[Review] รีวิว OPPO Neo 5s เติมเต็มตอบโจทย์ทุกการใช้งาน

OPPO Neo 5s ตัวเล็กน้องใหม่จากทาง OPPO ที่ได้เปิดตัวออกมาอย่างเงียบๆ แต่ความรู้สึกแรกที่ได้เห็นก็เปลี่ยนแปลงไปมิใช่น้อยเลย ซึ่งจะเปลี่ยนโฉมไปจากตระกูล Neo ที่ออกมาก่อนหน้านี้ และแลกมาด้วยความงดงามแฝงความหรูเล็กๆ เรียกได้ว่ามีความสมบูรณ์แบบเลยก็ว่าได้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการออกแบบหรือจะว่าเรื่องของสเปคก็จัดเต็มให้กับผู้ใช้งาน ก็ต้องมาดูกันล่ะครับว่าเจ้า OPPO Neo 5s จะตอบโจทย์ต่อการใช้งานขนาดไหนทาง Specphone ก็จะมารีวิวให้ดูกัน แต่ก่อนอื่นมาดูสเปคกันก่อนจ้า

สเปค OPPO Neo 5s 

• หน้าจอ IPS ขนาด 4.5 นิ้ว ความละเอียด 854×480 พิเซล
• ชิปประมวลผล Qualcomm Snapdragon 410 MSM8916 Quad Core 1.2GHz
• ชิปกราฟิค Adreno 306
• แรม 1 GB
• รอม 8 GB สามารถเพิ่ม MicroSD Card ได้สูงสุด 128 GB
• กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช
• กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• แบตเตอรี่ขนาด 2,000 mAh
• รองรับการใช้งาน 2 ซิมการ์ด 3G / 4G LTE
• ระบบปฎิบัติการ Android 4.4.4 KitKat ครอบด้วย ColorOS 2.0
• ราคาเปิดตัว 5,990 บาท
• สเปค OPPO Neo 5s เต็มๆ

ในส่วนสเปตของ OPPO Neo 5s ก็จัดเต็มมาให้เลยก็ว่าได้นะ แต่ก็อาจจะเป็นมาตรฐานสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับนี้ไปแล้วที่ต้องเป็นหน้าจออย่าง IPS ที่ทำมุมมองในการเล่นนั้นชัดเจนขึ้น ส่วนเรื่องของชิปประมวลผลก็ได้เลือกใช้ Qualcomm Snapdragon 410 ซึ่งความแรงก็อยู่ในระดับกลางๆ แต่ก็พอที่จะเล่นแอพพลิเคชั่นทั่วๆไปในตอนนี้ได้สบาย แต่จุดน่าสนใจที่ผมชอบเลยก็จะเป็นเรื่องของการรองรับ 4G LTE เนี่ยแหละ เพราะหลายๆคนถ้าจะเลือกซื้อสมาร์ทโฟนตอนนี้ก็คงจะดูเรื่องของ 4G LTE เป็นตัวตัดสินใจอีกข้อนึงเลยก็ว่าได้ แต่ OPPO Neo 5s ก็ได้จัดมาให้ครับ กับราคาแค่ครึ่งหมื่น

Design

พลิกมาดูด้านหลังของตัวเครื่อง ฝาหลังจะให้ความรู้สึกคล้ายๆแผ่นกระจก แต่ที่จริงนั้นไม่ใช่นะครับ จะเป็นแผ่นพลาสติกสีขาว ทำให้ด้านหลังดูสวยไปอีกแบบ ด้านบนก็จะเป็นกล้องความละเอียด 8 ล้านพิกเซลพร้อมกับแฟลช และด้านล่างก็จะเป็นลำโพง

ตอนแรกเมื่อได้เห็น ก็ยังสงสัยว่า OPPO Neo 5s ถอดฝาหลังได้หรือเปล่า เพราะดูแล้วเหมือนจะถอดไม่ได้ การออกแบบจะคล้ายๆการออกแบบอย่าง Unibody แต่เอาจริงๆแล้วก็ถอดฝาหลังได้นะ แต่จะต้องค่อยๆ งัดออกตามขอบ เมื่อเปิดฝาหลังมาก็จะเจอกับช่องใส่ซิมการ์ด สำหรับช่องใส่ซิม 1 จะเป็นแบบไมโครซิม ซิม 2 จะเป็นแบบนาโนซิม ถัดมาข้างๆ จะเป็นช่องใส่ MicroSD แต่ OPPO Neo 5s จะไม่สามารถถอดแบตได้นะเพราะจะถูกฝังอยู่ภายใต้บอร์ด

ภาพรวมของวัสดุและงานประกอบของ OPPO Neo 5s ถือว่าคุ้มค่ากับราคา ถึงตัวเครื่องจะเป็นพลาสติก แต่ก็เป็นวัสดุที่แข็งแรงใช้ได้เลย งานประกอบหนาแน่น ไม่มีส่วนใดของตัวเครื่องหลวมคลอนหรือประกอบกันไม่สนิท   และขนาดของตัวเครื่องขนาดกำลังพอเหมาะกับมือ ถือใช้งานได้อย่างสะดวกอย่างแน่นอน สำหรับใครที่มองหาความพรีเมียมในราคาย่อมกับ OPPO Neo 5s เป็นอีกตัวที่น่าสนใจเลยล่ะครับ

Software

OPPO Neo 5s มาพร้อมกับระบบปฎิบัติการ Android 4.4.4 KitKat ครอบด้วย ColorOS 2.0 ที่เป็นตัวใหม่ล่าสุดของทาง OPPO ที่ทำให้การปรับแต่งใช้งานได้มากยิ่งขึ้น ใช้เครื่องได้สะดวกโดยไม่ต้องลงแอพพลิเคชั่นเสริม และมี Gesture ที่หลากหลายที่จะทำให้การใช้งานเป็นเรื่องที่ง่ายไปเลย สำหรับใครที่หันมาเล่น Android ใหม่ๆ ก็คงจะไม่ยากเลย เพราะมีเมนูการใช้งานที่ไม่ซับซ้อน แต่ละลูกเล่นก็มีคำอธิบายให้พร้อม ส่วนเรื่องความไหลลื่นก็ไร้กังวล มีความไหลลื่นตามแบบฉบับ ColorOS

Camera

OPPO Neo 5s มีกล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล ที่สามารถถ่ายภาพกลางแจ้งหรือในสถานที่ต่างๆ ได้อย่างสวยงาม ให้ภาพที่คมชัดเก็บรายละเอียดได้สวยงาม ยิ่งถ้ารวมกับแอพพลิเคชั่นของ OPPO ที่มีลูกเล่นให้ลองเล่นมากมาย และได้ปรับได้อย่างอิสระ ทำให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องที่สนุกขึ้นเลยล่ะ เรื่อง White Balance ค่อนข้างทำได้ดีนะ แต่อาจจะมีบางครั้งที่เพี้ยนๆ เล็กน้อย แต่ก็ถือว่าไม่ได้แย่อะไรมากมาย ส่วนระบบออโต้โฟกัสค่อนข้างฉลาด มีความแม่นยำ และจับโพกัสไว้เอาเรื่องเลย

กล้องหน้า OPPO Neo 5s ถึงแม้จะมีความละเอียดเพียง 2 ล้านพิกเซลแต่เรื่องคุณภาพก็ไม่ได้เลวร้ายอะไรเลย ถ่ายเซลฟี่ได้สวยเนียนถูกใจได้เลยล่ะ ในโหมดถ่ายภาพแบบ “Beautify” ที่จะมีฟิลเตอร์ให้เลือกใช้งานถึง 8 แบบ

Performance

พูดถึงเรื่องประสิทธิภาพของ OPPO Neo 5s ก็ได้เลือกใช้ชิปประมวลผลอย่าง Qualcomm Snapdragon 410 ที่เป็นชิปประมวลผลสำหรับสมาร์ทโฟนในระดับราคาไม่เกินหมื่น แถมยังรองรับการประมวลผลแบบ 64-bit ที่ทำงานคู่กับแรม 1 GB ก็สามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นทั่วๆไปที่มีตอนนี้ได้อย่างสบาย อย่างพวกโซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือเกมก็ไม่มีปัญหา การสลับแอพต่างๆ ก็ทำได้อย่างรวดเร็ว ไม่มีอาการหน่วง นอกจากนั้นยังสามารถใช้งานบนเครือข่าย 4G และเชื่อมต่อ OTG ได้อีกด้วย

ส่วนการใช้งานของแบตเตอรี่ กับความจุขนาด 2,000 mAh ก็พอเพียงที่จะใช้งานได้กับสเปคประมาณนี้ แต่หากใช้งานหนักๆ หรือใช้งานบนเครือข่าย 4G ก็อาจจะต้องพกแบตเตอรี่สำรองไว้เผื่อด้วย แต่จากการใช้งานในหนึ่งวันโดยใช้งานแบบเล่นโซเชียลเน็ตเวิร์ค เปิดเว็บไซต์ และถ่ายรูปเล็กๆน้อยๆ ก็เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวันครับ

Gallery