3 วิธีใช้ Incense น้ำหอมเรียกโปเกมอนแบบเทพ ๆ ใช้ยังไง ฉีดตรงไหนคุ้มสุด จับได้มากที่สุด

How-to-use-INCENSE-Pokemon-Go-SpecPhone-00008

หนึ่งในไอเทมที่จำเป็นสำหรับโปเกมอนเทรนเนอร์ในเกม Pokemon Go นอกจากโปเกบอลแล้วก็คงหนีไม่พ้น Incense หรือน้ำหอมเรียกโปเกมอน ที่มีหน้าตาเป็นกระปุก เวลาใช้งานก็จะมีควันสีชมพูออกมารอบตัวเรานั่นแหละครับ โดยเจ้า Incense เพื่อน ๆ สามารถได้รับฟรีเมื่อมีการอัพเลเวลเทรเนอร์ หรือไม่ก็ซื้อผ่าน Shop ในราคาเริ่มต้น 80 Poke Coin (ซื้อเยอะยิ่งถูก)

How-to-use-INCENSE-Pokemon-Go-SpecPhone-00001

Incense หน้าตาแบบนี้

วิธีการใช้งาน Incense ก็คือกดใช้ตอนไหนก็ได้ เมื่อเราทำการฉีด Incense ก็จะมีโปเกมอนในเกม Pokemon Go ออกมาให้จับ แม้ว่าแถวนั้นจะไม่มี Pokemon เกิดสักตัวเลยก็ตาม แล้วก็โปเกมอนที่เกิดจากการฉีด Incense จะไม่อิงอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ หรืออะไรก็ตาม คือมันจะเป็นการสุ่มเกิดทั้งหมดครับ แล้วก็โปเกมอนที่เกิดจากการฉีด Incense คนอื่นจะไม่เห็นด้วยนะ

How-to-use-INCENSE-Pokemon-Go-SpecPhone-00007

ราคาของ Incense ก็แพงเอาเรื่องอยู่ เท่ากับ Lucky Egg นี่แหละ

ในเมื่อ Incense มันมีน้อย หรือถ้าอยากมีเยอะ ๆ ก็ต้องใช้เงินซื้อ เพราะฉะนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำเทคนิคการใช้ Incense ในเกม Pokemon Go ยังไง ให้ได้ผลคุ้มค่าที่สุด มี Pokemon ออกมาให้จับเยอะที่สุด

 

1. ไม่ควรยืนเฉย ๆ แล้วฉีด Incense

อันนี้มีคนลองแกะ Code ในเกม Pokemon Go ออกมาแล้วนะครับ พบว่าการฉีด Incense แล้วยืนอยู่กับที่เฉย ๆ จะมีอัตราการเกิดของ Pokemon ที่ 5 นาทีต่อ 1 ตัว แถมยังนับเวลาเมื่อเราอยู่ในหน้าปกติอีกต่างหาก คือนับเวลาหลังจากเราจับโปเกมอน เช่น ฉีด Incense ตอน 15.00 น. เจอโปเกมอนตัวแรก กว่าจะจับได้ 15.02 น. โปเกมอนตัวต่อไปจะเกิดตอน 15.07 น.

How-to-use-INCENSE-Pokemon-Go-SpecPhone-00002

ยืนเฉย ๆ แบบนี้ไม่คุ้มแน่นอน

เพราะฉะนั้น การฉีด Incense แล้วยืนอยู่กับที่ เป็นเวลา 30 นาที จะเรียกโปเกมอนได้ประมาณ 5 ตัวเท่านั้น น้อยครั้งที่จะเรียกได้ 6 ตัว ซึ่งเป็นอะไรที่เสียของมาก ต่อให้แถวบ้านไม่มี Pokemon เลยก็ไม่ควรฉีด Incense แล้วยืนเฉย ๆ ครับ

 

2. ฉีด Incense แล้วเดิน + ปั่นจักรยาน

สืบเนื่องจากการแกะ Code ในเกมนั่นแหละ คนที่แกะ Code พบว่าการฉีด Incense พร้อมการเคลื่อนที่ นอกจากเราจะเจอ Pokemon ทุก ๆ 5 นาทีแล้ว ในทุก ๆ การเดิน 200 เมตร เราจะพบ Pokemon 1 ตัวด้วย ต่อให้พื้นที่ตรงนั้นจะไม่เคยมี Pokemon เกิดเลยก็ตาม

โดยเฉลี่ยแล้ว การเดิน + ฉีด Incense ในพื้นที่ที่ไม่มีโปเกมอน จะมีโปเกมอนออกมาให้จับต่อการฉีด 1 ครั้ง (30 นาที) ประมาณ 10 – 12 ตัว แต่ถ้าเป็นการปั่นจักรยาน หรือซ้อนมอเตอร์ไซค์ที่ความเร็วประมาณ 20 – 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ก็จะได้ประมาณ 12 – 15 ตัวได้ครับ

 

3. ฉีด Incense แล้วนั่งรถ

วิธีการสุดท้ายนี่โหดสุดครับ แอดมินทดสอบด้วยการฉีด Incense แล้วขึ้นรถประจำทางที่วิ่งบนทางด่วน ความเร็วเฉลี่ยอยู่ที่ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พบว่าอัตราการเกิด Pokemon สูงมากกว่าเดิมพอสมควรเลย แม้ว่าพื้นที่บนทางด่วนจะไม่มี Pokemon เกิดเลยสักตัวก็ตาม

How-to-use-INCENSE-Pokemon-Go-SpecPhone-00006

โปรดดูน้ำหอม ฟุ้งมาก Pokemon ก็เกิดถี่มากเช่นกัน

เท่าที่ลองทดสอบฉีด Incense แล้วนั่งรถที่ความเร็วเฉลี่ย 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จะพบโปเกมอนประมาณ 20 ตัวขึ้นไปเลยทีเดียว เรียกว่าออกมาแทบจะทุกนาทีเลยล่ะ แต่ข้อสังเกตคือจับยากกวาปกติครับ โผล่มาเยอะจริง แต่ก็ใช้ Poke Ball จับยากกว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด แนะนำให้ใช้พวก Great Ball กับ Ultra Ball ถ้าจะใช้ทริคนี้นะ

*ไม่แนะนำให้ขับรถแล้วจับโปเกมอนนะครับ จริง ๆ ขับรถไม่ควรทำอย่างอื่น นอกจากตั้งใจขับรถนะ*

 

แถมให้อีกข้อ 

ไม่ควรฉีด Incense บริเวณที่มี PokeStop เปิด Lure Module หรือเสาที่มีต้นซากุระโปรยปรายเยอะ ๆ จริงอยู่ที่การฉีด Incense นั้นแยกกันกับ Lure Module แต่สุดท้ายแล้วมันจะไปวนที่ข้อ 1 คือเรายืนอยู่กับที่ เพราะฉะนั้น Pokemon จะเกิดแค่ 5 นาทีครั้งเท่านั้นเอง ส่วนตัวผมมองว่าถ้ามีการเปิด Module หลายต้นพร้อม ๆ กันอยู่แล้ว

How-to-use-INCENSE-Pokemon-Go-SpecPhone-00003

แค่นี้ก็จับไม่ทันแล้ว จะฉีด Incense ให้เปลืองทำไมล่ะ

เรายืนฟาร์มเพื่อจับ Pokemon จาก Lure Module จะดีกว่า แอดมินเคยไปยืนที่สาทร เปิดโมดูล 3 เสานี่ก็จับไม่ทันแล้วนะครับ ยิ่งพื้นที่ ๆ คนเล่นเยอะ ๆ เนี่ย Pokemon เกิดมาให้จับนับเป็นนาทีต่อนาทีเลย แล้วเราจะฉีด Incense ให้เปลืองทำไมล่ะ

 

สรุป

เอาแบบง่าย ๆ เลย ระหว่าง Lure Module กับ Incense ก็ไม่มีอะไรซับซ้อน ฉีด Incense ต้องมีการเคลื่อนที่ ยิ่งเคลื่อนที่ได้เร็ว ก็ยิ่งมี Pokemon ออกมาให้จับเยอะ (แล้วก็จับยากด้วย) ส่วน Lure Module เอาไว้ยืนฟาร์มอยู่กับที่ 2 สิ่งนี้ ใช้คู่กันได้ แต่ไม่แนะนำครับ เพราะเราจะไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกันนั่นเอง

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

บันทึก