หลังจาก iPhone แต่ละรุ่นเปิดเผยหน้าตาออกมา สิ่งที่ค่ินข้างแน่นอนเลยก็คือเรื่อง iPhone ของเทียบที่มาจากจีนก็จะมีตามมาขายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และที่สำคัญคือรูปโฉมหน้าตาที่ถอดแบบมาได้เหมือนจนแยกออกจาก iPhone ของจริงได้ยากถ้าไม่สังเกตจริงๆ ทางเว็บไซต์ SpecPhone เราเลยขอหยิบ iPhone 5 จีนมาพรีวิวให้ทุกท่านได้ชมกันครับ ว่ามันจะเนียนขนาดไหน
ตัวของ iPhone 5 จีนนั้น แน่นอนว่าระบบปฏิบัติการที่ใช้จะต้องเป็น Android ที่ได้รับการแปลงโฉมมาให้ใกล้เคียงกับ iOS ที่สุด ซึ่งหลังจากลองเปิดใช้งานมา ก็พบว่าบรรดาไอคอนต่างๆมีความใกล้เคียงกับ iOS ใน iPhone จริงๆ จนอาจจะทำให้หลายคนแยกไม่ออกกันเลยทีเดียว ถ้าไม่เคยใช้งาน iPhone ของจริงมาก่อน โดยหน้าแรกหลังเปิดใช้งานขึ้นมา จะมีไอคอนของ GO Keyboard อยู่ ก็พอช่วยบ่งบอกได้ในระดับหนึ่งว่าแก่นของมันที่จริงก็คือ Android นั่นเอง โดยตัวของ GO Keyboard นั้นก็คือคีย์บอร์ดที่มีการดัดแปลงธีมให้ใกล้เคียงกับคีย์บอร์ดของ iOS ครับ
ส่วนเรื่องสเปกฮาร์ดแวร์ภายในนั้น เท่าที่ลองใช้แอพพลิเคชันตรวจสอบก็พบดังนี้
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6575 ความเร็วสูงสุด 2 GHz
- RAM 1 GB เหลือใช้งานได้จริงประมาณ 200 MB
- พื้นที่หน่วยความจำภายในประมาณ 50o MB
- พื้นที่หน่วยความจำภายนอก (SDCard ในตัว) 8 GB
- หน้าจอขนาด 4 นิ้ว ความละเอียด 800 x 480 (รุ่นที่ขายในไทยมีทั้งแบบ 854 x 480 และ 1136 x 640 ซึ่งต้องระบุและตรวจสอบดีๆ นะครับ)
- ใช้สาย Lightning ในการเชื่อมต่อ (สามารถใช้สายแท้ได้ แต่ไม่สามารถซิงค์กับ iTunes ได้นะ)
- กล้องหลังความละเอียด 8 MP กล้องหน้าความละเอียดประมาณ? 1.2 MP
- รองรับการใช้งานร่วมกับ Google Account
- มาพร้อม Android 4.1.5
- ราคาประมาณ 6,xxx บาท
ด้านของกล่องนั้น ก็มาในหน้าตาเดียวกับกล่อง iPhone 5 เลยทีเดียว จะมีเรื่องสีและวัสดุที่แตกต่างกันบ้างเล็กน้อยเท่านั้น ส่วนภายในจะมีอุปกรณ์ดังนี้
- สาย Lightning เทียม
- หูฟัง Apple แบบเก่า (เทียม)
- อะแดปเตอร์สำหรับชาร์จไฟ
หน้าจอของ iPhone 5 จีนนั้นให้สีสันที่ค่อนข้างสดและสว่าง แต่ก็ยังไม่ถึงระดับเดียวกับ iPhone 5 อีกทั้งสีของภาพจะติดโทนแดงกว่าเล็กน้อยด้วย แต่ถ้าใช้งานทั่วไปก็ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด ส่วนความละเอียดของภาพนั้น อย่างที่ทราบกันว่าความละเอียดจอของเครื่องที่เราได้มาทดสอบนี้ มีความละเอียดเพียงแค่ 854 x 480 แต่เพียงเท่านี้ ถ้ามองผ่านๆ ไม่ได้จ้องจับผิดจริงๆ ก็้มองว่าค่อนข้างเนียนใช้ได้แล้วครับ?
ด้านหลังของเครื่อง ได้รับการออกแบบมาให้คล้ายกับ iPhone 5 ในระดับหนึ่ง จะมีตรงที่โทนสีที่ต่างไปจากของแท้เล็กน้อย ส่วนตัวอักษรคำว่า iPhone และข้อมูลตัวเครื่องนั้นก็ใช้แบบตัวอักษรที่ต่างจากของจริง กับเรื่องของผิวสัมผัสที่ไม่ลื่นมือเท่ากับ iPhone 5 เรียกได้ว่าถ้าแค่มองผ่านๆ ก็อาจจะแยกได้ยากพอสมควร แต่ถ้าได้ลองจับจริงๆ ก็จะพอทราบได้ครับ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เคยใช้งาน iPhone 5 มาระยะหนึ่ง น่าจะแยกออกได้ไม่ยากนัก
ส่วนตรงกล้องถ่ายรูปที่เห็นเป็นรอยแตกนั้น เกิดจากการที่ทีมงานเราเผลอกดเครื่องตอนจะถอดเคสออกแรงไปหน่อยครับ ก็เลยเป็นรอยแตกอย่างที่เห็น ซึ่งก็เกิดมาจากการทดสอบว่า iPhone 5 จีนจะสามารถใช้งานเคสของ iPhone 5 แท้ได้หรือไม่ ผลออกมาก็คือ ได้เป็นบางรุ่น ครับ เช่นอาจจะเป็นพวกเคสซิลิโคนที่ค่อนข้างยืดหยุ่นหน่อย แต่ถ้าเป็นเคสแข็ง อาจจะต้องระวังพอสมควร เพราะขนาดตัวเครื่องจะต่างจาก iPhone 5 แท้อยู่นิดนึง แต่ถ้าฝืนกดๆ ลงไปหน่อยก็สามารถใช้งานร่วมกับเคสของเครื่องแท้ได้ครับ
ตำแหน่งของส่วนประกอบต่างๆ ด้านข้างเครื่องก็ออกแบบมาเหมือนกับเครื่องแท้เลย คือฝั่งขวาเป็นถาดใส่ซิม ซึ่งใช้เป็นไมโครซิมเท่านั้น (ของแท้ใช้นาโนซิม) ส่วนด้านซ้ายเป็นสวิทช์เปิด/ปิดเสียง และปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงที่ทำออกมาได้ใกล้เคียงกับของแท้เลย
ลองจับเทียบน้ำหนักกันซักหน่อย พบว่า iPhone 5 จีนมีน้ำหนักเพียงประมาณ 106 กรัม ส่วนของแท้มีน้ำหนักประมาณ 118 กรัม (ของแท้หนักกว่านิดหน่อยจ้า)
ภาพชุดด้านล่างนี้เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง iPhone 5 จีนกับ iPhone 5 แท้นะครับ (ของเทียมจอจะออกสีน้ำเงินกว่า)
คราวนี้มาต่อกันที่ด้านซอฟต์แวร์บ้าง อย่างที่ทราบๆ กันแล้วว่า iPhone 5 จีนนี้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Android ดังนั้นการดาวน์โหลดแอพพลิเคชันก็จะเป็นการดาวน์โหลดจาก Play Store ของ Google (แต่ไอคอนในเครื่องจะเป็นไอคอน App Store ใน iOS) และสามารถใช้งานได้เฉพาะแอพของ Android นะครับ ลองชมผลแบบคร่าวๆ แล้วกันนะครับ
ถ้าดูสเปกเครื่องจาก AnTuTu จะพบว่าระบบแจ้งความละเอียดจอเป็น 1136 x 640 แต่ถ้าลองดูจากแอพอื่นๆ ดังด้านล่างนี้ จะพบว่ามีการแจ้งเป็น 854 x 480 ทั้งหมด
ประกอบกับภาพที่ได้จากการแคปเจอร์หน้าจอทุกภาพ ก็ล้วนมีความละเอียดเป็น 854 x 480 ทั้งหมด ดังนั้นก็ฟันธงได้เลยว่าเครื่องที่เราได้มาทดสอบนี้ มีความละเอียดจอเพียง 854 x 480 ดังนั้นใครที่จะซื้อหา iPhone 5 เครื่องจีนมาใช้ คงต้องตรวจสอบกันดีๆ นะครับ ว่าเครื่องที่จะซื้อมีความละเอียดเป็น 1136 x 640 จริงอย่างที่ต้องการหรือเปล่า โดยให้ตรวจสอบจากหลายๆ แอพ นอกเหนือจาก AnTuTu เช่นใช้แอพ Android System Info แล้วดูในหัวข้อ Screen หรือจะลองใช้ NenaMark 2 เพื่อดูเรื่องความละเอียดจอก็ได้เช่นกันครับ
ส่วนเรื่องการใช้งานจริงนั้น ก็พบว่าสามารถใช้งานทั่วๆ ไปได้สบายๆ เรื่องเกมก็สามารถเล่นในปัจจุบันได้หลายเกมอยู่ แต่จะมีปัญหาก็เรื่องของระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่ค่อนข้างสั้น (แม้ว่าจะต่อ WiFi แค่อยู่อย่างเดียว ก็พบว่าแบตเตอรี่ลดเร็วมาก จนบางทีชาร์จเข้าแทบไม่ทัน)
ด้านอินเตอร์เฟส การสั่งงานต่างๆ ก็มีอาการหน่วงๆ เกิดขึ้นบ้างพอสมควร อาจจะเนื่องด้วยแรมที่เหลือค่อนข้างน้อย หน้าตาภายในก็ใกล้เคียงกับ iOS ในระดับหนึ่ง ส่วนใครที่สงสัยว่า ปุ่มที่มีปุ่มเดียว แล้วจะสั่งการอย่างไร การใช้งานปุ่มโฮมจะมีดังนี้ครับ
- กด 1 ครั้งคือ back
- กด 2 ครั้งคือเรียกดูแถบ multitask ด้านล่าง (หน้าที่เดียวกับปุ่ม recent app ใน Android)
- กด 3 ครั้งคือเรียกใช้งาน Iris ที่มีการทำงานคล้ายๆ กับ Siri ใน iOS
- กดค้างคือเปิดใช้งานเมนู (คือปุ่มเมนูใน Android)
สรุปท้ายพรีวิว
สำหรับ iPhone 5 เครื่องจีนนี้ ถ้าในแง่ของการใช้งานจริงอาจจะยังไม่สามารถทำได้เทียบเท่ากับ iPhone (ด้วยราคาที่แตกต่างกันมาก) แต่ในเรื่องของหน้าตาทั้งฮาร์ดแวร์ภายนอกและซอฟต์แวร์ภายใน จัดว่าทำออกมาได้ค่อนข้างเนียนในระดับหนึ่งเลยทีเดียว อยู่ในระดับที่ถ้ามองผ่านๆ ก็รู้สึกว่าเนียนตาใช้ได้เลย อาจจะเหมาะกับคนที่ต้องการหาเครื่องมาใช้โชว์ หรืออยากได้มือถือที่หน้าตาและความรู้สึกใกล้เคียงกับ iPhone 5 แต่ราคาไม่แพงก็นับว่าเหมาะทีเดียวครับ