จุดหนึ่งที่หลายๆ คนเชื่อว่า Android ประสบความสำเร็จเนื่องจากว่าเป็น ?ระบบเปิด? ที่ให้โอกาสนักพัฒนาเข้ามาปรับเเต่งหรือนำ Android ไปใช้ได้ตามสะดวก ซึ่งก็เป็นเรื่องที่คนส่วนใหญ่ทราบกันดี
เเต่เอาเข้าจริงๆ เเล้วเเทบไม่มีใครรู้เลยความความเป็นระบบเปิดนั้นมันมีหลายระดับ ซึ่งผลวิจับจาก Vision Mobile นั้นได้ลงความเห็นว่า Android นั้นเป็นระบบที่ ?เปิด? น้อยที่สุด ท่ามกลางระบบเปิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น MeeGo, Mozilla, Linux หรือ Symbian
หลักการวัดนั้นเเบ่งเป็น 4 หมวดใหญ่ๆ คือ
- การเข้าถึงข้อมูล : ไม่ว่าจะเป็ร source code, กลไกในการสนับสนุนนักพัฒนาภายนอก, ความโปร่งใสในการตัดสินใจภายในโครงการ
- การพัฒนา : นักพัฒนามีอิทธิพลมากเเค่ไหรในการทิศทางหรือเนื้อหาในโครงการ
- การนำข้อมูลไปใช้ในโครงการอื่นๆ : เปิดโอกาสให้นักพัฒนานำ sorce code ไปใช้ในโครงการอื่นๆ นอกจากของตน มากน้อยเเค่ไหน
- ชุมชน : โครงสร้างของชุมชนที่ไม่เเบ่งเเยกกันระหว่างนักพัฒนา
โดยเมื่อวัดออกมาเป็นตัวเลขจากข้อกำหนดดังกล่าวเเล้ว พบว่า Android นั้นทำคะเเนนไปได้เพียง 23% เท่านั้น ซึ่งน้อยกว่าโครงการอื่นๆ เกือบเท่าตัวไม่ว่าจะเป็น Symbina หรือ Meego
ถ้าดูจากทิศทางของ Android จากอดีตจนปัจจุบันข้อ ความเปิดของ Android เราเห็นได้เพียงเเค่การนำให้ผู้ผลิตอื่นๆ นำไปดัดเเปลงหรือเพิ่มมูลค่าในตัว Android ได้
เเต่สิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่รู้คือ เครื่องที่ผลิตออกมาจะต้องผ่านมาตรฐานของ Google เสียก่อนจึงจะใช้ Google Application ได้ เช่น Android Market ดังนั้นเราจะเห็นเครื่องบางยี่ห้อนั้นก็เป็น Android เเต่ก็ไม่มี Market มาให้ ซึ่งถ้าไม่มีMarket ไว้โหลดเเอพลิเคชั่นเพิ่มเติมเเล้ว Android ก็ไม่ต่างกับ Symbian หรือระบบเก่าๆ เช่นกัน
หรือเเม้กระทั่งทิศทางการพัฒนา Android เวอร์ชั่นใหม่ๆ ก็ล้วนมากจาก Google เช่นเดียวกัน โดยไม่มีส่วนร่วมจากชุมชนมากนัก ดังนั้นจุดเด่นของ Android ที่เราเห็นว่าเป็นระบบเปิดนั้นคือการให้ผู้ผลิตหลายรายได้นำไปปรับเเต่ง เเละมี Custom Rom ออกมาสำหรับบางรุ่นเท่านั้น ซึ่งต้องใช้สิทธิ์ของผู้ดูเเลระบบ (รูท) เท่านั้น ซึ่งการทำเหล่านี้ทำให้เครื่องหมดประกันไม่ต่างกับการ Jailbreak บน iOS เลย
ถ้ามองในเเง่การ Jailbreak เทียบเท่ากับการ Root เเล้ว Android อาจจะไม่ใช่ระบบเปิดอย่างที่คิดก็ได้เพราะไม่ใช่การสนับสนุนอย่างเป็นทางการจากผู้ผลิต
ที่มา : Android and me