เมื่อพูดถึง NEC นั้นหลาย หลายคนในบ้านเราจะนึกถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าเป็นหลักเสียมากกว่า เเต่ในประเทศญี่ปุ่นนั้น NEC เองก็ทำมือถือด้วยในซีรีย์ Medias โดยรุ่นเเรกที่ทาง NEC นำเข้านั้นคือ Medias S-101 ที่เป็นสมาร์ทโฟนที่เจาะกลุ่มในเรื่องกันน้ำเเละกันฝุ่นเป็นหลัก ซึ่งในตลาดนี้ก็จะมีตัวที่อยู่มาก่อนหน้าอย่าง Motorola Defy+ เเละ Sony Ericsson Xperia Active ซึ่งก่อนหน้านี้เราก็เคยพรีวิวมาเเล้วลองไปอ่านดูได้ในฟีเจอร์หรือมาตรฐาน IP57 ที่ถือเป็นฟีเจอร์สำหรับสายมือถือพันธุ์ทนทานนี้ ซึ่งสเปคของ Medias S-101 ในระดับนี้นั้นก็ถือว่าอยู่ในช่วงกลางๆ ดังนี้ครับ
-
ตัวประมวลผลความเร็ว 1 GHz Qualcomm Snapdragon S2 MSM8255
-
หน้าจอขนาด 4.0 นิ้ว ความละเอียด 854 x 480 พิกเซล
-
มากับ Android 2.3 Gingerbread
-
พื้นที่เก็บข้อมูล 2GB เเรม 512MB
-
เเบตเตอรี่ 1,230 mAh
-
รองรับ microSD สูงสุด 32GB
-
รอบรับ 3G ของ dtac (850/2100) สูงสุด HSPA 14.4M
-
กล้องความละเอียด 5 ล้านพิกเซลออโต้โฟกัสพร้อม LED เเฟลช
-
รองรับ Wi-Fi b/g/n เเละ Bluetooth 2.1+EDR
ฮาร์ดเเวร์
วัสดุของ NEC Medias S-101 นั้นเป็นพลาสติกเเบบด้านทั้งตัว โดยจะมีปุ่มสัมผัสเเบบ 4 ปุ่มด้านล่างคือเมนู, โฮม, เเบค เเละค้นหาตามเเบบเครื่องของ Android 2.3 น้ำหนักเมื่อถือเเล้วค่อนข้างเบาครับ
ด้านบนของเครื่องนั้นจะมี LED Notification สำหรับอีเมล์ใหม่หรือสายที่ไม่ได้รับ เเต่ปุ่มเพิ่มลดเสียงที่ปกติอยู่ด้านข้างนั้นกลับไปอยู่ที่ด้านหลังเเทนซึ่งอาจจะไม่ค่อยชินในช่วงเเรกๆ
พอร์ท microUSB อยู่ด้านบนของตัวเครื่องเเละปุ่ม Power ด้านขวา สังเกตว่าจะมีขอบยางไว้กันน้ำเข้าด้วย ส่วนด้านล่างมีที่่ร้อยสายตามสไตล์ของมือถือญี่ปุ่น บริเวณด้านบนนั้นมีความหนากว่าด้านล้างเล็กน้อย คล้ายๆ กับ Motorola RAZR
ตรงฝาหลังนั้นมีขอบยางบริเวณเเบตเตอรี่ที่กันน้ำเข้าด้วยเช่นกัน
โดยรวมเเล้ววัสดุของ Medias S-101 นั้นเป็นพลาติกดำด้านธรรมดาๆ ถึงเเม้จะไม่โดดเด่นเเต่ก็ดูเเล้วเป็นรอยยากต่างกับพลาสติกเเบบดำที่มีมือถือหลายรุ่นใฃ้กัน ดูเเล้วก็ทนทานดีครับ
ซอฟเเวร์
NEC Medias S-101 นั้นมากับ Android 2.3 Gingerbread ซึ่งไม่มีข้อมูลสำหรับ Android 4.0 เเต่ดูเเล้วไม่น่าได้เพราะ Android หลายรุ่นที่ใช้สเปคนี้ไม่ค่อยได้ตัวอัพเดทครับ โดยหน้า Notification จะมีเเถบด้านบนไว้สำหรับการเปิดปิดเซอร์วิสต่างๆ เช่น GPS / Bluetooth / Wi-Fi
ตัว Launcher นั้นใช้เเบบเลื่อนเเนวตั้งขึ้นลงตามค่ามาตรฐานของ Android 2.3 เเต่มีเเถบ Widget เเยกมาต่างหาก
คีย์บอร์ดมีให้เลือกสามเเบบ มีภาษาญี่ปุ่นด้วย (เเน่ละเครื่องจากญี่ปุ่น) เเละยังมากับคีย์บอร์ดไทยหน้าตาที่คุ้นเคย (เหมือนคีย์บอร์ด HTC ไทย)
เเอพที่ติดมาในเครื่องมีจำนวนหนึ่งดังนี้ครับ
Thai Dict : ดิคชันนารีภาษาไทย ฐานข้อมูลจาก Lexitron มาตรฐานดิคภาษาไทย
Thai TV Schedule : เเอพรวมตารางเวลาทีวี กดเลือกรายการที่เราอยากดูได้ว่ามาเวลากี่โมง
Thai Short News : รวมข่าว กดเเล้วเข้า Browser ไม่ได้อ่านจากตัวเเอพเองครับ
Thai Android Market : รวมเเอพเฉพาะของคนไทย เเต่ดูเเล้วบางเเอพก็ไม่ใช่ของบคนไทย เป็นการโหลดไฟล์ apk ดิบๆ มาติดตั้งโดยตรง (เห็นเลยว่าโหลดไฟล์ apk มา) ส่วนใหญ่ก็ซ้ำกับใน Google Play ครับ
Eco Mode หรือโหมดประหยัดพลังงานนั่นเอง เซ็ทได้ว่าเมื่อพลังงานต่ำกว่าที่กำหนดจะปิดการทำงานหรือลดการใช้งานบางอย่าง (เช่นปิด GPS, ลดความสว่างหน้าจอ)
กล้อง
กล้องของ NEC Medias S-101 มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล เเละถ่ายวีดีโอได้ความละเอียดที่ 720p HD มีฟีเจอร์? MultiShot หรือ Burst Mode (ถ้าเป็น Burst Mode รูปจะเหลือขนาด VGA)ที่ถ่ายรูปรัวๆ ตามที่กำหนดไว้ เเต่ไม่มีการเลือกรูปนะครับ เพราะกล้องจะถ่ายมาหมดเเล้วให้เราไปคัดเอาเองทีหลัง ภาพที่ได้ก็อยู่ในขั้นกลางๆ เเต่ว่า Whitebalance นั้นค่อนข้างเพี้ยนในโหมดออโต้ ภาพออกฟุ้งเล็กน้อย (วันที่ถ่ายฟ้าใสปกติ) ลองไปดูกันครับ
สรุป
โดยสรุปเเล้ว NEC Medias S-101 นั้นจัดอยู่ในสมาร์ทโฟนระดับกลาง ไม่เหมาะกับคนที่ฮาร์ดคอร์ที่เล่นเเอพจำนวนมากเพราะจะทำให้เครื่องช้าลงเรื่อยๆ หน้าจออยู่ในเกณฑ์มาตรฐานไม่ได้ดีเเต่ก็ไม่ถึงกับเเย่ ตัวรอมของ Android นั้นมีการปรับเเต่งมาเล็กน้อยพอที่จะดีกว่า Android จาก OEM ที่เพิ่มฟีเจอร์อย่างเลือกลบ Notification บางตัวออกได้ (ทำได้เเล้วใน Android 4.0) คือดูอยู่ในระดับกลางๆ ไปหมดเเทบไม่มีจุดเด่นใดๆ สำหรับเครื่องนี้ในเเง่การใช้งานเเละตัวเครื่องเอง ดีไซน์พอจะมีความเป็นเอกลักษณ์เเละสวยงามอยู่บ้าง จุดอ่อนที่สุดของเครื่องนี้น่าจะอยู่ในเรื่องของเเบตเตอรี่ที่มาเพียง 1,230 mAh เเต่หน้าจอมากับขนาด 4 นิ้วที่สูบพลังงานเอาพอตัวเหมือนกัน เเละตัวรอมที่ทำมาดูไม่ค่อยสมกับเครื่องระดับหมื่นบาทเท่าไรนัก ใช้ไปเเล้วเหมือนของที่ยังพัฒนาไม่เสร็จ ไม่สวยงามน่าใช้เท่าไร
NEC Medias S-101 นั้นถ้าเทียบกับมือถือในสายอึดถึกเหมือนกับ Motorola Defy+ หรือ Sony Xperia active นั้นผมว่ายังสู้ไม่ได้ทั้งในเเง่ราคา (12,900 บาท) เเละเรื่องรอมที่ดูเเล้วยังไม่น่าใช้เท่าไรนัก ถึงเเม้ว่าจะสเถียรเเละใช้งานได้ดี เเต่ในยุคที่เครื่อง Android ราคาหมื่นสองไปถึงระดับ Dual-Core กันหลายรุ่นเเล้ว อีกทั้งเมื่อเทียบกับโทรศัพท์สายอึดที่ว่ากันไปก่อนหน้า ตัวนี้ถือว่าพอใช้ เเต่สอบตกในบางเรื่องที่ผมพูดมาหลักๆ คือเรื่องเเบตเตอรี่ครับ
ข้อดี
-
ดีไซน์มีเอกลักษณ์
-
วัสดุเป็นพลาสติกด้าน ไม่ต้องกลัวเป็นรอย ไม่จำเป็นต้องใส่เคส
-
เครื่องเบา พอดีมือ ไม่ใหญ่เกินไป
ข้อสังเกต
-
เเบตเตอรี่น้อยเกินไปเมื่อเทียบกับหน้าจอ ใช้งานได้ไม่พ้นวันเเน่นอนสำหรับ 3G หรือถ้าใช้งานเล็กน้อยอาจจะได้พ้นวัน
-
ปุ่มเพิ่มลดเสียงอยู่ในตำเเหน่งที่กดได้ยาก
-
อินเตอร์เฟซไม่ดึงดูดให้ใช้งาน
-
กล้องไม่ค่อยดีนัก