ยิ่งนับวัน ผู้ใช้งานมือถือส่วนใหญ่ก็มักอยากได้มือถือที่จอใหญ่ขึ้นกว่าเดิมไปเรื่อยๆ และจะดีมากด้วยถ้าหากมันมาในราคาสุดคุ้มค่า ซึ่งก็แน่นอนครับว่าย่อมมีมือถือรุ่นที่ออกมาตอบสนองกลุ่มนี้เช่นกัน อย่างตัวของ Lenovo S930 ที่เรานำมารีวิวให้ชมกันในครั้งนี้ ถ้าอยากทราบว่า Lenovo S930 จะจอใหญ่ขนาดไหน หน้าตาจะเป็นยังไง มาชมกันได้ในรีวืว Lenovo S930 ตัวนี้เลย
รีวิวสเปค Lenovo S930
- ชิปประมวลผล MediaTek MT6582M แบบ Quad-core ความเร็ว 1.3 GHz มาพร้อมชิปกราฟิก Mali-400MP2
- แรม 1 GB
- หน้าจอ IPS ขนาด 6 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720
- Android 4.2.2
- กล้องหลังความละเอียด 8 ล้านพิกเซล พร้อมแฟลช LED
- กล้องหน้าความละเอียด 1.6 ล้านพิกเซล
- รอมในตัว 8 GB รองรับ MicroSD
- ใช้งานได้ 2 ซิม ใช้ 3G ได้ทุกเครือข่าย
- แบตเตอรี่ Li-polymer 3000 mAh
- น้ำหนัก 170 กรัม
- ติดตั้งลำโพงคู่ที่ด้านหน้าตัวเครื่อง พร้อมระบบเสียง Dolby
- ราคา 9,900 บาท
- สเปค Lenovo S930
สเปค Lenovo S930 จัดว่าอยู่ในกลุ่มระดับกลางๆ ของสมาร์ทโฟนในปัจจุบัน ในแง่ของชิปประมวลผล แรม รอมที่เป็นปัจจัยหลักๆ ของตัวเครื่อง แต่จะมีจุดเด่นอยู่ที่หน้าจอซึ่งขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้ว ความละเอียด 1280 x 720 ที่จัดว่ากำลังพอดีสายตาและไม่กินพลังงานมากเกินไป ทำให้ Lenovo S930 เหมาะกับผู้ต้องการมือถือจอใหญ่พิเศษ เพื่อใช้ในการอ่าน การเล่น Facebook, Instagram, LINE ตามสมัยนิยม เพราะตัวหนังสือบนจอจะมีขนาดที่สามารถอ่านได้สะดวกในระดับหนึ่ง
ส่วนอีกข้อที่นับว่าเป็นจุดเด่นของ Lenovo S930 ก็คือแบตเตอรี่ที่ให้มาถึง 3000 mAh นับเป็นสมาร์ทโฟนเพียงไม่กี่รุ่นในตลาดที่ราคาค่าตัวไม่สูงมาก แต่ได้แบตระดับนี้ รับรองว่าใช้งานกันได้อย่างสบายๆ แน่นอนทีเดียว สำหรับในด้านของความแรง ก็ต้องรอชมกันต่อไปกับในรีวิว Lenovo S930 ของเราครับ
แกะกล่องรีวิว Lenovo S930
หน้าตากล่อง Lenovo S930 ก็มาในสไตล์ของ Lenovo เลย ด้านหน้ามีรูปตัวเครื่องชัดเจน พื้นกล่องเป็นสีขาวมีลวดลายพอสมควร
อุปกรณ์ภายในก็ให้มาแบบพื้นฐานครับ ไม่ว่าจะเป็นอะแดปเตอร์ชาร์จไฟ, หูฟังแบบ In-Ear, สาย Micro USB รวมไปถึงเอกสารคู่มือต่างๆ มีทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศเลย
รีวิวหน้าตา Lenovo S930
มาดูที่ตัวเครื่อง Lenovo S930 กันบ้างครับ หน้าตาก็มาในแบบเรียบๆ ตามสไตล์ของ Lenovo ในช่วงหลังที่ไม่เน้นความหวือหวาในด้านดีไซน์ไปจากเดิมมากนัก ปุ่มสั่งงานบนตัวเครื่องก็มีด้วยกัน 3 ปุ่มได้แก่ปุ่มเมนู, ปุ่มโฮมและปุ่มย้อนกลับ ซึ่งถ้าจะเรียกใช้งาน Recent Apps จะต้องกดที่ปุ่มเมนูค้างไว้ ส่วนถ้ากดปุ่มโฮมค้างไว้จะเป็นการเปิดใช้งาน Google Now ทั้งนี้ ที่แต่ละปุ่มไม่มีไฟ LED ส่องสว่างนะครับ
ด้านบนหน้าจอก็จะมีโลโก้ Lenovo อยู่ ริมขวาสุดเป็นตำแหน่งของกล้องหน้า ส่วนจุดที่เป็นไฟสีเขียวนั้นคือไฟ LED Notification สำหรับช่วยในการแจ้งเตือน แต่น่าเสียดายที่เมนูการตั้งค่าของเครื่องไม่สามารถปรับแต่งไฟ LED ได้มากนัก
ส่วนเหล่าเซ็นเซอร์รับแสงสว่างกับเซ็นเซอร์วัดระยะห่าง ก็ถูกติดตั้งซ่อนไว้ด้านบนนี้ด้วยเช่นกัน
รีวิวหน้าจอ Lenovo S930
นอกจาก Lenovo S930 จะมีหน้าจอที่ขนาดใหญ่ถึง 6 นิ้วแล้ว จากเท่าที่เราใช้งานระหว่างการทำรีวิว Lenovo S930 ก็พบว่าสีสันของหน้าจอสดใส สวยงามในระดับที่น่าพอใจเลยทีเดียว ใครที่ชอบสีจอมือถือแบบสดๆ น่าจะชอบแน่ครับ ถ้าถามว่าสดระดับไหน ส่วนตัวคิดว่ายังน้อยกว่ามือถือ Samsung รุ่นที่ใช้จอ AMOLED อยู่นิดหน่อย
ส่วนเรื่องของความกว้างมุมมองหน้าจอ Lenovo S930 ก็จัดว่าทำได้ดีในระดับของพาเนล IPS เลย มุมกว้างก็ยังสามารถอ่านตัวอักษรได้ชัดเจน แต่ในด้านของความสว่าง อาจจะสู้แสงได้ไม่มากนักนะครับ เพราะกระจกหน้าจอสะท้อนแสงพอสมควร เท่าที่เรารีวิว Lenovo S930 แบบใช้งานกล่งแจ้ง ก็พอใช้งานได้ในระดับหนึ่ง
ลองใช้งานคีย์บอร์ด Android มาตรฐานบน Lenovo S930 ดู เท่าที่ลองใช้งานมือเดียว พบว่าก็พอจะพิมพ์ได้ แต่ก็ไม่ถนัดเท่าสองมือ เนื่องด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ แถมมีอีกปัญหาด้วยก็คือฝาหลังจะค่อนข้างลื่นมือ ดังนั้นการใช้สองมือช่วยพิมพ์ ช่วยประคองเครื่องน่าจะดีที่สุด
แถบด้านบนและด้านล่างของ Lenovo S930 จะเป็นช่องของลำโพงทั้งคู่เลยครับ ทำให้เวลาฟังเพลงหรือเล่นเกมก็จะมีเสียงออกมาจากลำโพงคู่ ให้เสียงที่ดังขึ้น สมจริงขึ้นกว่าลำโพงในมือถือ สมาร์ทโฟนทั่วๆ ไป
ด้านหลัง Lenovo S930
ด้านหลังของ Lenovo S930 ใช้พลาสติกเป็นวัสดุหลักอีกเช่นเคย พื้นผิวมีลายถักแบบละเอียดอยู่ทั้งแผ่น ซึ่งก็ให้ในเรื่องความสวยงามในระดับหนึ่ง แต่ถ้าจับใช้งานขณะที่มือมีเหงื่ออยู่ มันกลายเป็นว่าช่วยเพิ่มความลื่นมือเข้าไปอีก ดังนั้นเวลาจะจับใช้งานก็ต้องระมัดระวังพอสมควร ไม่อย่างนั้นเครื่องอาจหลุดมือได้
ด้านบนของฝาหลัง Lenovo S930 ก็จะมีกล้องหลัง ซึ่งมีวงแหวนโลหะล้อมรอบช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งและป้องกันการกระแทก เนื่องจากชุดเลนส์และกระจกปิดหน้าเลนส์มีความยาวยื่นออกมาจากฝาหลัง ใกล้ๆ กันนั้นแฟลช LED และช่องรับเสียงของไมค์ช่วยตัดเสียงรบกวน
ด้านล่างไม่มีอะไรครับ มีแต่แถบพลาสติกชุบ ลักษณะเป็นมันวาวคล้ายโครเมียม ให้ความรู้สึกดูหรูหราดี แต่ก็น่าจะเป็นรอยง่ายอยู่เหมือนกัน
ถึงเวลาแกะฝาหลังออกมาประกอบการรีวิว Lenovo S930 แล้ว การแกะฝาหลังก็ทำได้โดยการใช้เล็บแงะที่ร่องตรงมุมขวาบนของเครื่อง (หันหน้าจอออกจากตัว) แล้วค่อยๆ ดึงฝาส่วนบนออกมา เมื่อดึงออกมาแล้ว ก็ดันฝาหลังทั้งแผ่นขึ้นไปทิศทางด้านบนของเครื่อง เพื่อเลื่อนให้สลักหลุดออกจากตัวยึด ส่วนการใส่ฝาหลังก็ให้สอดสลักของฝาหลังเข้าไปในตัวยึดที่อยู่ติดกับขอบมันวาวท้ายเครื่องก่อนนะครับ จากนั้นจึงค่อยกดขอบฝาหลังแต่ละด้านลงไป จึงจะสามารถปิดฝาหลังได้สนิท ขั้นตอนอาจจะยุ่งยากซักหน่อย เพราะในมือถือทั่วไป มักจะใช้การกดขอบเพื่อให้สลักเข้าช่องล็อกอย่างเดียว
ส่วนที่ใหญ่สุดก็คือก้อนแบตเตอรี่ขนาด 3000 mAh ซึ่งมีขนาดใหญ่ แต่บางมาก ส่วนด้านบนเหนือแบตเตอรี่จะเป็นช่องใส่ซิมการ์ดสองช่อง ซึ่งรองรับได้ถึงซิมการ์ดขนาดปกติเลย ริมขวาสุดเป็นช่อง MicroSD
ถ้าถอดแบตเตอรี่ Lenovo S930 ออกก็จะพบว่ามีฉลากเขียนกำกับอยู่แล้วว่าซิมช่องไหนใช้งาน 3G ได้
มาดูสี่ด้านรอบตัวเครื่องของ Lenovo S930 กันต่อ เริ่มจากด้านบนซึ่งมีเพียงช่องเสียบแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรเท่านั้น ส่วนที่มุมขวาสุดในภาพ สังเกตดีๆ จะเห็นเป็นร่องสำหรับแงะฝาหลังออกมาอยู่ครับ
ด้านล่างก็จะมีช่อง Micro USB กับช่องรับเสียงของไมค์สนทนา
ฝั่งซ้ายของ Lenovo S930 ไม่มีปุ่มกดหรือพอร์ตเชื่อมต่อใดๆ อยู่เลย
ส่วนด้านขวาก็จะมีปุ่ม Power เป็นปุ่มเล็กๆ อยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับนิ้วหัวแม่มือ เมื่อจับเครื่องด้วยมือขวาในท่าปกติ ส่วนแผงปุ่มยาวๆ ก็เป็นปุ่มเพิ่ม/ลดเสียงตามมาตรฐาน ตัวปุ่มกดค่อนข้างง่าย ต่างจาก Lenovo Vibe X ที่ปุ่มมันซ่อนมือมากเกินไป กดลำบาก
เปรียบเทียบ Lenovo S930 กับ Vibe X
ไหนๆ ทางเราก็ยังมี Lenovo Vibe X อยู่อีกเครื่อง เลยขอนำมาเปรียบเทียบขนาดกับ Lenovo S930 ให้เห็นความแตกต่างกันชัดๆ แล้วกันครับ โดยตัวของ Vibe X มีขนาดหน้าจออยู่ที่ 5 นิ้วพอดิบพอดี (รีวิว Lenovo Vibe X) เมื่อมาเทียบกับ S930 หน้าจอ 6 นิ้วนี่ เห็นได้ชัดเลยว่าต่างกันมาก
ขอบเครื่องแม้จะดูว่ามีอะลูมิเนียมล้อมรอบเหมือนกัน แต่ตัวของ Vibe X จะล้อมขึ้นมาสูงกว่ามาก
Lenovo S930 (ซ้าย) มีความหนากว่า Lenovo Vibe X (ขวา) อยู่พอสมควรเลย คือเกือบๆ 2 มิลลิเมตร
สำหรับการรีวิวตัวเครื่อง Lenovo S930 ก็จบไปแล้วนะครับ ต่อไปมาดูในส่วนอื่นๆ ที่น่าสนใจกันบ้าง
รีวิวกล้อง Lenovo S930
หน้าตาของแอพกล้อง Lenovo S930 ก็มาในรูปแบบเดียวกับที่อยู่บนมือถือ Lenovo หลายๆ รุ่น ซึ่งนอกจากจะใช้งานง่ายแล้ว ยังมาพร้อมเอฟเฟ็คท์แต่งภาพอีกมากมายด้วย
การปรับตั้งค่าต่างๆ ก็ทำได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความละเอียดภาพ ความสว่าง ความคมชัด รวมถึงสามารถปิดเสียงตอนถ่ายรูปได้ด้วยนะ
ตัวอย่างรูปถ่ายจาก Lenovo S930
ทุกภาพถ่ายแบบอัตโนมัติ ปิดแฟลช
ภาพด้านล่างนี้ถ่ายแบบปิดแฟลชตามปกติ
ส่วนภาพด้านล่างนี้ถ่ายแบบเปิดแฟลชครับ
ตัวอย่างภาพหน้าจอ Lenovo S930
เริ่มจากหน้าล็อคสกรีนและหน้าโฮมกันก่อน Lenovo S930 มาพร้อมกับ Lenovo Smart User Interface ที่ได้รับการปรับแต่งให้สามารถใช้งานได้ง่าย ด้วยการจัดเรียงไอคอนแอพไว้ที่หน้าโฮมทั้งหมด ไม่มีการกดเรียก App Drawer ขึ้นมาเพื่อดูแอพในเครื่อง ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือการวางไอคอนแอพแบบเดียวกับใน iOS นั่นเองครับ ผู้ใช้สามารถสร้างโฟลเดอร์รวมกลุ่มแอพเอาไว้ได้ จะสลับเปลี่ยนตำแหน่งก็ทำได้ง่ายดาย รวมๆ แล้วก็จัดว่าโอเคนะกับ UI แบบนี้ ระดับความไหลลื่น นับว่าดีเลย รู้สึกจะลื่นกว่า Vibe X อีกด้วย (Vibe X จอ Full HD)
Lenovo S930 ติดตั้งมาพร้อมกับ Android 4.2.2 Jelly Bean ซึ่งยังคงเป็นเวอร์ชันยอดนิยมสำหรับสมาร์ทโฟน Android รุ่นใหม่ๆ อยู่ สำหรับคำถามว่าจะได้รับการอัพเดตเป็น Android 4.4 KitKat หรือไม่ ถ้าดูจากสเปคแล้วก็พอมีโอกาสครับ ขึ้นอยู่กับทางผู้ผลิตทั้งฝั่ง Lenovo เองและผู้ผลิตฮาร์ดแวร์ภายในเครื่องจะมีแผนต่อไปอย่างไร
ส่วนพื้นที่เก็บข้อมูลในเครื่อง 8 GB เมื่อเปิดเครื่องมาจะเหลือให้ใช้ประมาณ 5.3 GB ซึ่งก็เพียงพอสำหรับการติดตั้งแอพใช้งานทั่วๆ ไป แต่ถ้าต้องการลงเกม เพลง หนัง แนะนำว่าหา MicroSD มาเสียบซักอันก็จะดีมากเลย เมื่อใส่เข้าไปแล้วก็อย่าลืมตั้งค่าในหัวข้อ Default Write Disk (รูปขวา) ให้เป็น SD Card ด้วยนะ
นอกจากส่วนของ Settings จะเป็นที่ตั้งค่าระบบ Android ตามพื้นฐานแล้ว ยังมีส่วนของการปรับแต่งฟีเจอร์เฉพาะของ Lenovo เองอีก ?เช่น การเปิด/ปิดฟีเจอร์การรับสายโดยไม่ต้องกดปุ่มรับสาย แค่ยกเครื่องมาแนบหูก็สามารถคุยได้เลย แต่มีฟีเจอร์หนึ่งที่อยากแนะนำครับ นั่นคือ Screen off unlock ที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานสามารถปลดล็อคหน้าจอได้ เพียงแค่ลากนิ้วผ่านแนวปุ่มสั่งงานทั้ง 3 ปุ่มด้านล่างจอเท่านั้นเอง ซึ่งจากในการรีวิว Lenovo S930 มา ก็พบว่าฟีเจอร์ดังกล่าวช่วยให้สามารถปลดล็อคหน้าจอได้สะดวกขึ้นมานิดหน่อย และการลากนิ้วจริงๆ ก็ลากเพียงแค่จากปุ่มเมนูมาถึงปุ่มโฮมก็ใช้ได้แล้วครับ (ถือเครื่องด้วยมือขวา)
ส่วนการล็อคหน้าจอ ก็สามารถเปิดใช้งานฟีเจอร์สั่นเครื่องเพื่อสั่งล็อคหน้าจอได้ด้วย ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีช่วยถนอมปุ่ม Power ได้นะ
ผลทดสอบ Lenovo S930
แอพ CPU-Z ก็สามารถมองเห็นทั้ง 4 คอร์ประมวลผลได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ไม่สามารถระบุชื่อรุ่นได้เท่านั้นเอง เนื่องจากชิปประมวลผล MediaTek MT6582M ถือว่าค่อนข้างใหม่ในช่วงเวลานี้
ผลทดสอบการประมวลผลชุดคำสั่งต่างๆ บนเว็บเบราเซอร์ด้วย SunSpider กับ BrowserMark ก็ออกมาในระดับกลางๆ ครับ ไม่แรงมากนัก แต่ก็ถือว่ายังโอเค ยิ่งเทียบกับราคาด้วย ก็นับว่าใช้ได้แล้วล่ะ
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพด้านกราฟิกด้วย GFXBench 2.7.2 กับ 3DMark ผลออกมาก็ไม่เกินคาดมากนัก คืออยู่ในระดับที่ใช้เล่นเกมทั่วๆ ไปได้
ด้านของแบตเตอรี่ Lenovo S930 (รวมถึงสมาร์ทโฟนของ Lenovo แทบทุกรุ่น) ก็จะมาพร้อมกับแอพช่วยจัดการแบตเตอรี่โดยเฉพาะ ซึ่งนอกจากจะบอกระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้แล้ว ยังมีแจ้งข้อมูลอื่นๆ ได้อีก เช่นระยะเวลา/สถานะในการชาร์จแบตเตอรี่ว่าตอนนี้ชาร์จช้าหรือเร็วขนาดไหน มีฟีเจอร์ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถ calibrate แบตเตอรี่ เพื่อให้ระบบสามารถแจ้งเตือนระดับแบตเตอรี่ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงยังมีความสามารถในการตั้งรูปแบบโหมดการทำงานให้สอดคล้องกับปริมาณแบตเตอรี่ที่เหลืออยู่ได้ด้วย เช่นเราอาจจะตั้งให้ระบบปิด 3G และ GPS ไป ถ้าหากปริมาณแบตเตอรี่เหลือน้อย ทำให้เราสามารถใช้งานเครื่องได้ยาวนานขึ้น
ส่วนเรื่องการใช้งานแบตเตอรี่ของ Lenovo S930 นั้น ด้วยแบตเตอรี่ที่ให้มามีความจุสูงถึง 3000 mAh รับรองได้เลยว่าใช้งานทั่วไปอยู่เกินหนึ่งวันได้อย่างสบายๆ แต่ถ้าใช้งานเครื่องอยู่ตลอดเวลา ก็แน่นอนว่าระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่คงลดหลั่นลงไปพอสมควร
สรุปรีวิว Lenovo S930
Lenovo S930 นับเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาได้โดนใจกลุ่มผู้ใช้ที่ต้องการมือถือจอใหญ่ ราคาไม่แพงได้เป็นอย่างดี ด้วยหน้าจอที่ใหญ่ถึง 6 นิ้วจนเข้ากลุ่มแฟบเล็ตไปแล้ว การรองรับ 2 ซิม แบตเตอรี่ความจุสูง ติดตั้งมาพร้อมลำโพงคู่หน้า การใช้งานทั่วไปก็ไหลลื่นดี ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในราคาไม่ถึง 10,000 บาท ทำให้ Lenovo S930 น่าจะเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่น่าสนใจมากทีเดียวครับ สำหรับคนต้องการมือถือจอใหญ่ สเปคครบครันสำหรับการใช้งานสมาร์ทโฟนในชีวิตประจำวัน
ข้อดี
- หน้าจอมีขนาดใหญ่ มองเห็นง่าย สบายตา สีสันสดใส
- มีลำโพงด้านหน้า 2 จุด และระบบเสียง Dolby ช่วยให้พลังเสียงดีขึ้น ดังขึ้น
- แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 3000 mAh
- มีฟีเจอร์ที่ช่วยทำให้ปลดล็อคหน้าจอได้ง่ายขึ้น
- ราคาดี คุ้มค่า
ข้อสังเกต
- ฝาหลังลื่นมือไปหน่อย รวมถึงการแกะและการประกอบกลับเข้าไปค่อนข้างลำบาก