แนะนำ 5 รุ่นมือถือที่เหมาะสำหรับเล่นเกม Pokemon Go ราคาเริ่มต้น 5,990 บาท

ถ้าพูดถึงเกมที่ฮิตที่สุด ได้รับความนิยมและมีกระแสแรงที่สุดในตอนนี้ก็คงหนีไม่พ้นเกม Pokemon Go เกมที่จะทำให้เราจับโปเกมอนในชีวิตจริงได้ โดยเกม Pokemon Go ก็ได้เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 6 กรกฎาคมที่ผ่านมา แต่เปิดให้บริการเพียง 3 ประเทศก่อนเท่านั้น ได้แก่ ออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และสหรัฐอเมริกา ส่วนประเทศอื่น ๆ ก็กำลังทยอยได้เล่นกันในเร็ว ๆ นี้

ทีนี้มันดันมีปัญหาอยู่ที่สเปคมือถือที่เล่นเกม Pokemon Go ได้นี่แหละครับ เพราะถ้าดูจากหน้า Supported Device ที่หน้าเว็บไซต์ Pokemon Go เองก็จะพบว่าไม่ใช่มือถือทุกรุ่นที่จะเล่นเกม Pokemon Go ได้ เนื่องจากตัวเกมที่กราฟฟิคที่สวยงามในระดับหนึ่ง แล้วก็ต้องใช้การเชื่อมต่อความเร็วสูง + GPS ในการเล่นด้วย แถมยังไม่รองรับมือถือชิปเซ็ต Intel อีกต่างหาก

ถ้าใครอยากเช็คว่ามือถือตัวเองรองรับเกม Pokemon Go หรือไม่ ให้เข้าไปดูที่ลิ้งนี้ได้เลย

https://specphone.com/web/pokemon-go-supported-device/179218

วันนี้แอดมินจาก็เลยจะมาแนะนำโทรศัพท์มือถือจำนวน 5 รุ่น ที่เหมาะจะเอาไว้เล่นเกม Pokemon Go มาฝากกันครับ เผื่อใครกำลังอยากเล่นเกม Pokemon Go แล้วก็อยากเปลี่ยนมือถือใหม่พอดี ลองเก็บมือถือเหล่านี้ไว้เป็นทางเลือกได้ เพราะไม่ใช่ว่ามือถือทุกเครื่องที่เปิดเกม Pokemon Go ได้ จะเหมาะกับการเล่นเกม Pokemon Go และสมาร์ทโฟนที่จะเล่นเกม Pokemon Go ได้ดีนั้น จะต้องมีสเปคประมาณนี้

แบตเตอรี่ต้องอึด (มากกกกกก)

สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ เลยสำหรับเกม Pokemon Go ที่ใช้แทบจะทุกทรัพยากรที่มีในมือถือของเรา ไม่ว่าจะเป็นการเปิดหน้าจอ, ประมวลผลเกม, เปิดกล้อง, เปิด GPS และอินเทอร์เน็ต จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เวลาเราเล่นเกม Pokemon Go แล้วแบตเตอรี่จะไหลเป็นน้ำ เฉลี่ยแล้วอยู่ที่ 2 นาทีต่อแบตเตอรี่ 1% เลยสำหรับมือถือแบตเตอรี่ 3000 mAh

เพราะฉะนั้นมือถือที่เหมาะกับการเล่นเกม Pokemon Go เบื้องต้นก็ควรจะมีแบตเตอรี่ 3000 mAh ขึ้นไปครับ (สำหรับหน้าจอ 5.5 นิ้ว) ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับการจัดการพลังงานในเครื่องด้วยนะ

GPS แม่นยำสุด ๆ

นี่ก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะเป็นเหมือนหัวใจของเกม Pokemon Go เลยก็ว่าได้ ถ้าไม่มี GPS เนี่ยก็ยากที่จะเดินไปจับโปเกมอนให้ตรงแผนที่ครับ เนื่องจากจุดเกิดของ Pokemon มันจะเป็นการสุ่มขึ้นมา บางทีก็ต้องเดินหากันยาว ๆ นี่ยังไม่รวมพวกจุด PokeStop ที่เอาไว้กดปั๊มไอเท็มอีกนะ เพราะฉะนั้นมือถือก็ควรที่จะรองรับ GPS หลาย ๆ แบบ ในเครื่องเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น GPS, A-GPS และ Glonass

รองรับ 4G และ Wifi 5 GHz

การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต อันที่จริงก็ไม่มีอะไรซับซ้อนมากครับ ให้เลือกซื้อมือถือที่รองรับการใช้งาน 4G เพราะมีการเชื่อมต่อข้อมูลที่รวดเร็วกว่า ทำให้การส่งข้อมูลไม่มีการผิดพลาด ยากที่จะเกิดปัญหาจับโปเกมอนได้แล้วเครื่องค้าง (แอดมินเจอไปสองรอบ กำลังจับตัวเด็ด ๆ ซะด้วย) ความเร็วในการเชื่อมต่อที่เหมาะสมก็ควรจะอยู่ที่ 10 Mbps ขึ้นไป ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Wifi บ้าน หรืออินเทอร์เน็ต 4G เดี๋ยวนี้อยู่แล้ว

หน้าจอใหญ่ในระดับหนึ่ง

วิธีการจับโปเกมอนในเกม Pokemon Go ก็คือให้เราปามอนสเตอร์บอลโดยการปัดนิ้วให้โดนตัว Pokemon เพราะฉะนั้นมือถือที่ใช้เล่นจึงควรมีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ในระดับหนึ่ง อย่างน้อยก็ควรมีหน้าจออยู่ที่ 5 นิ้ว หรือใหญ่กว่านั้น จะทำให้เราสามารถปาโปเกบอลได้ง่ายขึ้น แล้วก็เล็งเป้าหมายได้แม่นยำมากขึ้น จะได้ไม่เปลืองบอลด้วยครับ

ส่วนความละเอียดของหน้าจอที่แนะนำก็คือ ความละเอียดหน้าจอที่ระดับ HD ขึ้นไป (1280 x 720 พิกเซล) แต่ถ้าจะใช้หน้าจอความละเอียดมากกว่านั้นก็ได้เช่นกัน แต่ถ้าความละเอียดหน้าจอน้อยกว่า HD อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจว่าจะเล่นได้หรือเปล่านะครับ

สเปคต้องแรงพอตัว

ถึงแม้ว่า Pokemon Go จะไม่ได้มีภาพที่สวยอะไรมากมาย แต่ในแง่ของการประมวลผลนี่ถือว่าสำคัญมาก ๆ ครับ เนื่องจากเกม Pokemon Go เป็นเกมที่ใช้ทรัพยากรมือถือแทบทุกอย่างพร้อม ๆ กัน เพราะฉะนั้นชิปเซ็ตที่เหมาะกับการเล่นเกม Pokemon Go จึงต้องแรง (และประหยัดพลังงาน) พอสมควร

ส่วนตัวแอดมินแนะนำให้เป็นชิปเซ็ต Quad Core ความเร็วสัก 1.4 GHz ขึ้นไป สำหรับมือถือแอนดรอย แต่ถ้าจะเอาชัวร์ ๆ ก็ควรจะเป็นชิปเซ็ต Snapdragon 616 ขึ้นไป หรือถ้าฝั่ง MediaTek ก็น่าจะต้องเป็น MediaTek Helio P10 ขึ้นไปล่ะครับ ได้ทั้งความแรงและความประหยัดไปพร้อม ๆ กันเลย

แนะนำ 5 มือถือที่เหมาะกับการเล่นเกม Pokemon Go

และนี่ก็คือมือถือจำนวน 5 รุ่น ที่แอดมินคิดว่ามันเหมาะกับการเล่นเกม Pokemon Go มาก ๆ แล้วก็พยายามจะเลือกให้มีช่วงราคาที่แตกต่างกันไป เพื่อให้มีตัวเลือกที่หลากหลาย ไล่มาจากราคาถูกสุดที่ 5,990 บาท ไปจนถึงสองหมื่นกว่าบาทโน่นครับ

Lenovo Vibe K5 Plus ราคา 5,990 บาท

เครื่องแรกสุดของเราก็ได้แก่ Lenovo Vibe K5 Plus มือถือรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Lenovo ที่มาพร้อมกับหน้าจอ 5 นิ้ว ความละเอียดระดับ Full HD, CPU Snapdragon 616 ความเร็ว 1.5 GHz, Ram 2 GB กับแบตเตอรี่ความจุ 2,750 mAh ซึ่งมันเพียงพอกับมือถือหน้าจอ 5 นิ้วอยู่แล้ว

สเปค Lenovo Vibe K5 Plus

และจากการที่ทดลองใช้ Lenovo Vibe K5 Plus เล่นเกม Pokemon Go ก็พบว่ามันทำได้ดีทีเดียว ทั้งในการเปิดเกม การจับสัญญาณ GPS รวมถึงการจัดการพลังงานที่อยู่ในระดับประทับใจ คือแบตไม่ได้ไหลฮวบ ๆ ทีเดียวหมด อย่างไรก็ตาม การพก Powerbank ตอนเล่นเกม Pokemon Go ยังเป็นสิ่งจำเป็นเสมอครับ

ASUS Zenfone 2 Laser 6″ ราคา 8,490 บาท

พี่ใหญ่สุด (ในเรื่องขนาดหน้าจอ) ของมือถือตระกูล ASUS Zenfone 2 อย่าง ASUS Zenfone 2 Laser 6″ ZE600KL ที่เปิดราคามาเพียง 8,490 บาท ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีสำหรับการเล่นเกม Pokemon Go ครับ เนื่องจากมีสเปคที่เหมาะกับการเล่น Pokemon Go ทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นจอใหญ่, แบตอึด 3000 mAh, สเปคเป็น Snapdragon 616 ความเร็ว 1.5 GHz และ Ram 3 GB

สเปค ASUS Zenfone 2 Laser 6″

Vivo V3Max ราคา 12,990 บาท

ถัดมารุ่นที่ 3 ก็จะเป็น Vivo V3Max มือถือเรือธงในปี 2016 ของ Vivo ที่ใส่ชิปเซ็ต Snapdragon 652 ตัวแรงในระดับชิปตัวท็อปปีก่อน ๆ และยังใส่แรมมาให้ถึง 4 GB เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน แถมยังใส่แบตเตอรี่มาให้ถึง 3000 mAh รองรับการชาร์จเร็ว (Fast Charge) แบตจะหมดก็พก Powerbank หรือไม่ก็พกอแดปเตอร์ไปชาร์จ เติมไฟแปบเดียวก็พร้อมลุยจับโปเกมอนต่อได้ทันที

Huawei P9 ราคา 16,990 บาท

มือถือแอนดรอยที่ป๊อบที่สุด ด้วยสเปค, กล้องคู่ และที่สำคัญคือราคาเปิดตัวทำออกมาได้น่าประทับใจมาก อย่าง Huawei P9 ก็ดูจะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่อยากได้มือถือแรง ๆ แต่ไม่อยากจ่ายเงินแพงมาก เน้นความคุ้มค่าต่อราคาเป็นหลัก Huawei P9 ตอบโจทย์ทุกอย่างที่ว่ามาครับ

สเปค Huawei P9

Huawei P9 มาพร้อมกับชิปเซ็ตที่แรงที่สุดของค่ายอย่าง HiSilicon Kirin 955, Ram 3 GB รองรับการใช้งาน 4G LTE Cat 6 ชิป Wifi, LTE ของ Huawei ก็ขึ้นชื่อเรื่องความแรงของสัญญาณอยู่แล้ว ส่วนแบตเตอรี่ก็ให้มาที่ 3000 mAh และด้วยการจัดการพลังงานที่ดี อีกทั้งชิปเซ็ต Kirin 955 ก็มีชิปประมวลผลย่อยอยู่ในตัว จึงทำให้ระยะเวลาในการใช้งาน Huawei P9 นั้นทำได้นานกว่ามือถือรุ่นอื่นที่มีสเปคใกล้เคียงกัน

iPhone 6s / iPhone 6s Plus ราคา 26,500 บาท

สำหรับฝั่ง iOS ก็คงหนีไม่พ้น iPhone 6s กับ iPhone 6s Plus นี่แหละครับ จริงอยู่ที่ iPhone 5 ขึ้นไปก็สามารถเล่นเกม Pokemon Go ได้สบาย ๆ อยู่แล้ว แต่ถ้ามองในแง่ของการเล่นเกมเป็นหลัก ยังไงก็ต้อง iPhone 6s เลยครับ เพราะตัวชิปประมวลผล Apple A9 ที่อยู่บน iPhone 6s มีการจัดการพลังงานที่ดีกว่ารุ่นก่อน ๆ อย่างเห็นได้ชัด ใช้งานแบตเตอรี่ได้นานแม้ว่าตัวประจุแบตเตอรี่เองก็ไม่ได้ให้มามากมายอะไร

ส่วนตัวผมคิดว่า iPhone 6s Plus น่าจะเหมาะกับการเล่นเกม Pokemon Go มากที่สุดแล้ว ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 5.5 นิ้ว และแบตเตอรี่ความจุเกือบ ๆ 3,000 mAh ในแง่ของการใช้งานก็น่าจะยาวนานที่สุดเมื่อเทียบกับ iPhone รุ่นอื่น อีกทั้งราคาของ iPhone 6s และ iPhone 6s Plus ตอนนี้ก็มีโปรโมชันส่งเสริมการขายแทบจะทุกเจ้า ไม่ได้แพงเหมือนตอนเปิดตัวใหม่ ๆ

สรุป

นอกจากมือถือทั้ง 5 รุ่นที่แอดมินได้แนะนำไปแล้ว ก็ยังมีมือถืออีกหลายรุ่นที่สามารถเล่นเกม Pokemon Go ได้เหมือนกันครับ รวมถึงมือถือรุ่นใหม่ ๆ ที่จะเปิดตัวในอนาคตอันใกล้นี้ ไม่ว่าจะเป็น ASUS Zenfone 3 Ultra, Samsung Galaxy A9 Pro หรือแม้แต่มือถือที่จ่อคิววางขายในเร็ว ๆ นี้ อย่าง Sony Xperia XA Ultra ก็เป็นตัวเลือกที่ดีในการนำมาใช้เล่นเกม Pokemon Go ได้เช่นกัน