ก็ได้เห็นกันไปแล้วสำหรับการเปิดตัว iPhone 5S สมาร์ทโฟนเรือธงของ Apple ประจำปีนี้ แน่นอนว่าน่าจะมีหลายคนอยากนำมาเทียบกับสมาร์ทโฟนตัวท็อปล่าสุดของ Samsung อย่าง Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy Note 3 อย่างแน่นอน ทางเราจึงจัดการทำตารางเปรียบเทียบสเปคเด่นๆ ของทั้งสามรุ่นออกมาให้ได้เปรียบเทียบแล้วครับ ดังตารางด้านล่างนี้เลย
สเปค iPhone 5S😕https://specphone.com/Apple/iPhone-5S/
สเปค Samsung Galaxy S4😕https://specphone.com/Samsung/Galaxy-S4-[Galaxy-S-IV]/
สเปค Samsung Galaxy Note 3😕https://specphone.com/Samsung/Galaxy-Note-3/
ถ้าเปรียบเทียบในแง่ของตัวเลขสเปค ชิปประมวลผลแล้ว iPhone 5S อาจจะสู้ Samsung Galaxy S4 และ Note 3 ไม่ได้ในหลายๆ จุด ไล่มาตั้งแต่
- จำนวนคอร์ของชิปประมวลผล ที่ชิป Apple A7 ยังคงเป็นแบบ Dual-core อยู่ แต่ Samsung ทั้งสองรุ่นต่างเป็น Quad-core อย่างต่ำทั้งคู่
- จำนวนแรมที่น้อยกว่า
- หน้าจอเล็กกว่า ความละเอียดน้อยกว่า
- ความละเอียดกล้องน้อยกว่า
แต่ถ้าใครที่เคยใช้ iPhone มาก่อน ก็มักจะทราบดีอยู่แล้วว่า iPhone สามารถใช้งานได้ไหลลื่นขนาดไหน (ถ้าไม่เป็นรุ่นเก่าเกิน) แม้ว่าตัวเลขสเปคหลายๆ อย่างจะสู้คู่แข่งไม่ได้ก็ตาม ทั้งนี้ก็เนื่องจากการปรับแต่งซอฟต์แวร์ iOS ที่ทำออกมาให้เข้ากับ iPhone ได้ดี (เพราะ Apple ดูแล ออกแบบเองทั้งหมด) ดังจะเห็นได้จากการนำเสนอที่ไม่เน้นโชว์ตัวเลขสเปคแบบตรงๆ แต่เน้นไปที่การบอกว่ามันเร็วขึ้น ดีขึ้นกว่ารุ่นเก่าขนาดไหน ซึ่งก็ต้องทดสอบจากการใช้งานจริงว่าจะเป็นอย่างไร อีกทั้งชิป Apple A7 ใน iPhone 5S นั้นสามารถทำงานที่ระดับสถาปัตยกรรม 64-bit ได้อีก ทำให้น่าสนใจมากทีเดียวว่าประสิทธิภาพจะออกมาเป็นอย่างไร (ข้อมูลเพิ่มเติมของ iPhone 5S)
จะว่าไป สเปคบางอย่างของ iPhone 5S ก็จัดว่าเก่าไปแล้วสำหรับมาตรฐานสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปในปัจจุบัน เห็นได้ชัดเลยก็คือหน้าจอที่ยังคงมีขนาดเพียงแค่ 4 นิ้ว เท่านั้น ซึ่งก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้หลายๆ คนตัดสินใจไม่ซื้อ iPhone แล้วหันไปหา Android ที่จอใหญ่กว่าแทน เพราะสามารถใช้งานได้สบายตากว่า แถมยังได้ความละเอียดจอภาพที่สูงถึงระดับ Full HD อีกเรื่องที่ iPhone ยังคงด้อยกว่าสมาร์ทโฟนรุ่นท็อปของ Android ก็คือความจุแบตเตอรี่ที่จัดว่าน้อยไปแล้วสำหรับการใช้งานในยุคนี้ ดังจะเห็นได้จากเสียงบ่นของผู้ใช้ iPhone หลายคนว่าแบตหมดเร็วเกินไป ซึ่งก็ต้องมาดูกันครับว่า iPhone 5S จะสามารถใช้งานแบตเตอรี่ได้นานขนาดไหน
แต่ทั้งนี้ จุดเด่นของ iPhone ที่มักได้เปรียบสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นในตลาดก็คือความสามารถในการรองรับการเชื่อมต่อเครือข่ายมือถือได้ครอบคลุมหลากหลายค่าย ทั้งเครือข่าย 3G และ 4G LTE ที่สามารถใช้งานได้ในหลายๆ ประเทศทั่วโลก ส่วนทั้ง Samsung Galaxy S4 และ Samsung Galaxy Note 3 นั้นถึงแม้จะใช้งาน 4G LTE ได้ก็จริง แต่ก็ต้องเป็นโมเดลที่ใช้ชิปประมวลผลเป็น Snapdragon 800 เท่านั้น ส่วน 3G สามารถใช้ได้หมดครับ ไม่มีปัญหา
ปิดท้ายด้วยเรื่องของราคาที่ iPhone 5S เปิดมาราคาเท่ากับ iPhone 5 ช่วงเปิดตัวใหม่ๆ ส่วน Samsung Galaxy S4 นั้นมีราคาอยู่ที่ 21,900 บาท ซึ่งถูกกว่า iPhone 5S อยู่พอสมควร ส่วน Samsung Galaxy Note 3 คาดว่าน่าจะเปิดมาในราคาใกล้เคียงกับ Galaxy S4 ครับ แต่ยังไงๆ ดูแล้วก็คงขายดีทั้งสามรุ่นแน่ๆ ส่วนถ้ามองเรื่องวันเปิดขายวันแรก จัดว่า Apple เองก็จงใจตัดหน้า Samsung ในการวางขาย Galaxy Note 3 ไม่น้อยทีเดียว เพราะ Note 3 จะเริ่มวางขายในวันที่ 25 กันยายนนี้เป็นวันแรก ส่วน iPhone 5S จะเริ่มวางขายหน้าร้านเป็นครั้งแรกในวันที่ 20 กันยายนนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ด้านของ Note 3 จะมีการจัดจำหน่ายพร้อมกันกว่า 149 ประเทศทั่วโลก แต่ทาง iPhone 5S จะเริ่มวางขายในกลุ่ม 9 ประเทศหลักๆ ก่อนเท่านั้นเอง ก็ถือว่าได้เปรียบเสียเปรียบกันไปคนละอย่างล่ะนะ