รีวิวน้ำยา Liquid Armor อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับปกป้องจอสมาร์ทโฟน สำหรับผู้ไม่อยากติดฟิล์มกันรอย

ปัจจุบัน เชื่อว่าผู้ใช้งานสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตแทบจะร้อยทั้งร้อย นิยมติดฟิล์มกันรอยให้กับอุปกรณ์ของตน ด้วยจุดประสงค์รวมกันหลายๆ ข้อ ไม่ว่าจะเป็น เพื่อป้องกันกระจกหน้าจอเป็นรอย ป้องกันแรงกระแทก(ได้ในระดับหนึ่ง) เพื่อไม่ให้มีคราบรอยนิ้วมือมาบดบังหน้าจอ เพื่อลดแสงสะท้อนจากภายนอกที่สะท้อนจากจอเข้าสู่ตาเรา รวมไปถึงบางคนติดฟิล์มเพื่อทำให้หน้าจอกลายเป็นกระจกส่องหน้าก็มี ซึ่งฟิล์มกันรอยในปัจจุบันก็มีให้เลือกกันหลายเกรดแบ่งกันไปตามราคา

โดยตัวของฟิล์มกันรอยที่ได้รับความนิยมค่อนข้างมากก็คือฟิล์มแบบด้าน เนื่องจากทำให้สามารถลากนิ้วได้ไหลลื่นกว่าฟิล์มแบบใส แต่ก็จะมีปัญหาเรื่องสีสันและความสว่างจากจอภาพลดลงไปจากความเป็นจริง ซึ่งคงจะไม่ค่อยเป็นที่ถูกใจซักเท่าไรสำหรับผู้ที่ต้องการความสดใสของสีสันจากจอสมาร์ทโฟนที่อุตส่าห์เสียเงินซื้อมา แต่จะไปใช้ฟิล์มใสก็ไม่ลื่นมือ หรือจะลองไปหาฟิล์มรุ่นใหม่ๆ ที่เป็นการรวมข้อดีของฟิล์มด้านและฟิล์มใสเข้าด้วยกัน ก็มีตัวเลือกไม่ค่อยเยอะ แถมไม่ว่าอย่างไรๆ สีก็ยังดรอป จอก็ลื่นไม่สุดอยู่ดี?ยังไม่รวมถึงปัญหาสำคัญสุดคือ ฟิล์มกันรอยในตลาดไม่ได้มีสำหรับสมาร์ทโฟนทุกรุ่นที่มีขายในตลาด จะมีก็ให้เลือกเยอะก็เฉพาะพวกรุ่นยอดนิยม เช่น iPhone, iPad, Samsung Galaxy รุ่นดังๆ ซึ่งถ้าใครใช้มือถืออินดี้ หรือรุ่นที่ไม่ติดลมบนจริงๆ คงได้เดินหาฟิล์มกันน้ำตาแทบไหลแน่นอน ส่วนอีกทางเลือกหนึ่งคือการติดฟิล์มแบบให้ร้านตัดตามรอยให้ ก็ต้องมาลุ้นกันอีกว่าร้านจะตัดสวยและเข้ารูปขนาดไหน ส่วนวิธีการติดฟิล์มลนไฟนั้น เหมือนจะเป็นทางเลือกที่ดี แต่เชื่อว่าหลายคนคงไม่อยากให้เครื่องของตนไปโดนลนไฟแน่ๆ

ดังนั้นในรีวิวนี้ทางเราจะขอนำเสนออีกวิธีสำหรับการปกป้องหน้าจอสมาร์ทโฟนสุดที่รักของคุณ นั่นคือตัวของ น้ำยาเคลือบจอ Liquid Armor ซึ่งที่ผ่านมามีกระแสเป็นที่พูดถึงกันมากพอตัวทีเดียว ทางเราก็ไม่พลาดที่จะหยิบมารีวิวให้ทุกท่านได้ดูกันครับ ว่ามันมีคุณสมบัติเป็นอย่างไร เพื่อจะโดนใจคนที่กำลังอยากเปลี่ยนฟิล์มกันรอยหรือจะซื้อสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่กันบ้าง

Liquid Armor Review Specphone 001

ตัว Liquid Armor นั้น เป็นผลิตภัณฑ์จาก Dynaflo ในสหรัฐฯ ซึ่งนำเข้ามาโดยบริษัท Techfolio ในประเทศไทย โดยเริ่มเปิดขายครั้งแรกในงาน Thailand Mobile Expo เมื่อเดือนพฤษภาคมที่่ผ่านมา ซึ่งเท่าที่ผมลองเดินดู ก็พบว่าเป็นหนึ่งบูทในงานที่ได้รับความสนใจมากทีเดียว เนื่องด้วยเป็นสินค้าแปลกใหม่สำหรับวงการสมาร์ทโฟนในบ้านเรา

ก่อนที่จะไปดูตัวผลิตภัณฑ์ มาทำความรู้จักกับคุณสมบัติของน้ำยาเคลือบจอ Liquid Armor กันก่อนครับ

965328 589608111059970 1439510885 o

คุณสมบัติ

ภาพด้านบนเป็นภาพที่ทาง Dynaflo รวบรวมคุณสมบัติของ Liquid Armor เอาไว้ ซึ่งจุดที่น่าสนใจก็เช่น

  • ตัวน้ำยามีอนุภาคระดับนาโน ทำให้สามารถเคลือบผิวหน้าจอได้ดี และแข็งตัวเป็นชั้นเคลือบจอที่บางมาก จนเหมือนไม่มีอะไรบังจอเลย
  • สามารถป้องกันรอยขีดข่วนที่เกิดจากการใช้งานทั่วไปได้ดีกว่าฟิล์มกันรอยปกติ เช่นรอยที่อาจจะเกิดจากการขีดข่วนแบบบังเอิญ อย่างพวกเหรียญ พวงกุญแจ
  • กันน้ำ กันรังสี UV ได้
  • ลดคราบรอยนิ้วมือที่เกาะติดบนจอระหว่างใช้งาน หรือถึงจะมีคราบ ก็สามารถเช็ดออกได้ง่าย
  • ป้องกันการสะสมของแบคทีเรียบนหน้าจอ
  • ไม่ทำให้สีสันและความสว่างดรอปลง
  • สเปรย์ขวดเดียว สามารถฉีดใช้งานได้กว่า 25 ครั้ง
  • สามารถใช้งานได้กับหน้าจอทุกขนาด ตั้งแต่สมาร์ทโฟนไปถึงจอทีวี (ถ้ามีแรงทำ)
  • แถมผ้าไมโครไฟเบอร์ชนิดพิเศษให้
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ใช้งานกับอะไรได้บ้าง

สามารถใช้งาน Liquid Armor ได้กับพื้นผิวหลากหลายชนิด แต่ที่จะได้ผลดีที่สุดคือบนกระจก ดังนั้นรับรองว่าสามารถใช้ได้กับสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตทุกรุ่นแน่นอน รวมไปถึงบรรดาจอแสดงผลของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น จอคอมพิวเตอร์, กล้องถ่ายรูป, ทีวี, นาฬิกา, เครื่องเกมพกพา เป็นต้น ส่วนบนพลาสติกก็สามารถใช้งานได้ แต่จะให้ผลไม่ดีเท่ากับบนกระจก

คราวนี้เรามาทำความรู้จักกับตัว Liquid Armor กันดีกว่าครับ

Untitled 11

ทาง Techfolio ในไทย ได้นำผลิตภัณฑ์น้ำยาเคลือบจอ Liquid Armor มาจำหน่ายด้วยกัน 3 ขนาด ได้แก่

ชุดเล็กสุด ราคา 490 บาท (หน้าแพ็กเกจที่ขายในปัจจุบัน จะเป็นแบบในรูปบนสุดของบทความ) ภายในจะมีผ้าชุบน้ำยามาให้พร้อมใช้งานทันที หนึ่งครั้งสามารถใช้งานกับสมาร์ทโฟนได้มากสุด 3 เครื่อง หรือจนกว่าผ้าชุบน้ำยาจะแห้ง

ชุดกลาง ราคา 990 บาท ภายในจะมีขวดน้ำยา ซึ่งฉีดน้ำยาออกมาได้ประมาณ 20-25 ครั้ง สามารถเคลือบสมาร์ทโฟนได้ราวๆ 20 เครื่อง แล้วแต่การฉีดของผู้ใช้ ว่าจะฉีดน้ำยาออกมาครั้งหนึ่งมากหรือน้อยขนาดไหน

ชุดใหญ่ ราคา 1,590 บาท ภายในก็จะมีอุปกรณ์เช่นเดียวกับชุดกลางครับ แต่มีน้ำยาสเปรย์มากกว่าชุดกลาง คือสามารถฉีีดใช้งานได้ประมาณ 50 ครั้ง เหมาะสำหรับให้ร้านค้าสั่งไปใช้บริการเคลือบน้ำยาหน้าร้าน

ซึ่งทั้งสามชุด จะแถมผ้าไมโครไฟเบอร์แบบพิเศษมาให้ แน่นอนว่าในชุดเล็ก ผ้าที่แถมก็จะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย ด้านของราคา ถ้าหากมองว่าสูงเกินไป จะหาเพื่อนมาหารใช้งานร่วมกันก็ได้ครับ อย่างชุดเล็กสุด สามารถใช้เคลือบมือถือได้มากสุด 3 เครื่อง แต่ให้ชัวร์สุดก็คือใช้สองเครื่อง ถ้าไปหาเพื่อนมาได้อีกซักคน เท่านี้ก็ตกเหลือจ่ายคนละ 245 บาทเท่านั้น หรือชุดกลาง ถ้าใช้กัน 5 คน ก็เท่ากับเหลือจ่ายกันคนละ 198 บาท เผลอๆ ใช้งานได้มากกว่าคนละ 1 รอบด้วยซ้ำไป

Liquid Armor Review Specphone 004Liquid Armor Review Specphone 003

หน้าตาของขวดน้ำยา Liquid Armor จากแพ็คเกจขนาดกลาง หน้าตาก็คือขวดสเปรย์ทั่วไปนี่ล่ะครับ การเก็บรักษานั้นสามารถเก็บในอุณหภูมิห้องก็เพียงพอแล้ว หรือถ้าใครจะเก็บในตู้เย็นก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน (แต่อย่าเอาไปไว้ในช่องแช่แข็งนะ)

Liquid Armor Review Specphone 005

Liquid Armor Review Specphone 006Liquid Armor Review Specphone 007

อุปกรณ์ภายในของเซ็ต Liquid Armor ชุดกลางก็จะมีขวดสเปรย์น้ำยา Liquid Armor, ผ้าไมโครไฟเบอร์และเอกสารคู่มือการใช้งานที่เป็นภาษาอังกฤษ (แต่ในล็อตหลังๆ จะเป็นภาษาไทยแล้ว)

ซึ่งของที่น่าสนใจรองลงมาจากน้ำยาก็คือตัวของผ้าไมโครไฟเบอร์นี่ล่ะครับ เพราะผ้าจะมีด้วยกันสองด้าน ด้านสีน้ำตาลอ่อนจะใช้สำหรับเช็ดฝุ่น เช็ดละอองสิ่งสกปรกบนหน้าจอ ส่วนด้านสีน้ำตาลเข้มจะใช้สำหรับเช็ดรอยคราบเปื้อน เช่นคราบรอยนิ้วมือ คราบมันจากการใช้งานโทรศัพท์ ซึ่งจากที่ลองใช้งานดู? พบว่าสามารถเช็ดคราบหน้าจอได้ดีมากทีเดียว โดยเฉพาะด้านสีน้ำตาลเข้มที่สามารถเช็ดรอยนิ้วมือและคราบมันได้หมดจดจริงๆ ส่วนการทำความสะอาดผ้า ก็สามารถนำผ้าไปซักได้ตามปกติ ห้ามใช้สารฟอกขาว ห้ามรีด ทางที่ดีควรจะซักด้วยมือในน้ำเปล่าจะดีที่สุด

Liquid Armor Review Specphone 009Liquid Armor Review Specphone 010
Liquid Armor Review Specphone 011Liquid Armor Review Specphone 014
Liquid Armor Review Specphone 012Liquid Armor Review Specphone 013

มาดูแพ็กเกจขนาดเล็กกันบ้าง สำหรับ Liquid Armor แบบซองนี้ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากทดลองใช้งานดู เพราะง่ายต่อการใช้งานมากกว่าแบบสเปรย์มาก เนื่องจากภายในแพ็กเล็กจะให้มาเป็นผ้าชุบน้ำยามาในตัว สามารถฉีกซองใช้งานได้ทันที ไม่ต้องมานั่งสเปรย์อยู่เหมือนแพ็กกลางและแพ็กใหญ่ โดยภายในจะของมาให้ 3 ชิ้นด้วยกัน ได้แก่ผ้าชุบน้ำยา Liquid Armor, ผ้าไมโครไฟเบอร์ผืนเล็ก และเอกสารคู่มือที่เป็นภาษาไทย

เรื่องผ้าไมโครไฟเบอร์ผืนเล็กนั้น ก็มีจุดที่แตกต่างจากผืนใหญ่แค่เรื่องเดียวคือเรื่องขนาดที่แตกต่างกันพอสมควร ส่วนด้านเนื้อผ้า คุณภาพของเส้นใย เรียกได้ว่าไม่แตกต่างจากผืนใหญ่เลย

Liquid Armor Review Specphone 008

มาถึงขั้นตอนการใช้งาน Liquid Armor แล้วครับ วิธีการใช้งานก็มีดังนี้

ทำความสะอาดจอ

ก่อนจะเคลือบน้ำยา Liquid Armor ให้จัดการดึงฟิล์มที่ใช้งานอยู่ออกก่อน พร้อมทั้งทำความสะอาด เช็ดฝุ่น เช็ดคราบเปื้อนออกให้สะอาดที่สุด

ฉีดน้ำยาลงบนผ้า

เริ่มต้นด้วยการฉีดน้ำยาลงบนผ้าไมโครไฟเบอร์ด้านสีน้ำตาลอ่อนก่อนหนึ่งครั้ง ส่วนถ้าใครใช้งาน Liquid Armor แพ็กเกจเล็กก็ไม่จำเป็นต้องทำขั้นตอนนี้เลย เพราะในแพ็กเกจจะมีผ้าชุบน้ำยามาให้แล้ว

เช็ดจอ

หลังจากพรมน้ำยาลงบนผ้าแล้ว ให้เอาผ้าผืนนั้น (หรือผ้าชุบน้ำยาจากแพ็กเกจเล็ก) มาเช็ดลงบนจอ โดยให้ค่อยๆ เช็ดไปทางเดียวกันตลอด เช่นเช็ดจากด้านบนลงล่าง สังเกตว่าเมื่อนำผ้าชุบน้ำยาเช็ดลงไปบนจอแล้ว จะมีคราบขาวเหมือนจอเปียกน้ำติดอยู่บนจอตามแนวที่เราเช็ด ซึ่งคราบขาวเหล่านั้นก็คือตัวน้ำยา Liquid Armor นั่นเอง ให้เช็ดไปเรื่อยๆ จนกว่าจะทั่วทั้งจอ

ตั้งทิ้งไว้ก่อน

หลังจากเคลือบน้ำยาไปทั่วจอแล้ว ให้วางเครื่องทิ้งไว้ โดยไม่สัมผัสจอเลย เพื่อปล่อยให้น้ำยาออกฤทธิ์เคลือบผิวจอก่อน ตามระยะเวลาดังต่อไปนี้

  • ตั้งทิ้งไว้ 10-15 นาที (บังคับ) โดยหลังจากผ่านไปแล้ว 15 นาที ก็สามารถใช้งานเครื่องได้แล้ว
  • 8 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาที่ทางผู้ผลิตแนะนำให้ตั้งเครื่องทิ้งไว้ น้ำยาถึงจะให้ผลได้ดีในระดับที่มีการทดสอบมาแล้ว
  • 24 ชั่วโมง เป็นระยะเวลาที่ดีที่สุดสำหรับการปล่อยให้น้ำยาแข็งตัวเพื่อเคลือบผิวจอ

ถ้าเป็นไปได้ แนะนำให้ตั้งเครื่องหลังเคลือบน้ำยาทิ้งไว้ซัก 1 วันครับ เพื่อให้น้ำยาสามารถเคลือบจอได้ดีที่สุด โดยหลังจากตั้งทิ้งไว้ได้ตามระยะเวลาที่ต้องการแล้ว ก็ให้ใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดคราบขาวที่จอออกได้เลย เพียงเท่านี้ก็จะสามารถใช้งาน Liquid Armor บนจอสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตเราได้แล้ว ส่วนถ้าใครเปิดสมาร์ทโฟน/แท็บเล็ตทิ้งไว้แล้วกลัวแบตหมดระหว่างตั้งเครื่องทิ้งไว้ ก็สามารถเสียบสายชาร์จได้ตามปกติ หรือถ้าพ้นช่วง 15 นาทีแรกไปแล้ว จะยกขึ้นมาโทรศัพท์ก็ได้ แต่พยายามให้มือหรือหน้าไปสัมผัสจอให้น้อยที่สุด เพื่อปล่อยให้น้ำยามันทำงานได้เต็มที่

ส่วนใครที่อยากเห็นขั้นตอนการทำแบบเป็นวิดีโอ สามารถดูได้จากคลิปของ Dynaflo เอง ด้านล่างนี้ครับ

ทดสอบการใช้งาน

Liquid Armor Review Specphone 016

Liquid Armor Review Specphone 017

Liquid Armor Review Specphone 018Liquid Armor Review Specphone 019

ส่วนตัวผมลองเคลือบน้ำยา Liquid Armor บน iPad mini ครับ โดยปล่อยให้น้ำยาเคลือบทิ้งไว้ 1 วันแล้วค่อยเช็ดออก ผลที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือสีสันและความสว่างที่ดีขึ้นกว่าตอนติดฟิล์ม เพราะไม่มีอะไรบดบังจอ

ด้านการป้องกันรอยขีดข่วน ในจุดนี้ทางทีมงานของ Techfolio ให้ข้อมูลแบบตรงๆ เลยว่า Liquid Armor สามารถปกป้องหน้าจอได้ในระดับหนึ่ง อย่างพวกร่องรอยที่อาจมาจากความบังเอิญ เช่น เวลาเก็บมือถือลงในกระเป๋าแล้วจอไปขูดกับเหรียญหรือลูกกุญแจ แต่ถ้ารอยที่เกิดจากความตั้งใจ หรือถูกขูดแรงๆ อันนี้ตัว Liquid Armor ก็คงป้องกันให้ไม่ไหวเหมือนกัน ส่วนวัตถุอีกประเภทที่ Liquid Armor ไม่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ก็คือเม็ดทราย ก้อนกรวด ดังนั้นเวลาใช้งาน เวลาเก็บเครื่องก็ต้องระวังซักเล็กน้อย โดยเฉพาะคนที่ใส่เคสแบบมีฝาพับปิดจอ ที่ฝาส่วนสัมผัสกับจอเป็นผ้า ซึ่งอาจจะมีเม็ดทรายเข้าไปฝังอยู่ในผ้า เพราะเม็ดทรายเหล่านั้นอาจจะไปขูดกับจอที่เคลือบ Liquid Armor ไว้ก็เป็นได้ นับว่าเป็นข้อพึงระวังอย่างหนึ่ง

ซึ่งในภาพด้านบน ผมลองเอาเหรียญมาถูๆ บนจอดู ก็พบว่าไม่มีรอยอะไรเกิดขึ้นเลย จะมีก็แต่พวกคราบมันเล็กๆ น้อย ซึ่งสามารถใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์ด้านสีน้ำตาลเข้มเช็ดออกได้สบายๆ ภาพซ้ายคือภาพก่อนเช็ด ส่วนภาพขวาคือหลังจากเช็ดจอด้วยผ้าไมโครไฟเบอร์ที่แถมมาในเซ็ตแล้วครับ

Liquid Armor Review Specphone 020Liquid Armor Review Specphone 021
Liquid Armor Review Specphone 022Liquid Armor Review Specphone 023

ต่อมาลองเอาน้ำหยดลงบนจอดูบ้าง เพราะทางทีมงานบอกว่า ถ้าเคลือบจอด้วย Liquid Armor แล้ว น้ำจะไม่เกาะบนจอ หรือมีเกาะน้อยมาก น้ำจะรวมกันเป็นหยด สามารถกลิ้งบนจอได้คล้ายๆ หยดน้ำบนใบบัวเลยทีเดียว ซึ่งจากที่ลองทำดู ก็พบว่ามีหยดน้ำติดบนจอน้อยกว่าจอที่ติดฟิล์มกันรอยตามปกติจริงครับ

อย่างในภาพเซ็ตด้านบน แท็บเล็ตเครื่องที่ขอบจอหนากว่า เป็นแท็บเล็ตเครื่องที่ติดฟิล์มกันรอยตามปกติ ส่วนเครื่องที่ขอบจอน้อยกว่าคือ iPad mini ที่เคลือบน้ำยา Liquid Armor ไว้ จะเห็นว่าลักษณะของหยดน้ำมีความแตกต่างกัน คือบน iPad mini หยดน้ำจะมีลักษณะกลมกว่า สามารถกลิ้งบนจอได้คล้ายหยดน้ำบนใบบัวจริงๆ เมื่อเทน้ำออกจากจอก็เหลือหยดน้ำค้างอยู่เพียงเล็กน้อย (ถ้าเคลือบดีกว่านี้ จะแทบไม่เหลือหยดน้ำบนจอเลย)

 

คำถามที่น่าสนใจ

ตัวผมเองมีโอกาสได้สอบถามกับทางทีมงาน Techfolio เกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ดูครับ เลยขอนำคำถาม คำตอบในประเด็นที่น่าสนใจมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน

Q: หลังเคลือบ Liquid Armor ไปแล้ว ตัวน้ำยาสามารถใช้งานได้นานเท่าไร ?

A: ในกรณีที่ดีที่สุด สามารถใช้งานได้นานถึง 6 เดือน โดยที่ไม่ต้องเคลือบใหม่ แต่ถ้าเราเป็นคนที่ใช้งานสมาร์ทโฟนหรืออุปกรณ์ที่เคลือบน้ำยาไว้บ่อยๆ แนะนำว่าควรเคลือบใหม่ทุกๆ 3 เดือน

Q: ถ้าหน้าจอมีรอยขนแมวอยู่แล้ว สามารถใช้งานได้หรือไม่ ?

A: สามารถเคลือบน้ำยา Liquid Armor ได้ โดยนอกเหนือจากจะช่วยป้องกันกระจกจอแล้ว ตัวน้ำยายังสามารถซึมเข้าไปอุดช่องที่เป็นรอยขนแมวได้ด้วย (แต่ต้องเป็นรอยบางๆ นะ) โดยตัวน้ำยาจะค่อยๆ เคลือบทับรอยไปเรื่อยๆ รอยอาจจะไม่หายไป แต่ร่องจะตื้นขึ้น ช่วยให้ใช้งานได้ลื่นมือขึ้นกว่าเก่า

Q: ยิ่งเคลือบทับหลายๆ ชั้น จะยิ่งช่วยให้ปกป้องหน้าจอได้ดีขึ้นหรือเปล่า ?

A: ไม่ช่วยเท่าไรครับ แนะนำว่าให้เก็บน้ำยาไปไว้เคลือบทับช่วงที่ผ่านไปแล้ว 3 เดือนหลังเคลือบครั้งแรกจะดีกว่า

Q: ถ้าต้องการจะเคลือบ Liquid Armor ทับลงไปบนฟิล์มกันรอยที่ติดอยู่ในปัจจุบัน สามารถทำได้หรือไม่ จะช่วยให้ป้องกันได้ดีขึ้นไปอีกหรือเปล่า? ?

A: สามารถเคลือบได้ครับ แต่ก็ไม่ได้ช่วยอะไร เพราะหน้าจอเองก็มีฟิล์มกันรอยเอาไว้อยู่แล้ว

Q: สามารถหาซื้อ Liquid Armor ได้ที่ไหน ?

A: สำหรับผู้ที่สนใจ สามารถหาซื้อชุดน้ำยา Liquid Armor ได้จากหน้าร้าน Jaymart หรือจะเข้าไปสั่งซื้อจากในเพจ Facebook ของ Techfolio ได้ โดยการค้นหาคำว่าฟิล์มล่องหนในช่องค้นหาของ Facebook (ลิ้งค์เพจ)

Q: ถ้าไม่มั่นใจฝีมือตัวเอง สามารถให้ทางทีมงาน Techfolio ทำให้ได้หรือเปล่า ?

A: ได้ครับ โดยให้ติดต่อไปทาง Techfolio ที่เบอร์?089-5324744 เพื่อรับคำปรึกษา หรือนัดหมายกับทางทีมงานได้เลย

Q: ที่ผ่านมา มีกระแสตอบรับเป็นอย่างไร มีปัญหาอะไรหรือไม่ ?

A: ส่วนใหญ่ลูกค้ามีกระแสตอบรับมาค่อนข้างดี เรื่องปัญหา หลักๆ ก็จะเป็นเรื่องขวดสเปรย์หัวฉีดตัน ซึ่งก็สามารถติดต่อทาง Techfolio เพื่อขอเปลี่ยนผลิตภัณฑ์ได้

Q: ในปัจจุบัน ฟิล์มกันรอยเองก็มีบางรุ่นที่มีคุณสมบัติใกล้เคียงหรือดีกว่า Liquid Armor เช่น ไม่ทำให้สีเพี้ยน/ซีดลง สัมผัสหน้าจอได้ลื่น แล้วในจุดนี้ Techfolio จะเอาจุดเด่นอะไรไปแข่งกับฟิล์มประเภทดังกล่าว ?

A: ถ้าในเรื่องของการใช้งานทั่วไป ต้องยอมรับว่า Liquid Armor สามารถใช้งานได้ในระดับหนึ่งเท่านั้น แถมบางจุดฟิล์มกันรอยยังทำได้ดีกว่าด้วย แต่ฟิล์มกันรอยจะเสียเปรียบตรงที่ผู้ใช้จำเป็นจะต้องติดฟิล์มให้ตรงกับรุ่นของตนเอง จึงจะสามารถใช้งานได้ดี และได้ฟิล์มตามประเภทที่ผู้ใช้ต้องการ แต่ Liquid Armor จะไม่มีข้อจำกัดตรงจุดนี้ สามารถใช้งานได้กับทุกเครื่อง แต่ถ้ากับกลุ่มของเครื่องยอดนิยมด้วยกัน Liquid Armor ก็จะเป็นอีกหนึ่งทางเลือก แล้วแต่ว่าทางผู้ใช้งานจะเลือกใช้ตัวไหน

Q: ในอนาคต Techfolio จะรับผลิตภัณฑ์ใหม่เข้ามาจำหน่ายเพิ่มเติมหรือไม่ ?

A: ไม่แน่ อาจจะมีกระจกนิรภัยสำหรับติดหน้าจอสมาร์ทโฟนเข้ามาขายในภายหลังครับ

Liquid Armor Review Specphone 002

ความเห็นส่วนตัว

Liquid Armor มีข้อดีที่เห็นได้ชัดเลยก็คือสามารถใช้งานได้กับสมาร์ทโฟนทุกเครื่อง แถมยังสามารถทำได้เองง่ายๆ ต่างจากฟิล์มที่ต้องหาให้ตรงรุ่น หรือไม่ก็ให้ร้านตัดเข้ารูปเครื่องเอา จะติดเองก็ต้องระวังฟองอากาศ รวมไปถึงการติดที่อาจจะเบี้ยว ทำให้ต้องใช้เวลาในการติดนาน ส่วนเรื่องการปกป้องจอ ก็สามารถทำได้ในระดับหนึ่งครับ อาจจะทำได้ไม่ถึงขั้นฟิล์มกันรอย เพราะ Liquid Armor เป็นเพียงแค่ชั้นน้ำยาป้องกันกระจกอยู่บางๆ ดังนั้นการใช้งานหรือพกพาเครื่องก็ต้องระวังไม่ให้ไปขูดกับวัตถุแบบแรงๆ ส่วนถ้าในด้านของร่องรอยทั่วไป ก็สามารถทำได้ดีพอสมควร แต่ในประเด็นนี้ ก็คงต้องใช้เวลาในการพิสูจน์นานพอสมควร อย่างต่ำก็ 3 เดือนเป็นต้นไปครับ ถึงจะประเมินประสิทธิภาพของ Liquid Armor ได้ตรงตามความเป็นจริงที่สุด

และอีกอย่างที่ผมประทับใจก็คือ ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่แถมมาให้ในแพ็กเกจครับ ใช้ดีจริงๆ นะ ^^

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก