สมาร์ทโฟน Android สมัยนี้เรียกได้ว่าน่าจะครองตลาดโดยรวมได้ในระดับหนึ่งแล้ว เนื่องด้วยมีช่วงราคาให้เลือกมากมายตั้งแต่ไม่กี่พันไปจนถึงหลักสองหมื่นอัพ ซึ่งฟีเจอร์ก็แตกต่างกันไปตามช่วงราคาด้วยเช่นกัน แต่ดูเหมือนเรื่องราคาจะไม่ใช่ข้อจำกัดของฟีเจอร์จากสมาร์ทโฟนที่เรารีวิวในครั้งนี้ซักเท่าไรครับ เพราะสิ่งที่มากับเครื่องนั้น เรียกได้ว่าน่าสนใจและดูจะเกินราคาไปพอสมควรเลย กับเจ้า i-moble i-STYLE Q2 เครื่องนี้ เอาเป็นว่าเราไปชมรูปโฉมกันก่อนดีกว่า
ตัวกล่องนั้นเป็นกระดาษแข็ง มีการบอกฟีเจอร์ไว้อย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็น
- สามารถใช้งานได้สองซิมพร้อมกัน (สามารถตั้งค่าแยกได้ว่าจะใช้ซิมไหนโทร ซิมไหนใช้เน็ต)
- สามารถใช้งาน 3G ได้ทุกเครือข่าย
- ชิปประมวลผล single core ความเร็ว 1 GHz (MediaTek MT6575) มาพร้อม GPU รุ่น PowerVR SGX 531
- RAM 512 MB / ROM 4 GB
- จอ IPS ขนาด 4.3 นิ้ว ความละเอียด 800×480
- กล้องหลังความละเอียด 5 MP พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียดระดับ VGA
- Android 4.0.4 Ice Cream Sandwich
- แบตเตอรี่ความจุ 1,500 mAh
ซึ่งถ้ามองแต่สเปกอย่างเดียว ก็เรียกได้ว่าอยู่ในกลุ่มเครื่อง Android ระดับกลางๆ ครับ ตัว CPU ไม่จัดว่าแรงนัก แต่ก็เพียงพอที่จะใช้งานทั่วไปได้อย่างไหลลื่น และเป็นชิปที่ีรองรับการใช้งานสองซิมด้วย แรมก็ให้มาเพียง 512 MB ตามฉบับของ Android รุ่นสามัญในปัจจุบัน แต่จุดที่เด่นที่สุดก็คือเรื่องของจอที่ทาง i-mobile บอกว่าเป็นจอ IPS ที่มีจุดเด่นในเรื่องของสีสันที่ค่อนข้างสมจริง และมีมุมมองในการมองที่กว้างกว่าจอ LCD ปกติ
ส่วนราคานั้น ก็เปิดมากระชากใจมาก เพราะมันมีราคาอยู่ที่ราวๆ ห้าพันกว่าบาทเท่านั้นเอง มากสุดก็ไม่น่าเกิน 5,700 บาท (เปิดราคามาแบบอึ้งกันเลยทีเดียว)
มาดูตัวเครื่องกันบ้าง เริ่มจากด้านหน้าเลยครับ ซึ่งจุดเด่นก็อยู่ที่หน้าจอ IPS ขนาดใหญ่ 4.3 นิ้ว โดยเมื่อลองทดสอบการมองแล้ว ก็พบว่ามุมมองของจอกว้างกว่าจอ LCD ทั่วไปพอสมควร เมื่อลองมองแบบเอียงๆ จอ ก็พบว่าสีและความสว่างเพี้ยนไปเล็กน้อย แต่ยังสามารถอ่านข้อความบนจอได้ชัดเจนอยู่ จึงคาดเดาได้ว่าพาเนล IPS ที่นำมาใช้ในเครื่องน่าจะเป็นพาเนลเกรดไม่สูงมากนัก แต่ถึงจะไม่สูงมาก ก็ยังให้มุมมองในการมองที่กว้างก็จอ LCD ทั่วไปอยู่ดีครับ?ส่วนเรื่องความสว่างของจอนั้น ก็เพียงพอต่อการใช้งานในที่ร่มตามปกติ แต่ถ้าไปใช้งานกลางแจ้ง โดยเฉพาะที่มีแดดเยอะๆ อาจจะลำบากเล็กน้อย เพราะแสงสว่างจากจอไม่สูงมากนัก แม้ว่าจะเปิดจอที่ความสว่างระดับสูงสุดแล้วก็ตาม
ถัดมาก็เป็นส่วนของปุ่มแบบ capacitive ด้านล่างบ้าง ก็ถูกออกแบบมาให้มีสามปุ่มตามหลักการออกแบบและใช้งานของ Android 4.0 เลย นั่นคือมีสามปุ่ม แต่ !!!! อยากบอกว่าหน้าที่การทำงานของปุ่มนั้นไม่ตรงกับหลักการ 100% นะครับ เพราะปุ่ม Multitask นั้น มันดันกลายเป็นปุ่ม Menu แบบใน Android เวอร์ชันก่อนหน้านี้ แทนที่จะเป็นปุ่มเรียกหน้า Multitask แบบในเครื่องรุ่นใหม่ๆ จึงน่าจะทำให้หลายคนที่เพิ่งใช้เกิดความสับสนซักเล็กน้อย ส่วนถ้าจะเรียกหน้า Multitask ขึ้นมา ก็จะใช้เป็นการกดปุ่ม Home ค้างไว้แทน
ส่วนหน้าตาโดยทั่วไปนั้น ก็คือมีกล้องหน้าและเซ็นเซอร์อยู่เหนือจอ ด้านล่างสุดมีช่องรับเสียงของไมค์ เมื่อมองหน้าตาโดยรวม เชื่อได้ว่ามีหลายคนต้องบอกว่ามันคลับคล้ายคลับคลากับ HTC One X ไม่น้อยเลยทีเดียว เอาเป็นว่าดูผ่านๆ ก็แยกไม่ออกแน่ๆ เรื่องงานประกอบโดยรวมก็จัดได้ว่าดีเลย เมื่อเทียบกับ i-mobile รุ่นก่อนๆ ที่ผ่านมา ความแน่นหนา ความแข็งแรงถือว่าทำได้ดีครับ
ต่อกันที่ฝาหลัง ที่ดูๆ โดยรวมแล้วน่าจะคลับคล้ายคลับคลากับสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นอยู่พอสมควรทีเดียว ตัววัสดุนั้นเป็นโพลีคาร์บอเนต มีความแข็งแรงใช้ได้ทีเดียว ไม่กรอบแกรบเหมือนในสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่น โดยกล้องหลังนั้นมาในความละเอียดระดับ 5 MP ส่วนตรงด้านล่างใกล้ๆ กับโลโก้ i-mobile นั้น เป็นช่องของลำโพงใหญ่ของตัวเครื่อง ที่ตัวฝาจะมีการทำออกมาให้นูนกว่าปกติเล็กน้อย โดยมีจุดประสงค์เพื่อให้เวลาวางเครื่องไว้ รูลำโพงจะได้ไม่ถูกปิดสนิทจนเสียงไม่สามารถออกมาได้ ซึ่งดูแล้วก็ถือว่าใส่ใจรายละเอียดได้ดีในระดับหนึึ่ง
รูปทรงของฝาหลังนั้นก็ออกแบบมาให้โค้งมน สามารถหยิบจับได้ง่าย แต่เวลาใช้งานอาจต้องระวังกันเล็กน้อย ตรงจุดของกล้องที่โป่งนูนขึ้นมา เพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นรอยได้ง่ายเวลาคว่ำฝาหลังลงกับพื้น ดังนั้นถ้าเป็นไปได้ก็อาจต้องหาเคสมาใส่ หรือไม่ก็วางเครื่องแบบคว่ำหน้าลง ก็จะช่วยได้ในระดับหนึ่งครับ
เมื่อเปิดฝาหลังดูภายใน ก็จะเห็นจุดเด่นที่ชัดที่สุดคือช่องใส่ซิมที่มีด้วยกันสองช่อง โดยสองช่องนี้ก็มีรายละเอียดต่างกันเล็กน้อยครับ นั่นคือ
- ช่อง G+W : ใส่ได้ทั้ง HSDPA/WCDMA ความถี่ 850/900/2100 MHz
- ช่อง GSM : ใส่ได้เฉพาะ GSM (2G) ความถี่ 900/1800 MHz เท่านั้น
ดังนั้นก็พอสรุปเรื่องการใช้สองซิมในเครื่องนี้ได้คือ ถ้าต้องการใช้ 3G ก็ให้ใส่ซิม 3G ไว้ช่องที่หนึ่ง ส่วนถ้าเบอร์ไหนจะใช้เป็นเบอร์คุยโทรศัพท์ก็ให้ใส่ในช่องซิมที่สอง ส่วนเรื่องการปรับแต่งการใช้งาน เดี๋ยวจะยกไปพูดในส่วนของซอฟต์แวร์ภายในเครื่องในลำดับต่อไป
ส่วนช่องใส่ microSD นั้นก็จะอยู่เยื้องๆ ช่องใส่ซิมเล็กน้อย สามารถรองรับได้สูงสุด 32 GB ตามเกณฑ์ทั่วไปของสมาร์ทโฟน Android เรื่องของแบตเตอรี่นั้นก็ให้มาในความจุ 1,500 mAh 5.5Wh ซึ่งก็เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันอยู่แล้ว แต่เนื่องด้วยความที่สามารถใช้งานสองซิมพร้อมกัน จึงอาจจะทำให้อัตราการใช้พลังงานของระบบสูงขึ้นกว่าปกติพอสมควร
ทีนี้มาดูสันด้านข้างกัน เริ่มจากด้านบนก็มีช่องเสียบแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ตรงกลางเป็นปุ่มเปิด/ปิดเครื่องและจอ ริมสุดเป็นช่อง microUSB
ส่วนด้านล่างก็ไม่มีอะไรครับ นอกจากช่องสำหรับสอดเล็บเข้าไปแงะเปิดฝาหลังเท่านั้น ฝั่งด้านขวาของเครื่องก็มีปุ่มเพิ่ม/ลดความดังของเสียง ปิดท้ายท้ายด้วยฝั่งซ้ายของเครื่องที่ไม่มีพอร์ตเชื่อมต่อหรือปุ่มใดๆอยู่เลย
จบจากส่วนหน้าตาภายนอกกันไปแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องของซอฟต์แวร์ภายในกันบ้างครับ?
ตัวของ i-mobile i-STYLE Q2 นี้ มาพร้อมกับ Android 4.0.4 Ice Cream Sandwich ที่ไม่ได้ติดตั้ง Launcher ใดๆ จะมีก็แต่แอพบางตัวที่มีการติดตั้งมาให้ในรอมเท่านั้น จึงน่าจะช่วยให้หลายๆ คนที่อยากใช้ประสบการณ์แบบ Pure Google น่าจะพอกล้อมแกล้มไปได้กับสมาร์ทโฟนตัวนี้ อย่างวิดเจ็ตที่อยู่บนหน้าจอนั้น ก็เป็นวิดเจ็ตที่ใช้สำหรับเคลียร์แรมครับ ซึ่งมีติดมากับตัวรอมเลย
ด้านบนก็เป็นแอพติดเครื่องหลังจาก Factory Reset ใหม่ครับ
โดยพื้นที่ว่างรวมของหน่วยความจำภายในหลัง Factory Reset ไป จะอยู่ที่ราวๆ 2.5 GB ด้วยกัน ส่วน microSD ที่ให้มาก็มีขนาด 8 GB ครับ
ที่น่าสนใจของ i-mobile i-STYLE Q2 ก็คือฟังก์ชันการจัดการใช้งานซิม โดยจะอยู่ในหัวข้อ SIM management ซึ่งผู้ใช้สามารถเลือกใช้งานได้เลยว่าให้โทรออก/รับสาย, วิดีโอคอล, ส่งข้อความ หรือจะเป็นการใช้งาน data ซึ่งสามารถเลือกแยกได้ว่าจะให้ซิมไหนใช้ทำอะไร นอกจากนี้ยังเลือก import รายชื่อจากแต่ละซิมได้ด้วย ทำให้สะดวกต่อการใช้งาน เหมาะสำหรับคนที่ใช้เบอร์ของค่ายหนึ่งอยู่ แต่บริเวณที่ใช้งานประจำนั้นมีสัญญาณเน็ตไม่ค่อยดี จึงต้องไปหาซื้อซิมของค่ายอื่นมาใช้เน็ตแทน
แต่เนื่องด้วยความสามารถในการใช้งานได้พร้อมกันสองซิมนี้เอง ทำให้มีผลตามมา นั่นคือการใช้พลังงานที่เยอะขึ้นกว่าเครื่องปกติพอสมควร โดยเฉพาะจากซิมที่ใช้งานเน็ต ดังนั้นระยะเวลาในการใช้งานแบตเตอรี่ต่อการชาร์จหนึ่งครั้งจึงอาจจะน้อยกว่าเครื่องทั่วไปเล็กน้อย
สองภาพด้านบนนี้เป็นหน้าจอระหว่างการสลับใช้งานซิมครับ ซึ่งสามารถสลับแล้วใช้งานได้ทันที ไม่ต้อง restart เครื่องใหม่ ทำให้สะดวกกับการสลับซิมมากยิ่งขึ้น ส่วนการดู Data usage ก็จะมีแท็บแยกระหว่างซิมให้ เรียกได้ว่าตัว Android เองก็ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานสองซิมมาได้ดีอยู่แล้ว ส่วนในการใช้งานจริงนั้น เช่นในภาพล่างขวาเป็นการรับสายโทรศัพท์ ซึ่งก็มีการระบุชัดเจนว่าเป็นสายที่มาจากซิมไหน ช่วยให้เรามั่นใจว่าเลือกใช้งานซิมได้ถูกต้อง ซึ่งก็จะมี label คล้ายๆ กันนี้อยู่ในหมวดอื่นๆ ที่เกี่ยวกับการใช้งานซิมด้วย เช่น SMS ที่จะใช้การแยก inbox ระหว่างซิมให้เห็นชัดเจนไปเลย
เรื่องการสนับสนุนภาษาไทยก็เป็นอีกเรื่องที่ i-mobile i-STYLE Q2 ทำมาได้ดี โดยสามารถแสดงผลภาษาไทยได้ดีในระดับหนึ่ง คีย์บอร์ดที่ให้มาก็มีทั้งคีย์บอร์ดพื้นฐานของตัว Android เอง (ซึ่งตัวของภาษาไทยเป็นส่วนที่ i-mobile ใส่มาให้) และยังมีคีย์บอร์ด Arch Thai ติดตั้งมาให้ในตัวด้วย แต่ดูเหมือนจะใช้งานลำบากซักเล็กน้อย เพราะการสัมผัสไม่ค่อยแม่นยำมากนัก ตัวผมเองเลยสลับมาใช้คีย์บอร์ดของ Android แทนครับ ซึ่งก็พอใช้งานได้ในระดับหนึ่ง แต่แอบงงนิดๆ ตรงที่หาปุ่ม ล ไม่เจอ TT
การแสดงผลภาษาไทยในหน้าเว็บก็ทำออกมาได้ค่อนข้างดี สามารถแสดงแฟลชได้ (แต่ถ้าเยอะๆ ก็ไม่ไหวเหมือนกัน)
ต่อกันที่ตัวอย่างภาพที่ถ่ายจากกล้องหลังของ i-mobile i-STYLE Q2 ครับ ภาพคู่บนเป็นภาพเทียบระหว่างเปิดแฟลช (ซ้าย) กับปิดแฟลชแล้ววัดแสงธรรมชาติ (ขวา) ส่วนภาพคู่กลางเป็นภาพถ่ายตามสภาวะปกติครับ ทุกอย่างเป็น default หมด ปิดท้ายด้วยภาพคู่ล่างที่เป็นภาพถ่ายจากโหมดพาโนรามา ก็สามารถใช้งานได้ง่าย คุณภาพของภาพก็โอเคดี
โดยสรุปแล้วคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้อง i-mobile i-STYLE Q2 ก็จัดว่าอยู่ในระดับกลางๆ ของมือถือ Android โดยทั่วไป ให้สีสันที่ค่อนข้างเข้ม แต่ถ้าเจอแสงเยอะหน่อยก็ออกฟุ้งๆ ตามปกติของกล้องมือถือครับ
ทีนี้มาดูผลทดสอบกันบ้าง เริ่มที่ GLBenchmark กันก่อน เมื่อเทียบกับเครื่องรุ่นอื่นก็เป็นดังนี้
BrowserMark (Stock Android Browser)
คะแนนยิ่งมากยิ่งดี
GLBenchmark – High
คะแนนยิ่งมากยิ่งดี
GLBenchmark – Off screen 720p
คะแนนยิ่งมากยิ่งดี
SunSpider Javascript Benchmark
คะแนนยิ่งน้อยยิ่งดี
ถ้าให้สรุปประสิทธิภาพโดยรวมแล้ว ก็นับว่า i-mobile i-STYLE Q2 เป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพอยู่ในระดับที่ใกล้ๆ กับเครื่องรุ่นกลางๆ ทั่วไป เนื่องด้วยทั้ง CPU และ GPU ที่ให้มาเป็นชิปที่มีพลังประมวลผลในระดับไม่สูงมาก แต่ทั้งนี้ก็เพียงพอต่อการใช้งานทั่วๆ ไป จะเล่นเกมหนักๆ กราฟิกสูงๆ ก็พอไหวเป็นบางเกม
ส่วนเรื่องการใช้งานแบตเตอรี่นั้น เท่าที่ลองใช้งานเล็กน้อย เช่นเล่น Facebook เล็กๆ น้อยๆ เปิดความสว่างจอราวๆ 60 – 70% ตอนกลางวันใช้งาน WiFi ช่วงหัวค่ำจนถึงเช้าๆ ก็ใช้งาน 3G stand-by ทั้งวัน ก็ใช้งานได้เกินครึ่งวันเล็กน้อย แต่เท่าที่ลองสอบถามผู้ใช้งานจริงแล้ว เช่น แชทผ่านแอพบ่อยๆ ใช้งาน social network ?พบว่าระยะเวลาการใช้งานแบตค่อนข้างน้อยกว่าสมาร์ทโฟน Android ทั่วไป ซึ่งส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจากการใช้งานพร้อมกันสองซิมนั่นเอง จึงไม่น่าแปลกใจเท่าไรกับจุดนี้
สรุป
ตัวของ i-mobile i-STYLE Q2 นี้ จัดได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลางๆ ที่น่าสนใจทีเดียว สำหรับผู้อยากเริ่มหัดใช้งาน Android หรืออยากได้เครื่องที่ใช้งานแค่พื้นฐานทั่วไป ไม่เน้นเรื่องความแรง ไม่แคร์เรื่องการอัพเกรดเวอร์ชัน Android ในอนาคตเท่าไหร่ เนื่องด้วยความที่ชื่อแบรนด์ i-mobile ในตลาด Android ยังไม่หนาแน่นพอที่จะมั่นใจได้ว่าจะมีการอัพเกรดเวอร์ชันในอนาคตได้ทุกรุ่นหรือไม่ แต่ทั้งนี้ก็ขอบอกว่า Android 4.0.4 ที่ติดมาในเครื่องนี้ ก็สามารถตอบสนองการใช้งานทั่วไปได้ดีมากแล้ว ทั้งการทัช ความเร็วในการทำงาน หรือจะเป็นเรื่องของแอพที่รองรับ ล้วนเป็นสิ่งที่ i-mobile i-STYLE Q2 สามารถให้คุณได้แน่นอน เมื่อเทียบกับราคาก็จัดได้ว่าคุ้มค่าไม่น้อยเลย
ส่วนเรื่องของตัวเครื่องนั้น จัดว่าหนาแน่นและทำออกมาได้ดี เมื่อเทียบกับมือถือรุ่นก่อนๆ ของ i-mobile ซึ่งในจุดนี้ หลายๆ คนที่ได้ลองจับก็บอกเป็นเสียงเดียวกันว่า i-mobile ทำออกมาได้ดีทีเดียว งานประกอบดูแน่นหนา รูปทรงก็ค่อนข้างอินเทรนด์จนดูคล้ายเครื่องแบรนด์นอกหลายๆ รุ่น เรียกว่ามองผ่านๆ ก็ไม่สามารถสังเกตได้โดยง่าย ซึ่งในเรื่องของวัสดุนี้ คงต้องลองใช้ซักระยะหนึ่งถึงจะรู้แน่ชัดว่ามันจะเป็นอย่างไร เพราะการรีวิวเป็นระยะสั้นๆ อาจจะไม่ทราบในจุดนี้แน่ชัด เพียงแต่คงจะบอกได้แค่ว่า “อาจจะ” เป็นอย่างไรครับ
แต่ถ้าดูจากตัวนี้แล้ว ถ้า i-mobile สามารถสร้างสมาร์ทโฟนแนวนี้ออกมาและพัฒนาขึ้นได้เรื่อยๆ ล่ะก็ รับรองว่าเราน่าจะได้เห็นสมาร์ทโฟน Android จาก i-mobile ดีๆ ออกมาในอนาคตแน่ๆ ครับ
ข้อดี
- จอ IPS ขนาดใหญ่สบายตา
- วัสดุและงานประกอบทำมาได้ค่อนข้างดี
- ใช้งานได้ 2 ซิม รองรับ 3G ได้ทุกค่าย
- หน้าตาเครื่องดูอินเตอร์ดี
- มีคีย์บอร์ดไทยติดมาให้ในเครื่องเลย
- รุ่นนี้ดูทีวีไม่ได้นะ
- ความสว่างของจอไม่สูงมาก
- ปุ่ม Multitask ดันกลายเป็นปุ่ม Menu
- ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ค่อนข้างน้อย