกให้ความสำคัญมากกว่า Android เเต่ Android จะได้เปรียบในเรื่องการเเชร์ข้อมูลข้ามเเอพลิเคชันระหว่างกันได้ง่ายกว่า ในขณะที่ iOS จะถูกบังคับให้เเชร์ได้กับโปรเเกรมที่สนับสนุนเท่านั้น
    • เน้นถ่ายรูป > Final Product ของ iPhone 5 น่าจะดีกว่า (อิงจากกล้อง iPhone 4S) เวลาถ่ายรูปมาดู สีใน iPhone 5 จะเเสดงได้ตรงกว่า เพราะจอ Super AMOLED ของ Galaxy S III นั้นสีออกอมฟ้าดูเเล้วจะเพี้ยน (รูปถ่ายดูได้จากรีวิว) เเต่ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องสีก็ถือว่าไม่จำเป็นครับ เเอพถ่ายรูปหลักๆ ถือว่าพอกันเเล้วทั้ง 2 เเพลตฟอร์ม

    จะเห็นว่าในด้านซอฟเเวร์นั้น iPhone 5 ถือว่ายังทำได้ดีกับเเอพลิเคชันเเนว 3rd Party ที่หลากหลายเเละคุณภาพค่อนข้างดีกว่าของ Android ในขณะเดียวกันถ้าเเอพลิเคชันที่เราใช้หลักๆ ใน Android นั้นเราพอใจอยู่เเล้ว เเอพลิเคชันลูกเล่นต่างๆ ใน iOS อาจจะไม่จำเป็นสำหรับเราก็ได้

    ในขณะเดียวกัน จุดเเข็งของ Galaxy S III นั้นจะเป็นเรื่องของตัวเลขมากกว่า คือ ราคา ขนาดหน้าจอ ความละเอียดหน้าจอ เเบตเตอรี่ความจุสูง เเละเพิ่ม microSD ได้ ซึ่งเเน่นอนทำให้ Galaxy S III นั้นดูคุ้มค่ากว่าในเกือบทุกกรณี เเต่ Galaxy S III เองก็มีข้อจำกัดในหลายด้าน อย่างเช่นอินเตอร์เฟซ หรือความรู้สึกดีเเละประณีตในงานประกอบเเละตัวซอฟเเวร์นั้นดูเเล้วยังคงเป็นรองของ iPhone 5 อยู่ดี รวมไปถึงถ้าเน้นเรื่องกล้องนั้น Galaxy S III ทำออกมาได้ไม่น่าประทับใจนักเมื่อเทียบกับ iPhone 5 ถึงเเม้สเปคกล้องจะสูสีกัน เเต่ที่ต่างกันคือตัว ISP ที่ใช้ทำการปรับเเต่งภาพที่ iPhone 5 ทำได้ดีกว่านั้นเอง

     

    สรุป

    • สายตาไม่ค่อยดี อยากได้จอใหญ่ อ่านง่าย (จำเป็นมากสำหรับบางคน) > Samsung Galaxy S III
    • เน้นความจุ 16 GB + microSD ได้ตามต้องการ ไม่เป็นความจุจำกัดอย่าง iPhone 5 > Samsung Galaxy S III
    • อยากได้สมาร์ทโฟนที่ใช้งานพ้นวัน ไม่ต้องชาร์จบ่อย > Samsung Galaxy S III
    • อยากได้สมาร์ทโฟนหน้าตาสวยงาม วัสดุเเละงานประกอบดี จอสวยเห็นเเล้วหลง > iPhone 5
    • เน้นกล้องถ่ายรูปออกมาสวย > iPhone 5
    • ชอบโหลดเเอพใหม่ๆ มาลองเล่น > iPhone 5
    iPhone 5 Samsung Galaxy S3
    Share. Facebook Twitter Pinterest LinkedIn Tumblr Email
    Sylenth

    Related Posts

    แนะนำ 5 ฟีเจอร์โฟนราคาไม่เกิน 1,500 เน้นโทร ปุ่มใหญ่ USB-C

    15 พฤษภาคม 2025

    วิธีปิดไอจีชั่วคราวในโทรศัพท์ทำยังไงในปี 2025 ปิดโปรไฟล์ IG ชั่วคราวไม่ให้คนอื่นเห็นแบบง่ายๆ

    14 พฤษภาคม 2025

    รวมโทรศัพท์ติดโปรทรูล่าสุดปี 2568 ทุกรุ่นทุกยี่ห้อมีรุ่นไหนราคาเท่าไหร่บ้าง เมื่อซื้อพร้อมแพ็กเกจทรู

    14 พฤษภาคม 2025

    Comments are closed.

    หัวข้อทั้งหมด

    เปิดตัว “realme 14T 5G” แบตอึด-เล่นเกมลื่นสุดสมตำแหน่ง Performance Dominator น้องใหม่พร้อมเทคโนโลยีล้ำสมัยครบเครื่องในราคา 8,999 บาท

    15 พฤษภาคม 2025

    แนะนำ 5 ฟีเจอร์โฟนราคาไม่เกิน 1,500 เน้นโทร ปุ่มใหญ่ USB-C

    15 พฤษภาคม 2025

    ลือ iPhone รุ่นครบรอบ 20 ปี ใช้จอไร้ขอบ และแบต solid-state

    15 พฤษภาคม 2025

    MediaTek เปิดตัวชิป Dimensity 9400e จับตลาดมือถือเรือธงรุ่นรอง

    15 พฤษภาคม 2025

    มือถือรุ่นยอดนิยม

    Honor X7

    Honor X7

    6,299 บาท
    Honor X8

    Honor X8

    7,999 บาท
    Honor X9

    Honor X9

    9,299 บาท
    HTC Desire 22 Pro

    HTC Desire 22 Pro

    0 บาท
    Huawei Nova 10 Pro

    Huawei Nova 10 Pro

    24,990 บาท
    ดูมือถือทั้งหมด
    Facebook YouTube TikTok X (Twitter)

    Type above and press Enter to search. Press Esc to cancel.

    เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

    ยอมรับ
    X