ทุกวันนี้เวลาจะเลือกซื้อมือถือ Android แต่ละที แต่ละคนก็จะมานั่งดูข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องสเปกเป็นหลัก แต่ที่จริงแล้วยังมีอีกเรื่องที่มีผลต่อประสิทธิภาพของการทำงานค่อนข้างมาก แต่หลายๆคนมองข้ามไป นั่นคือ microSD ที่ใช้เป็นแหล่งเก็บข้อมูลขนาดใหญ่ของเครื่องนั่นเอง โดยที่จริงแล้วตัวของ microSD มีผลที่อาจไปลดประสิทธิภาพการทำงานโดยรวมลงได้เฉลี่ย 100% ? 300% เลยทีเดียว แถมยังมีบางกรณีที่ลดประสิทธิภาพลงไปกว่า 2,000% กันเลย ทำให้เห็นได้ชัดว่ามันกลายเป็นตัวถ่วงความแรงของเครื่องไป
การทดสอบนั้นไม่ได้ทำเฉพาะกับโปรเเกรมทดสอบเท่านั้น เเต่รวมไปถึงการใช้งานในชีวิตประจำวันทั่วไป เช่น การเล่นเว็บ โหลดอีเมล์ การเล่นเกมส์ รวมไปถึง Social Network ต่างๆ อย่าง Facebook หรือ Google+
ผลของการทดสอบจากเคสตั้งอย่างนั้น พบว่าความเร็วในการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอย่าง Wi-Fi หรือ 3G นั้นสามารถรองรับการใช้งานของเเอพลิเคชันต่างๆ ได้ในปัจจุบัน เเม้กระทั่งตัวประมวลผล Single Core หรือ Dual Core ก็สามารถใช้รองรับการใช้งานได้ดีอยู่ เเต่เเบนด์วิธของ NAND Flash นั้นเป็นส่วนที่มีความเร็วน้อยที่สุด เเถมเพราะความเร็วของ NAND Flash ที่น้อย ยังทำให้ซีพียูถูกเรียกใช้งายบ่อยครั้งมากขึ้นอีกด้วย
โดยวิธีแก้ปัญหาที่น่าจะได้ผลก็คือการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเข้าถึงหน่วยความจำไปใช้แบบ Phase-Change random access memory แทนวิธีในปัจจุบัน ที่จะทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานเพิ่มขึ้น รวมไปถึงการจัดรูปแบบไฟล์และพื้นที่ว่างใหม่ ซึ่งมีผลทดสอบยืนยันด้วยว่าสามารถทำให้ microSD รุ่นล่างๆ สามารถทำความเร็วได้สูงกว่า microSD รุ่นเทพๆบางตัวที่ใช้วิธีการเข้าถึงข้อมูลแบบเก่าได้เลย ก็หวังว่าเราน่าจะได้เห็นมันถูกนำมาใช้นะครับ
นอกจากนี้ยังมีผลการวัดประสิทธิภาพของ microSD ตามแบรนด์ที่เราเห็นกันในท้องตลาดเทียบกับ RAM และหน่วยความจำภายในเครื่องมาอีกด้วย โดยแบรนด์ที่ทำความเร็วได้ดีที่สุดตกเป็นของ Transcend ส่วนที่มีความเร็วในการทำงานน้อยสุดนั้นก็คือ Kingston ที่เราน่าจะคุ้นเคยกัน โดยในการทดสอบนี้จะเป็นการทดสอบความเร็วในการเปิดแอพต่างๆ เอาเป็นว่าไปดูกราฟด้านล่างเลยดีกว่าครับ
เเต่สำหรับเมืองไทยนั้นไม่เเน่เหมือนกัน บางที microSD อาจจะยังเร็วกว่า 3G เมืองไทยก็เป็นได้
ที่มา : PhoneArena