เมื่อช่วงงาน Thailand Mobile Expo ที่ผ่านมา สมาร์ทโฟนที่เปิดวางจำหน่ายครั้งแรกในงานและได้รับความสนใจมากตัวหนึ่งเลยก็คือ HTC Butterfly เนื่องจากเป็นสมาร์ทโฟนรุ่นแรกๆ ของปีนี้ที่มาพร้อมกับจอความละเอียดสูงถึง 1080p และสเปกในระดับที่เรียกได้ว่าจัดเต็มกันเลยทีเดียว อีกทั้งยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจับตามองมาตลอดตั้งแต่ช่วงที่ยังพัฒนาอยู่ ซึ่งเมื่อเริ่มวางจำหน่ายแล้ว ทีมงานเราก็ไม่พลาดที่จะหยิบมารีวิวให้ทุกท่านได้อ่านกันเช่นเดิมครับ โดยเจ้า HTC Butterfly ที่เรารีวิวนี้ตัวฝาหลังจะเป็นสีแดง แต่ไม่ใช่รุ่น Limited Edition นะครับ (รุ่น Limited จะมีลายที่ฝาหลังและมี HTC Mini แถมมาด้วย)
มาเริ่มกันที่สเปกคร่าวๆ ของ HTC Butterfly กันก่อนเลย
- ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon S4 Pro (APQ8064) Quad-core ความเร็ว 1.5 GHz มาพร้อม GPU เป็น Adreno 320
- RAM 2 GB
- พื้นที่เก็บข้อมูล 16 GB รองรับ microSD ได้สูงสุด 32 GB
- หน้าจอ Super LCD 3 ขนาด 5 นิ้ว ความละเอียด 1920 x 1080 ใช้กระจกหน้าจอเป็น Gorilla Glass 2
- แบตเตอรี่ Li-polymer ความจุ 2020 mAh
- กล้องหลังใช้งานเซ็นเซอร์แบบ BSI ความละเอียด 8 MP รูรับแสง f/2.0 สามารถถ่ายวิดีโอได้ความละเอียดสูงสุด 1080p
- กล้องหน้าความละเอียด 2.1 MP
- น้ำหนักตัวเครื่อง 140 กรัม
- มาพร้อมระบบเสียง Beats Audio
- ราคาขาย ณ ปัจจุบัน 22,900 บาท
- สเปก HTC Butterfly เต็มๆ
มาดูส่วนด้านหน้าของเครื่องกันก่อน ผิวสัมผัสด้านหน้าทั้งหมดเป็นกระจก Gorilla Glass 2 มีส่วนโค้งตรงขอบทั้งสี่ด้าน ทำให้สามารถจับและใช้งานได้ถนัดมือ swipe จอได้ลื่นคล้ายๆ กับใน Nexus 4 และสมาร์ทโฟนอีกหลายๆ รุ่นในปัจจุบันที่นิยมออกแบบมาให้กระจกขอบจอมีความโค้งมน ส่วนบนจะเป็นแถบพลาสติกแยกชิ้นออกมาชัดเจน ตรงส่วนระหว่างรอยต่อของแถบพลาสติกกับแผ่นกระจกจะมีลำโพงสนทนาติดตั้งอยู่ ทางฝั่งซ้ายของโลโก้ HTC มีกล้องหน้า
ด้านล่างจอเป็นตำแหน่งของปุ่มหลักสำหรับใช้งานคือปุ่ม Back, Home และ Recent app ซึ่งทั้งสามปุ่มเป็นปุ่มแบบ capacitive ทั้งหมด โดยในระหว่างการใช้งานจะมีไฟ LED สว่างขึ้นมาให้มองเห็นได้ง่ายขึ้น (เล็กน้อย)
หน้าจอของ HTC Butterfly นั้นมีค่าความหนาแน่นของเม็ดพิกเซลสูงถึง 440 PPI (iPhone 5 มีเพียง 326 PPI) ทำให้ภาพที่แสดงผลบนจอของ HTC Butterfly สวยเนียน มองไม่เห็นรอยหยักตรงส่วนโค้งของภาพเลย ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้อดีของจอสมาร์ทโฟนที่มีความละเอียดสูงๆ แต่เอาเข้าจริงๆ ผมก็แทบแยกความแตกต่างในจุดนี้กับ iPhone 5 ไม่ค่อยออกนะ ส่วนตัวผมมองว่าถ้าใช้งานมือถือในระยะห่างจากสายตาในระดับปกติ ก็แทบจะมองไม่เห็นรอยหยักของการแสดงผลบนจอ iPhone 5 แล้ว จึงทำให้ความหนาแน่น 440 PPI ของจอ HTC Butterfly ไม่ค่อยจะเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกซื้อซักเท่าไหร่ แถมการที่จอความละเอียดสูงถึง 1080p อาจจะเป็นหนึ่งปัจจัยที่กินแบตเตอรี่มากกว่าปกติอีกด้วย จนทำให้ผมชักไม่แน่ใจว่า 1080p มันสูงไปสำหรับความละเอียดจอบนสมาร์ทโฟนหรือเปล่า แต่ถ้ามองโดยอิงจากกฏ 300 PPI ของ Apple ที่ Jobs เคยกล่าวไว้ว่าตามนุษย์จะแยกเม็ดพิกเซลได้เมื่อค่าความหนาแน่นต่ำกว่า 300 PPI ดังนั้นถ้าใช้จอขนาด 5 นิ้ว จึงอาจจะกลายเป็นไฟต์บังคับให้ต้องผลิตจอที่แสดงผลความละเอียด 1080p เพื่อให้ค่า PPI สูงกว่า 300 ก็เป็นได้ เพราะความละเอียดจอสมาร์ทโฟนรุ่นไฮเอนด์ในปัจจุบันมักจะอยู่ที่ 1280 x 768, 1280 x 800 ไม่ก็ข้ามไป 1920 x 1080 ซะเลย (สาเหตุที่ต้องอิงกับ iPhone เพราะเป็นเครื่องที่ใช้อ้างอิงได้ดีที่สุดในตลาดครับ)
ด้านการแสดงผลโดยรวมของจอจัดว่าดีมาก ทั้งในด้านของแสงสว่างที่สู้แสงจ้าภายนอกอาคารได้สบายและยังมีสีสันสวยสดอีกด้วย จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่มีจอคุณภาพดีรุ่นหนึ่งในตลาดเลย
ตัวอย่างการชมภาพยนตร์ความละเอียด 1080p บนจอของ HTC Butterfly ครับ ภาพคมชัด สวยเนี้ยบมาก น่าจะถูกใจท่านที่ชอบแปลงไฟล์หนังมาดูในมือถือแน่นอน
ไล่มาดูฝาหลังกันบ้าง อย่างที่เรากล่าวไปข้างต้นแล้วว่าเครื่องที่เรารีวิวเป็นรุ่นสีแดง ซึ่งมันก็มาแบบแดงสดมากๆ รับรองว่าสะดุดตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาแน่ๆ วัสดุที่ใช้เป็นพลาสติกเคลือบมัน จับแล้วก็พอจะกระชับมือในระดับหนึ่ง จุดที่ดีคือมีการออกแบบให้โค้งรับกับมือพอดีๆ ช่วยให้ประคองเครื่องไว้ในมือได้ง่าย แม้ว่าตัวเครื่องจะดูยาวๆ ไปซักหน่อย ตรงด้านซ้ายของกล้องจะมีไฟ LED notification อยู่ ซึ่งจะกระพริบเมื่อมีการแจ้งเตือนเข้ามา หรือขณะชาร์จไฟอยู่ก็จะมีไฟสีแดงติดขึ้นมาด้วย
จุดดีอีกข้อหนึ่งของ HTC Butterfly ที่ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นกว่ารุ่นก่อนหน้าก็คือส่วนของกล้องหลังที่ไม่นูนขึ้นมาอย่างในตระกูล HTC One X/X+ แล้ว ทำให้ตัวเครื่องโดยรวมบางลงมาก ประกอบกับน้ำหนัก 140 กรัม ที่ใกล้เคียงกับ iPhone 4S (ซึ่งมีขนาดจอเพียง 3.5″) ก็นับว่าน่าพอใจมากทีเดียวสำหรับกลุ่มสมาร์ทโฟนเครื่องใหญ่ แต่บางและค่อนข้างเบา เรียกว่าให้ความประทับใจหลังจับได้ดีเลย ซึ่งทาง HTC ให้ข้อมูลว่าเป็นการออกแบบในแบบ Stacking ที่ช่วยให้ตัวเครื่องของ HTC Butterfly บางลงกว่ารุ่นก่อนๆ อีกทั้งยังออกแบบให้มีการติดตั้งแบตเตอรี่ลงไปในตัวเครื่องโดยตรง แทนที่จะวางแบตเตอรี่ลงไปบนชิ้นส่วนเครื่องอย่างในสมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป ซึ่งการออกแบบเช่นนี้ช่วยให้เหลือพื้นที่ว่างภายในมากพอที่จะอัดชิ้นส่วนลงไปได้มากขึ้นในรูปโฉมที่บางกว่าเดิม น่าเสียดายที่ฝาหลังของ HTC Butterfly ไม่สามารถเปิดออกมาได้ เราจึงไม่ได้เห็นโครงสร้างภายใน แต่ก็มีคนในเว็บบอร์ด Droid Forums ทำการแกะ HTC Droid DNA (ซึ่งก็คือ Butterfly) มาให้ชมเหมือนกัน ตามภาพด้านล่างนี้
ภาพเพิ่มเติมสามารถตามไปชมต่อได้ที่นี่
กลับมาที่ตัวเครื่องส่วนนอก ด้านล่างของฝาหลังจะมีโลโก้ Beats Audio และลำโพงติดตั้งอยู่ตรงตำแหน่งประจำ ซึ่งถ้าใครที่เคยเล่นหรือจำรูปลักษณ์ของ HTC หลายๆ รุ่นในช่วงหลังได้ น่าจะคุ้นเคยกันดี คุณภาพเสียงที่ได้จากลำโพงนั้น……แนะนำว่าฟังเพลงจากหูฟังจะดีกว่าครับ ส่วนตัวของ Beats Audio นั้น สามารถใช้งานได้เมื่อเสียบหูฟัง/ลำโพงเท่านั้น ซึ่งเสียงที่ได้ขณะเปิดใช้งาน Beats Audio นั้น เอาจริงๆ ก็คือใกล้เคียงกับเสียงที่ได้จากการฟังในโหมดธรรมดาจากสมาร์ทโฟนรุ่นอื่น ต่างก็ที่แรงอัด impact ของเบสดีกว่า สเตจเสียงกว้างกว่านิดหน่อยเท่านั้น แต่ยังไงก็ดีกว่าไม่เปิดครับ
ด้านข้างของตัวเครื่อง เริ่มจากด้านบนจะมีฝาปิดสำหรับช่องใส่ไมโครซิมและ microSD ตรงกลางเป็นปุ่มเปิด/ปิด/ล็อคเครื่อง ถัดมาเล็กน้อยก็เป็นช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตร ซึ่งการวางปุ่มปลดล็อคจอไว้ตรงกลางประกอบกับตัวเครื่องที่ค่อนข้างยาวนั้น ทำให้เวลาใช้งานจริงค่อนข้างลำบากพอสมควร น่าจะวางตำแหน่งของปุ่มให้เอียงไปด้านใดด้านหนึ่งจะดีกว่า แต่คาดว่าคงจะเป็นความต้องการของ HTC ที่อยากออกแบบให้ทุกคนสามารถใช้งานเครื่องได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะผู้ที่ถนัดมือซ้ายหรือมือขวาก็ตาม
ส่วนด้านล่างนั้นมีฝาปิด ซึ่งภายในเป็นช่อง micro USB สำหรับชาร์จแบตเตอรี่ในตัว ส่วนรูเล็กๆ นั้นเป็นช่องรับเสียงของไมโครโฟนสนทนา โดยสาเหตุที่มีฝาปิดพอร์ตนั้น ก็เพื่อป้องกันน้ำและฝุ่น ซึ่ง HTC Butterfly สามารถป้องกันน้ำได้ตามมาตรฐาน IPX-5
ด้านซ้ายของ HTC butterfly ไม่มีปุ่มกดใดๆ ส่วนด้านขวามีปุ่มเพิ่ม/ลดเสียง โดยถ้าสังเกตดีๆ ทั้งสองฝั่งจะมีลักษณะเป็นช่องถี่ๆ อยู่ตลอดแนว ที่น่าจะออกแบบมาให้ช่วยจับเครื่องได้ถนัดมือขึ้น
ลองเทียบกับ iPhone 5 ดูบ้างครับ เหมือนพ่อกับลูกเลยทีเดียว
ตัวอย่างภาพจากกล้อง HTC Butterfly
ภาพถ่ายเต็มๆ สามารถเข้าไปดูจากที่นี่
ลองเทียบภาพที่ถ่ายจาก iPhone 5 ดูบ้างครับ (ที่ภาพเป็นขีดๆ ฟุ้งๆ น่าจะเกิดจากมีรอย/ฝุ่นอยู่หน้ากระจกครอบเลนส์) โดยภาพซ้ายเป็นภาพจาก HTC Butterfly ด้านขวาเป็นภาพจาก iPhone 5
ส่วนภาพที่ถ่ายจาก iPhone 5 สามารถเข้าไปดูได้ที่นี่
ด้านประสิทธิภาพ
HTC Butterfly มาพร้อมกับ Android 4.1 ซึ่งก็น่าจะมีการอัพเดตเวอร์ชันใหม่ๆ ตามมาในภายหลังไม่นานนัก ส่วน Sense ก็เป็นเวอร์ชัน 4+ โดยทาง HTC จะมีการอัพเดตเป็น The new Sense (Sense 5) ในอนาคตด้วย
Sunspider
Sunspider เป็นการทดสอบการคำนวณตาม javascript โดยรันอยู่บนเว็บเบราเซอร์ โดยให้ผลลัพธ์ออกมาเป็นเวลาเฉลี่ยที่ CPU คำนวณชุดสคริปต์เสร็จสมบูรณ์ของแต่ละรอบ โดยยิ่งใช้เวลาน้อยก็ยิ่งแสดงให้เห็นประสิทธิภาพที่ดีของ CPU
ดูเหมือนว่าชิป Snapdragon S4 Pro จะให้ผลการทดสอบ Sunspider ที่ไม่ค่อยดีเท่าไรนะครับ เพราะ Nexus 4 ก็ให้ผลในช่วงนี้เช่นกัน
Browsermark
Browsermark เป็นการทดสอบพลังการประมวลผลสคริปต์การเรนเดอร์ต่างๆ บนเว็บเบราเซอร์ เช่นทดสอบการเรนเดอร์ 2D, 3D, CSS, กราฟิกต่างๆ รวมไปถึงทดสอบระยะเวลาการโหลดเพจด้วย ให้ผลออกมาเป็นคะแนน ซึ่งยิ่งคะแนนสูงก็ยิ่งดี
GLBenchmark 2.1 : High
เป็นการทดสอบพลังการประมวลผลกราฟิกของ GPU โดยในโหมด High จะเป็นการเรนเดอร์ที่ความละเอียดของจอภาพโดยตรง ซึ่งผลที่ได้จะออกมาเป็นเฟรมเรตที่แสดงผล ที่ใช้วัดว่าสามารถแสดงผลได้ไหลลื่นขนาดไหน (ไม่สามารถนำไปเทียบเครื่องต่อเครื่องได้โดยตรง)
GLBenchmark 2.1 : Offscreen
ส่วนการทดสอบในโหมด offscreen จะเป็นการบังคับให้ GPU เรนเดอร์ที่ความละเอียดตายตัวเท่ากันทุกเครื่องคือ 720p ทำให้สามารถเทียบประสิทธิภาพได้ (เฟรมเรตยิ่งมากยิ่งดี)
โดยรวมแล้ว ชิป Snapdragon S4 Pro (APQ8064) ที่มาพร้อม Adreno 320 ทั้งใน HTC Butterfly และ Nexus 4 ให้ผลออกมาใกล้เคียงกันทั้งสี่การทดสอบ
การใช้งานแบตเตอรี่
การใช้งานแบตเตอรี่ของ HTC Butterfly นั้น ก็จัดว่าค่อนข้างเร็วทีเดียว สำหรับการใช้งานทั่วไป เช่น Facebook, Twitter, Line และฟังเพลงแบบเรื่อยๆ ไม่ได้เปิดจอไว้ตลอดเวลา ก็พอจะอยู่ข้ามวันได้ เท่าที่ลองใช้งานถอดสายชาร์จตอนประมาณ 4 โมงเย็น ใช้งานโซเชียลผ่าน 3G ไปเรื่อยๆ ถึงช่วงประมาณ 5 ทุ่ม แบตหายไปประมาณ 54% จากนั้นก็ตั้งทิ้งไว้ทั้งคืนแล้วมาเช็คดูตอนบ่ายโมงของอีกวัน ก็ยังเหลือแบตให้ใช้งานอยู่ 16% โดยไม่เปิดใช้งานฟังก์ชัน Energy Saver เลย ซึ่งถ้าเปิดก็คงจะได้นานกว่านี้อีกนิดหน่อย โดยรวมแล้วน่าจะสามารถใช้งานได้ถึงหนึ่งวัน เมื่อวัดเฉพาะอัตราการกินไฟช่วงที่ใช้งานจริงประมาณ 7 ชั่วโมงหลังถอดสายชาร์จ แต่ถ้าดูจากในกราฟ พบว่ากราฟการใช้พลังงานช่วงที่ใช้งานจริงมีอัตราดิ่งลง และถ้าใช้งานเท่าๆ กันตลอดก็น่าจะแบตหมดตั้งแต่ตอน 6 โมงเช้าหรือเร็วกว่านั้นอีกด้วย
มาดูหน้าตาและการแสดงผลหน้าจอบางส่วนบ้าง
สรุปปิดท้ายรีวิว HTC Butterfly
ผ่านไปอีกหนึ่งตัวสำหรับรีวิว HTC Butterfly หนึ่งในสมาร์ทโฟนที่น่าสนใจในช่วงที่ผ่านมา โดยรวมจัดว่าเป็นเครื่องที่อยู่ในระดับโอเค โดยเฉพาะเรื่องสเปก, จอแสดงผล, การทำงานโดยรวมที่ลื่นไหลดีมาก ส่วนด้านของฮาร์ดแวร์ภายนอกนั้น จัดว่างานประกอบแน่นหนาตามระดับของ HTC แม้จะลดระดับของฝาหลังจากตระกูล HTC One X ที่เคยใช้เป็นโพลีคาร์บอเนตลงมาเหลือเป็นพลาสติก จะมีด้อยเล็กน้อยก็คือผิวสัมผัสที่ลื่นมือไปหน่อย ประกอบกับตัวเครื่องและหน้าจอที่ค่อนข้างยาวทำให้ swipe เรียก notifications ได้ลำบากในบางครั้ง แต่โดยรวมแล้วก็จัดว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ที่น่าพอใจเครื่องหนึ่ง
แต่ถ้าติดตามข่าว จะพบว่า HTC เปิดตัว HTC One ที่ออกมาเป็นรุ่นเรือธงประจำปีหลัง HTC Butterfly วางจำหน่ายได้ไม่นานออกมาแล้ว ทำให้หลายท่านสงสัยว่าจะมีการจัดไลน์ผลิตภัณฑ์อย่างไร ในจุดนี้ทาง HTC ให้ข้อมูลว่า HTC Butterfly เองยังคงมีจุดเด่นตรงจอที่มีขนาดใหญ่กว่า HTC One จึงน่าจะยังสามารถตอบสนองตลาดที่ต้องการมือถือจอใหญ่ได้อยู่ ซึ่งก็คงต้องรอดูกันต่อไป
ข้อดี
- งานประกอบดี สเปกแรงเหลือเฟือ
- เครื่องเบา บาง
- จอสวย ภาพคมชัด แสงสว่างดีมาก
- กล้องทำงานได้ดี (แต่ภาพที่ออกมาอยู่ในระดับกลางๆ)
- มีฝาปิดพอร์ตให้ ช่วยกันน้ำ กันฝุ่นได้ระดับหนึ่ง
ข้อสังเกต
- ฝาหลังลื่นมือไปหน่อย
- หลายการทดสอบบอกว่าแบตเตอรี่ไม่ค่อยอึด
- หน้าจอยาวเกินไปที่จะใช้งานได้ตามปกติ