Hands-on พรีวิว BenQ F5 มือถือรองรับ 4G LTE, Ram 2GB ราคาถูกที่สุดในประเทศไทย

เมื่อวานนี้ (27 สิงหาคม 2557) ทาง Specphone ได้รับเกียรติจาก BenQ ให้ไปร่วมงานเปิดตัวสุดเอ็กคลูซีฟของสมาร์ทโฟน BenQ รุ่น F5 จัดขึ้นที่โรงแรม?Radisson Blu Plaza สุขุมวิท 27 โดยบรรยากาศภายในงานค่อนข้างเป็นกันเองมากๆ และก่อนที่เราจะทำการ Hands-on + พรีวิวเจ้า BenQ F5 ให้ได้รับชมกัน ก็ขอพูดถึงที่มาของการกลับมาทำมือถืออีกครั้งของ BenQ ก่อนครับ

อันที่จริง BenQ ไม่ได้เริ่มทำโทรศัพท์มือถือเป็นครั้งแรกในรุ่น BenQ F5 นะครับ แต่ก่อนหน้านี้ BenQ ทำมือถือรุ่นอื่นมาบ้าง แต่จะเน้นไปที่การผลิตเครื่องให้กับแบรนด์อื่น (ทำเป็น OEM นั่นเอง) และก็ได้มีการพัฒนาเทคโนโลยีมือถือถือของตัวเองมาเรื่อยๆ ไล่มาตั้งแต่ยุค 2G > 3G จนมาถึง 4G LTE นอกจากนี้ BenQ เองยังมีควมเชี่ยวชาญในเทคโนโลยีสาขาอื่นๆ เช่น การผลิตหน้าจอ, อุปกรณ์ทางการแพทย์, การวางระบบ เป็นต้น ทำให้ทาง BenQ มั่นใจว่ามือถือของ BenQ จะให้ประสบการณ์ใช้งานที่ดีแก่ผู้ใช้ รวมถึงราคาที่เอื้อมถึงได้ด้วย

มาถึงการ Hands-on + พรีวิวเบาๆ BenQ F5 กันบ้าง ต้องบอกก่อนว่าครั้งแรกตอนที่ได้จดหมายเชิญร่วมงานเปิดตัว BenQ F5 เนี่ย ความคิดแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวผมคือ “มันจะเวิร์คหรอ?” กับการเปิดตัวมือถือใหม่ กับแบรนด์ที่ไม่คุ้นหู (ในประเทศไทย) ในช่วงเวลาที่มือถือยี่ห้ออื่น เปิดตัวกันถี่เป็นพิเศษ อย่างก่อนหน้านี้ก็จะเป็น Vivo Xshot, Nokia Lumia 530, HTC One E8, Huawei หลายรุ่น ฯลฯ แต่เมื่อได้ลองสัมผัสเจ้า BenQ F5 ก็ยอมรับว่าความคิดผมเปลี่ยนไปเล็กน้อย เพราะหน้าตาของ BenQ F5 ก็ไม่ได้จัดว่าขี้เหร่ แถมยังมีน้ำหนักเบา ขนาดกำลังพกพา สเปคก็กำลังดี เหมาะกับลูกค้าหลายกลุ่ม ที่สำคัญคือรองรับการเชื่อมต่อ 4G LTE ในประเทศไทยนี่แหละครับ ทีเด็ดเลย

สเปค BenQ F5

• CPU Qualcomm MSM8926 Snapdragon 400 Quad-Core ความเร็วสูงสุด 1.2 GHz
• Ram 2 GB
• หน่วยความจำภายใน 16 GB เพิ่ม MicroSD ได้สูงสุด 64 GB
• หน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้วความละเอียด HD พร้อมโหมด Low Blue Light (ตัดแสงสีฟ้า)
• กล้องหลังความละเอียด 13 ล้านพิกเซล Sony BSI และแฟลช LED
• กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล
• รองรับการใช้งาน 4G LTE, 3G ทุกเครือข่าย
• แบตเตอรี่ความจุ 2500 mAh
• BenQ F5 ราคา 8,490 บาท
• สเปค BenQ F5 แบบเต็มๆ

ผมเชื่อว่าหลายคนที่อ่านมาถึงตรงนี้คงจะอยากทราบราคาของ BenQ F5 กันแล้วใช่ไหมครับ ว่าสเปคระดับนี้ จะขายที่ราคาเท่าไหร่ คำตอบคือ BenQ F5 จะวางขายที่ราคาเพียง 8,490 บาทเท่านั้น ราคาอาจจะไม่ได้อยู่ในช่วงที่ตัดสินใจซื้อได้ง่ายๆ แต่ถ้ามีงบที่จะซื้อมือถือซัก 6,000 บาท ผมมองว่ามันก็คุ้มค่าที่จะเพิ่มเงินมาจับเจ้า BenQ F5 ครับ เหตุผลก็ตามชาร์ทที่ทาง BenQ ได้นำเสนอเลย

จุดเด่นของ BenQ F5 ที่ทำให้มันเป็นมือถือที่น่าสนใจ

• รองรับการใช้งาน 4G LTE
• ตัวเครื่องมีน้ำหนักเบา
• หน้าจอทำออกมาได้ดี, จอสวย
• กล้องหลังใช้ของ Sony ความละเอียด 13 ล้านพิกเซล ถ่ายรูปในที่แสงน้อยได้ดี ถ้าเปิดโหมดแสงน้อยจะให้ภาพที่สว่างไม่แพ้ Zenfone 5 เลย
• กล้องหน้าออกแบบมาให้รองรับการ Selfie ด้วยเสียง
• แบตเตอรี่ให้มาที่ 2500 mAh
• มาพร้อมกับ Android 4.4 Kitkat

และก็เข้าสู่การ Hands-on + พรีวิวเบาๆ BenQ F5 จริงๆ ซะที ของเริ่มจากด้านหน้าของ BenQ F5 จะดูค่อนข้างเรียบๆ ประกอบไปด้วยหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้ว ด้านบนของหน้าจอเป็นโลโก้ BenQ, กล้องหน้าความละเอียด 2 ล้านพิกเซล, ลำโพงสำหรับสนทนาโทรศัพท์ และเซนเซอร์วัดแสงสว่าง ส่วนด้านล่างของหน้าจอจะเป็นปุ่มกด เรียงจากซ้ายไปขวาได้แก่ ปุ่มย้อนกลับ, ปุ่มโฮม และปุ่ม Recent App ครับ

ด้านข้างของ BenQ F5 เริ่มจากทางด้านขวามือ (หันหน้าจอเข้าหาตัว) จะเป็นปุ่มปรับระดับเสียง และช่องสำหรับงัดตอนเปิดฝาหลัง, ด้านบนเป็นช่องเสียบสายหูฟังแบบ 3.5 มิลลิเมตร ปุ่มเปิด-ปิดเครื่อง และไมค์ตัดเสียงรบกวน ส่วนด้านล่างจะเป็นช่องเสียบสาย USB กับไมค์สำหรับใช้สนทนาโทรศัพท์ครับ

มาถึงด้านหลังของ BenQ F5 กันบ้าง วัสดุฝาหลังของ BenQ F5 ใช้เป็นพลาสติกแต่จะมีการเคลือบสารไว้ที่ฝาหลังครับ ทำให้ตัวฝาหลังไม่เก็บรอยนิ้วมือแบบพวก Soft Touch แต่ก็ยังให้ความรู้สึกตอนสัมผัสที่ดีไม่แพ้ Soft Touch เลย ส่วนตัวประทับใจสัมผัสฝาหลังแบบนี้มากครับ อันที่จริง BenQ F5 จะวางขายด้วยกัน 2 สี คือสีขาว และสีดำ แต่เครื่องที่เราได้ลองเล่นและเป็นเครื่องที่พรีวิวให้ชมนั้นเป็นตัวเครื่องสีดำ ซึ่งทาง BenQ ก็ได้แอบใส่ลูกเล่นที่ทำให้ตัวฝาหลังของ BenQ F5 โดดเด่นขึ้นมาโดยการเติมสีแดงลงไปบริเวณขอบของกล้องหลัง และบริเวณลำโพงหลักของตัวเครื่อง ส่งผลให้ฝาหลังของ BenQ F5 ดูโดดเด่นขึ้นมากเลยทีเดียว

ฝาหลังของ BenQ F5 ออกแบบมาให้สามารถถอดฝาหลังได้ แต่ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้นะครับ การถอดฝาหลังทำเพื่อใส่ซิมการ์ดกับใส่ MicroSD Card เท่านั้น

จุดเด่นอีกหนึ่งจุดของ BenQ F5 ก็คงไม่พ้นหน้าจอ IPS ขนาด 5 นิ้่วของมันนี่แหละครับ เป็นหน้าจอที่สื่อและบล็อกเกอร์ในงานลงความเห็นว่า “จอสวยมากครับ” แต่หน้าจอของ BenQ F5 ไม่ได้มีดีแค่สวยอย่างเดียว แต่ยังแคร์สุขภาพของผู้ใช้ด้วย เพราะหน้าจอของ BenQ F5 มาพร้อมกับโหมด Blue Light Protection ที่จะลดการปล่อยแสงสีฟ้าจากหน้าจอได้โดยไม่ต้องง้อฟิล์มกันรอยตัดแสงสีฟ้าเลย โดยโหมด Low Blue Light ของ BenQ F5 จะมีระดับที่แตกต่างกันไปตามลักษณะการใช้งานของผู้ใช้ครับ

ระบบปฏิบัติการที่ BenQ F5 ใช้ก็จะเป็น Android 4.4.2 Kitkat ที่ครอบด้วย UI ของทาง BenQ นิดหน่อย (ในส่วนของไอคอนต่างๆ) แต่ในส่วนของหน้า Setting และ Notification bar จะใช้เป็นไอคอนเดิมๆ จาก Android การใช้งานก็ลื่นไหลดีครับ ไม่ค่อยมีอาการหน่วงให้เห็น (อาจเพราะว่าไม่ได้มีการลงแอพพลิเคชันอะไรมากมายในเครื่อง) แต่เท่าที่ประเมินจาก Spec ของ BenQ F5 แล้ว น่าจะเป็นมือถือที่ตอบโจทย์การใช้งานทั่วไปได้เป็นอย่างดี และน่าจะใช้เล่นเกมได้ด้วย เพราะ CPU ของ BenQ F5 ก็เป็นรุ่นยอดนิยมอย่าง Snapdragon 400 อีกทั้งแรมยังให้มามากถึง 2 GB

ส่วนกล้องหลังของ BenQ F5 ก็ไม่ธรรมดา จัดว่าเป็นกล้องที่ใช้งานง่ายอีกหนึ่งรุ่น เริ่มจากอินเทอร์เฟสของกล้องที่ไม่ซับซ้อน มีความใกล้เคียงกับกล้องติดรอม Android ปกติ ง่ายๆ เลยก็แค่แตะเพื่อโฟกัส จากนั้นก็แค่กดชัตเตอร์ โหมดในการถ่ายภาพมีให้เลือกพอสมควร แต่ก็ถือว่าครอบคลุมการใช้งานได้ดีทีเดียว หลักๆ ก็คงจะเป็นโหมดอัตโนมัติ กับโหมดแสงน้อยนี่แหละครับ

ผมเชื่อว่าหลายคนคงเกิดคำถามว่า แล้วจะหาซื้อ BenQ F5 ได้จากที่ไหน? แล้วการรับประกัน BenQ F5 จะเป็นรูปแบบไหน คำตอบอยู่ตรงนี้แล้วครับ ขอเริ่มในส่วนของการวางขาย BenQ F5 กันก่อน BenQ F5 จะเริ่มวางขายในเดือนหน้า (กันยายน 2014) โดยจะเริ่มวางขายผ่านทาง Lazada ก่อนเป็นที่แรกครับ ส่วนการรับประกันนั้น BenQ F5 จะรับผิดชอบโดย Ingram Micro ซึ่งมีศูนย์บริการหลายแห่งเลยทีเดียว โดยจะแบ่งการรับประกันออกมาดังนี้ครับ

• รับประกันตัวเครื่อง 12 เดือน
• รับประกันแบตเตอรี่ 6 เดือน
• รับประกัน Powerbank 6 เดือน
• เวลาตัวเครื่องมีปัญหาต้องส่งเข้าศูนย์ จะใช้มาตรการเดียวกับ iPhone คือเปลี่ยนเครื่องให้เลยครับ

จากย่อหน้าที่แล้วจะเห็นว่ามีการรับประกัน Powerbank ด้วยใช่ไหมครับ หลายคนคงสงสัยว่ามันจะรับประกัน Powerbank ไปทำไม คำตอบคือ BenQ F5 จะวางขายพร้อมกับ Powerbank และ Flip Case + ฟิล์มกันรอย เรียกว่าจ่ายเงินไป 8,490 บาท นี่ได้ครบทุกอย่าง แทบไม่ต้องเสียเงินซื้ออะไรเพิ่มเลย จัดว่าเป็นมือถือน้องใหม่ (แต่แบรนด์เก่า) อีกหนึ่งรุ่นที่น่าสนใจมากทีเดียว สำหรับ BenQ F5 สมาร์ทโฟน 4G LTE ที่มีราคาถูกที่สุดในบ้านเรา ณ เวลานี้ที่ราคา 8,490 บาท ยังไม่มีมือถือรุ่นไหนให้สเปคคุ้มค่าเท่ากับ BenQ F5 เลยหล่ะครับ เอาแค่รองรับ 4G LTE ก็กินขาดแล้ว ทีนี้ก็ต้องมาดูกันต่อไปว่า BenQ F5 จะสามารถสร้างปรากฏการณ์ได้อย่าง Asus Zenfone หรือไม่