หลังจากทางเรากดสั่ง iPad mini with Retina Display จากเว็บไซต์ Apple Store Online ประเทศไทยไปเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ตอนนี้เครื่องก็ถูกส่งมาถึงมือแล้วครับ ใช้เวลาประมาณ 11 วันด้วยกัน ซึ่งก็เป็นปกติของการสั่งสินค้าในช่วงแรกที่อาจจะช้าหน่อย ทางเราก็เลยจัดการถ่ายรูปให้ชมกันครับว่าแพ็คเกจจัดส่งเป็นอย่างไร และภายในกล่อง iPad mini with Retina Display เป็นอย่างไรบ้าง มาชมกันครับ (รูปทั้งหมดถ่ายจากมือถือนะครับ
กล่องที่ใช้ในการจัดส่ง iPad mini with Retina Display ก็มาเป็นกล่องพัสดุที่ใช้กระดาษแข็งและหนาดีมากครับ น่าจะช่วยปกป้องของข้างในได้ดีเลย สำหรับกล่องก็จะให้มาแบบมีขนาดเผื่อเหลือที่ว่างภายในไว้นิดหน่อย เรื่องขนาด ผมวางกล่อง blu-ray เทียบไว้ให้เห็นคร่าวๆ นะครับ (ความยาวของกล่อง blu-ray จะน้อยกว่ากล่อง DVD ประมาณ 1 เซนติเมตร)
ภายในกล่อง จะเห็นว่ามีเบ้ากระดาษแข็งสำหรับล็อกตัวกล่อง iPad mini เอาไว้ ทั้งยังมีช่องว่างภายในกล่องอีก รับประกันได้แทบจะ 100% ว่ากล่องสินค้าจริงๆ จะไม่ได้รับอันตรายจากการจัดส่งแบบปกติได้อย่างแน่นอน ซึ่งกล่องแบบนี้จะถูกบรรจุมาตั้งแต่โรงงานเลย
หน้าตากล่อง iPad mini with Retina Display สีดำ Space Grey ครับ หน้าตากล่องก็ไม่ต่างจาก iPad mini นัก ด้านข้างก็ใช้คำว่า iPad mini เหมือนเดิม จึงอาจจะแยกความแตกต่างจากรุ่นแรกได้ยากซักหน่อย
ฉลากด้านหลังกล่องครับ มีฉลากภาษาไทยมาให้เรียบร้อยเลย เพราะเป็นเครื่องศูนย์ของไทย บอกด้วยว่าตัวเครื่องผลิตเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายนนี้เอง (เท่ากับใช้เวลา 4 วันก็ส่งถึงมือ) เลขโมเดลเป็น A1489 ซึ่งเป็นรุ่น WiFi อย่างเดียว
เปิดฝากล่องขึ้นมาก็จะพบกับ iPad mini with Retina Display วางอยู่บนสุด
มีห่อพลาสติกให้มาตามปกติครับ
อุปกรณ์ภายในกล่องก็ให้มาตามปกติ ได้แก่สาย Lightning, เอกสารคู่มือต่างๆ และอะแดปเตอร์ ที่น่าสนใจก็คือตัวของอะแดปเตอร์ชาร์จไฟในไทยที่เปลี่ยนจากแบบหัวปลั๊กธรรมดาใน iPad mini (เป็นหัวบล็อคสี่เหลี่ยมเหมือนของ iPhone 5/5s) มาเป็นแบบก้อนอะแดปเตอร์+หัวปลั๊กสองขาแบน เหมือนกับที่ใช้ใน iPad รุ่นจอ 9.7 นิ้วมานานแล้ว ซึ่งนอกเหนือจากการเปลี่ยนรรูปร่างแล้ว ยังเปลี่ยนเรื่องการจ่ายไฟด้วยครับ โดยเปลี่ยนเป็น output สูงสุด 5.1V 2.1A 10W จากเดิมใน iPad mini รุ่นแรกที่จ่ายไฟได้แค่ 5W เท่านั้น ซึ่งก็เป็นการปรับเปลี่ยนตามความจุแบตเตอรี่และความต้องการใช้พลังงานของเครื่องที่เพิ่มขึ้น
ฝาหลัง iPad mini with Retina Display สีดำ Space Grey ก็เป็นสีแบบเดียวกับใน iPhone 5s และ iPad Air เลย มีจุดสังเกตที่แตกต่างจาก iPad mini รุ่นแรกที่สังเกตได้ง่ายหน่อยก็คือจุดเล็กๆ ตรงกลางด้านบนของฝาหลัง ที่เป็นช่องของไมค์ช่วยรับเสียงด้านหลังนั่นเอง
ขอจบพรีวิวแกะกล่อง iPad mini with Retina Display เพียงเท่านี้ก่อนนะครับ สำหรับรีวิว iPad mini Retina Display ตัวเต็มๆ จะตามมาในเร็วๆ นี้แน่นอน