รีวิวเคส Nexus 5 รุ่น Ultra Hybrid จาก SPIGEN SGP ที่มาพร้อมฟีเจอร์สำหรับปกป้องเครื่องของคุณ

เคสมือถือ นับว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่จำเป็นสำหรับหลายๆ ท่านไปแล้ว ส่วนตัวผมเองก็ต้องใช้ด้วยเช่นเดียวกัน เพราะต้องใช้งานเครื่องนอกสถานที่ ที่เสี่ยงต่อการทำเครื่องตกพอสมควร และในปีนี้ได้เปลี่ยนจาก Nexus 4 มาใช้งาน Nexus 5 แทน จึงจำเป็นต้องหาเคส Nexus 5 มาใช้งานด้วยเช่นกัน ก็เลยลองเปิดเว็บไซต์ Ebay ดู ปรากฎว่าช่วงที่ผ่านมา (เดือนพฤศจิกายน) ทาง SPIGEN (SGP) กำลังจัดโปรโมชันลดราคาพิเศษสำหรับเคสมือถือหลายๆ รุ่นอยู่ รวมไปถึง Nexus 5 ด้วย ผมก็เลยสั่งซื้อมา 1 ชิ้นเพื่อใช้งานเองครับ โดยรุ่นที่ผมสั่งซื้อก็คือ SPIGEN Ultra Hybrid for Nexus 5 ขอบสีดำ ซึ่งตอนนี้ก็ได้ของมาเรียบร้อยแล้ว เลยขอรีวิวให้ชมกันสั้นๆ ซักเล็กน้อย

ภาพถ่ายในรีวิวนี้มาจากกล้อง Nexus 5 ทั้งหมดนะครับ

ตัวเคส Nexus 5 SPIGEN Ultra Hybrid นี้จะเป็นเคสแบบพอดีตัวเครื่อง มีส่วนปิดเอาไว้ทั้งขอบข้างและฝาหลังเลย ช่วยให้สามารถปกป้องเครื่องได้เป็นอย่างดี?

หน้าตากล่องครับ เป็นกล่องกระดาษ?มาในแบบเรียบๆ ง่ายๆ มีสติ๊กเกอร์ติดหน้ากล่องชัดเจนว่าเป็นเคสของ Nexus 5

ของที่มีในกล่อง นอกจากตัวเคส SPIGEN Ultra Hybrid แล้วก็จะมี

• แผ่นกระดาษสำหรับเพิ่มสีสันให้เคส
• ฟิล์มกันรอยหน้าจอ 1 ชุด มีการเจาะช่องที่ลำโพงสนทนาให้อย่างเดียว ไม่ได้เจาะช่องให้กล้องหน้าและช่องเซ็นเซอร์บนหน้าจอ
• คู่มือบอกให้ลอกแผ่นฟิล์มที่ติดกับเคสก่อนใช้งาน
• ใบแจ้ง serial number ของเคส เพื่อยืนยันว่าเป็นของจริง

โดยส่วนของเลข serial number ผู้ซื้อสามารถเข้าไปตรวจสอบได้ครับว่าเคส SPIGEN ที่ซื้อมาเป็นของจริงหรือเปล่า โดยเข้าไปที่เว็บไซต์ที่บอกบนแผ่นแจ้ง serial number จากนั้นก็กรอกรหัสลงไป ถ้าเคสเป็นของแท้ ก็จะมีข้อความบอกว่า?This product is a Genuine SPIGEN SGP Product.

ด้านหลังของกระดาษลายก็จะบอกเหมือนกันว่าให้แกะฟิล์มบนเคสออกด้วย พร้อมทั้งบอกวิธีการใช้งานกระดาษลายดังกล่าว ซึ่งผู้ใช้งานสามารถไปหากระดาษรูปอื่นๆ ที่ต้องการมาใช้งานแทนก็ได้เหมือนกันครับ โดยตัดแบบตามตัวอย่างที่แถมมาให้ในชุดจัดจำหน่ายได้เลย?

มาดูหน้าตาของเคส Nexus 5 SPIGEN Ultra Hybrid กันบ้าง?

รูปทรงของเคสก็จะดูบึกบึน แข็งแรงใช้ได้เลย ฝาหลังส่วนที่ใสๆ ทำมจากโพลีคาร์บอเนตหนา แข็งแรง (ในภาพยังติดฟิล์มทั้งด้านในและด้านนอกอยู่ สีเลยยังขุ่นๆ) ส่วนขอบสีดำเป็นยางประเภท TPU ซึ่งมีความแข็งแรง ยืดหยุ่นได้เล็กน้อย คุณภาพตัวยางจัดว่าดีเลยครับ น่าจะไม่ย้วยในอนาคต แข็งแรง ผิวสัมผัสภายนอกจะลื่นๆ แบบซอฟต์ทัช คล้ายกับฝาหลังของ Nexus 5 เองเลย ให้สัมผัสในการจับที่ดีมาก?ตัวเคสมีน้ำหนักประมาณ 28 กรัม เมื่อรวมกับ Nexus 5 ที่มีน้ำหนัก 130 กรัมแล้ว ก็จะมีน้ำหนักพอๆ กับ Nokia Lumia 1020, Galaxy Grand และน้อยกว่า Galaxy Note 3 อยู่นิดหน่อย

ขอบด้านในก็จะบอกเลยว่าออกแบบที่สหรัฐฯ และผลิตจากเกาหลี ถ้าเห็นเขียนว่ามาจากจีน อันนี้สันนิษฐานได้เลยว่าเป็นของปลอม (ฮา)

มุมล่างจะมีการบ่งบอกฟีเจอร์หนึ่งอย่างก็คือ Air Cushion Technology ตรงขอบมุมของเคส โดยฟีเจอร์นี้จะช่วยลดแรงกระแทกเวลาขอบมุมเคสตกกระแทกพื้น เพราะตรงมุมภายในตัวเคสจะมีช่องอากาศเว้นว่างไว้เล็กน้อยเพื่อดูดซับแรงกระแทก ทำให้แรงตกกระทบที่มุมไม่ได้ส่งมาถึงตัวเครื่อง Nexus 5 โดยตรง ก็นับว่าเป็นฟีเจอร์ที่ช่วยปกป้อง Nexus 5 ได้ดีในระดับหนึ่ง

การยืดตัวของยางครับ ต้องใช้แรงดันพอสมควรเลย พอลองปล่อยนิ้ว ยางก็คืนตัวกลับในทันที

ด้านบนและด้านล่างของเคส Nexus 5 SPIGEN Ultra Hybrid

ด้านข้างของตัวเคสจะมีปุ่มที่ทำเสริมขึ้นมาพิเศษ แบบราบเรียบไปกับเคสเลย ไม่ได้โดดขึ้นมา หรือเป็นช่องเว้นเว้าเข้าไปให้กดปุ่มโดยตรง ซึ่งทำให้ดีไซน์ของเคส SPIGEN Ultra Hybrid ดูราบเรียบไปทั้งตัว สวยงามไปอีกแบบ ทั้งปุ่มแบบนี้ยังช่วยให้สามารถกดได้ง่ายขึ้น เพียงแค่กดนิ้วเดียวก็สามารถใช้งานได้แล้ว แต่อาจจะมีปัญหาเวลาเก็บตัวเครื่องไว้ในกระเป๋าได้เหมือนกันครับ อันนี้อาจจะมีปัญหากับหลายๆ ท่านที่เก็บมือถือรวมไว้ในกระเป๋าช่องเดียวกับของอื่นๆ แต่ถ้าในกระเป๋ามีแต่มือถือเครื่องเดียว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร

หน้าตา Nexus 5 ตอนใส่เคส SPIGEN Ultra Hybrid แล้ว รูปทรงพอดีเครื่องมากๆ การใส่ก็จัดว่าไม่ยากนักครับ สามารถยัดเครื่องเข้าไปในเคส แล้วค่อยๆ ดันขยับเข้าไปได้เลย แต่จะมีปัญหาอยู่บ้างก็เรื่องขอบเคสดันขอบฟิล์มกันรอยหน้าจอออกมา ก็ต้องระวังกันนิดหน่อย

ขอบเคสจะมีส่วนที่เกยขึ้นมาเหนือหน้าจอด้วย โดยของเคส Nexus 5 SPIGEN Ultra Hybrid จะมีขอบยางสูงขึ้นมาจากหน้าจอประมาณ 1 มิลลิเมตร ช่วยปกป้องหน้าจอเวลาวางเครื่องแบบคว่ำหน้า หรือเวลาที่เครื่องตกแบบคว่ำหน้าลงไปพอดี เพื่อให้จอไม่กระแทกกับพื้นเรียบโดยตรง

ด้านหลังครับ จะมีการเว้นช่องให้กล้องถ่ายรูปแบบแฟลชแบบพอดีๆ และถ้าสังเกตตรงมุมทั้งสี่ของเคส Ultra Hybrid จะเห็นว่ามีขอบนูนขึ้นมาเล็กน้อยด้วย ทำให้เวลาวางหลังเครื่องลงบนพื้นเรียบ แผ่นฝาหลังใสๆ จะไม่ไปกระทบกับพื้นโดยตรง ช่วยรักษาความใสและความสวยงามให้กับเคสได้ในระดับหนึ่ง

พอลองจับใช้งานในมือ พบว่าสามารถใช้งานได้สะดวกมือแทบไม่ต่างจากตอนไม่ใส่เคสมากนัก แถมดีขึ้นอีกด้วย เพราะขอบเคสมีความมนกว่าขอบเครื่อง Nexus 5 จริงๆ อยู่นิดหน่อย รูปทรงก็ช่วยให้จับได้ถนัดมือได้ดี

ลองมาใส่กับ Nexus 5 สีดำบ้างครับ ใส่แล้วก็ยังเห็นรายละเอียดบนฝาหลังได้ชัดเจนอยู่

ผิวสะท้อนแสงพอสมควร

ลองใส่กระดาษลายที่แถมมาให้ในชุดจัดจำหน่ายดูบ้างครับ ขนาดก็พอดีๆ เลย ใครต้องการจะตกแต่งให้เป็นลายไหนก็สามารถนำกระดาษที่แถมมาไปเป็นต้นแบบแล้วตัดตามได้เลย

รีวิวเคส Nexus 5 SPIGEN Ultra Hybrid คร่าวๆ ก็มีเท่านี้นะครับ สำหรับใครที่สนใจและสามารถซื้อของผ่าน Ebay ได้ ก็จัดการสั่งซื้อไปได้เลย (ลิ้งค์หน้ารวมสินค้าของ SPIGEN) ยิ่งช่วงนี้มีโปรโมชันลดราคาอยู่ด้วย อย่างตัวของ SPIGEN Ultra Hybrid ในรีวิวนี้ก็ลดราคาจาก $24.99 เหลือ $8.97 (จากประมาณ 800 บาทเหลือ 300 บาท) เท่านั้น บวกค่าส่งอีกประมาณ 290 บาท รวมแล้วจ่ายไปเกือบๆ 600 บาทครับ ก็นับว่าถูกเลยล่ะ เมื่อเทียบกับราคาเคสของแท้ในไทย ส่วนใครที่ไม่มั่นใจเรื่องการซื้อของจาก Ebay ก็จะมีร้านตัวแทนจำหน่ายในไทยอยู่บ้างเหมือนกันครับ ราคาเริ่มต้นที่ประมาณ 900 บาท (ของแท้)